xs
xsm
sm
md
lg

โลมาตายอีก2-เบรกรางวัลPTTGC

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน- ปปช. สั่งเบรก “พีทีทีจีซี”รับรางวัลองค์กรโปร่งใส “ดีดี”อ้างบริษัทมีคุณสมบัติพอ รับผิดชอบปัญหาน้ำมันรั่วเต็มที่ เย้ยควรได้ถึง 2 รางวัลด้วยซ้ำ“โปร่งใส”กับ“โคตรโปร่งใส” ผู้ว่าฯ ระยองแจงปลาตายชายหาดแม่รำพึง ฝีมือชาวประมงจับได้แล้วทิ้ง งง!เจอโลมาตายอีก 2 ตัว “ปชป.”ยุคนเล่นน้ำทะเล ฟ้อง “ปลอด” ด้าน“สธ.”เพิ่งตื่นสั้ง สธ.ระยองสุ่มเก็บตัวอย่างอาหารทะเลหาค่าปนเปื้อน

วานนี้ (15 ส.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่ข่าว” บิ๊ก พีทีทีจีซี งง ป.ป.ช. สั่งเบรกรับรางวัลองค์กรโปร่งใส มั่นใจ บ.มีคุณสมบัติพอ รับผิดชอบปัญหาน้ำมันรั่วเต็มที่ เย้ยควรได้ถึง 2 รางวัลด้วยซ้ำ “โปร่งใส” กับ “โคตรโปร่งใส”

จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สั่งชะลอการมอบรางวัลชมเชยองค์กรโปร่งใสประจำปี 2555 ให้กับบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เพื่อรอฟังผลการสอบสวนกรณีน้ำมันดิบรั่วไหล ในทะเลระยอง นั้น

นายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศรา ว่า ตนเองไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมถึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เพราะมั่นใจว่าองค์กรของตนโปร่งใสและมีความรับผิดชอบ อีกทั้งการแถลงข้อเท็จจริงก็ยืนยันกับสังคมแล้วว่าโปร่งใสมากเพียงใด

“การแถลงข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา คือ สิ่งที่ยืนยันว่าเราโปร่งใส เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่เข้าใจ ป.ป.ช. เหตุผลของเขาคืออะไร จริงๆ แล้วควรจะให้รางวัลเรา 2 รางวัลด้วยซ้ำคือโปร่งใสกับโคตรโปร่งใส” นายบวรกล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเห็นอย่างไร ที่ ป.ป.ช. ระบุเหตุผลว่าชะลอการมอบรางวัลครั้งนี้ เนื่องจากต้องการให้ผลการสอบสวนกรณีน้ำมันรั่วเสร็จสมบูรณ์เสียก่อน แม้ พีทีทีจีซีไม่ได้ทำผิดหลักเกณฑ์ของความเป็นองค์กรโปร่งใสที่มีอยู่ 7 ประการ

นายบวร ตอบว่า “เรื่องความรับผิดชอบ เรากล่าวตั้งแต่แรกๆ แล้ว วันคลีนนิ่ง เราก็ชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้ที่ได้รับผล กระทบไป 400 กว่าราย มันมีอะไรที่เรายังไม่ได้ทำอีก”

นายบวร ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า “จริงๆ แล้วการจะได้รางวัลหรือไม่ ไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะไม่ว่าอย่างไร สิ่งที่พีทีทีจีซีปฏิบัติมาเสมอก็คือความโปร่งใสและมีความรับผิดชอบต่อสังคม แม้ในกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่ว พีทีทีจีซีก็รับผิดชอบทุกอย่างและเคารพต่อสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่"

อีดด้านมีรายงานว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี สุ่มเก็บตัวอย่างอาหารทะเล ได้แก่ กุ้ง ปู หอยและปลา เป็นครั้งที่ 2 หลังจากเกิดเหตุ น้ำมันดิบรั่วไหล เข้าสู่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด โดยเน้นสุ่มตรวจ สัตว์ทะเลที่จับจากประมงพื้นบ้าน 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มประมงพื้นบ้านท่าเรือสวนสน กลุ่มประมงพื้นบ้านศาลาเขียว และกลุ่มประมงพื้นบ้านนวลทิพย์ เพื่อตรวจวิเคราะห์สารปนเปื้อนในอาหารทะเล 5รายการ ได้แก่ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน หรือสารพีเอเอช (PAH) สารโลหะหนัก 4 รายการ ได้แก่ ปรอท แคดเมียม ตะกั่ว และสารหนู ซึ่ง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2556 ได้เก็บตรวจไปแล้ว ผลการตรวจทุกรายการมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนในครั้งนี้ จะทราบผลการตรวจในระยะ 3-5 วัน และจะเก็บตรวจอีกเมื่อครบ 1 เดือน 2 เดือน ตามที่กำหนดไว้

วันเดียวกันเวลา 10.30 น. ที่ชายหาดแม่รำพึง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางรัตนา มั่นประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นายอำเภอเมือง นายทวีป แสงกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ตะพง และนายสมสุข โกสิต เจ้าของเรือประมง ร่วมแถลงข่าวกรณีที่พบปลาตายเบริเวณชายหาดแม่รำพึง ซึ่งเบื้องต้นหวั่นวิตกว่าสาเหตุอาจจะมาจากท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที จีซี. จำกัด(มหาชน) รั่วกลางทะเลนั้น

นายวิชิต กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วเป็นปลาแป้นที่ชาวประมงปลดทิ้งจากอวนครอบของเรือไดหมึกชื่อโชคณัฐวุฒิ ของนายครรชิต ชูเชิด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะทำการประมงอยู่บริเวณปะการังเทียม หน้าปากน้ำระยอง โดยมีปลาแป้นที่ปลดทิ้งประมาณ 200 กิโลกรัม เนื่องจากเป็นเรือครอบหมึก ประกอบกับมีพายุฝน คลื่นลมแรง ทั้งยังเป็นเรือเล็ก ทำประมงคนเดียว ไม่สามารถยกปลาแป้นจำนวนมากขึ้นเรือได้ จึงตัดสินใจปลดอวนทิ้งปลาแป้นไป แล้วนำเรือที่จับหมึกได้ 10 กิโลกรัมกลับเข้าฝั่ง
นายวิชิต กล่าวว่า ต่อมาเวลา 09.00 น. วันที่ 14 สิงหาคมนายสมสุข โกสิต เจ้าของเรืออวนล้อมที่อยู่ใกล้เคียง ได้พบซากปลาแป้นลอยอยู่ใกล้เคียงกับพิกัดหน้าโรงงานไออาร์พีซี กระแสน้ำพัดเข้าหาฝั่งหาดแม่รำพึง ซากปลาแป้นส่วนใหญ่จึงถูกซัดเข้าหาดแม่รำพึง อย่างไรก็ตามการทิ้งปลาแป้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากราคาถูก ทำอาหารสัตว์ได้อย่างเดียว ไม่นิยมบริโภค เพราะเนื้อน้อยแต่ก้างเยอะ

กรณีนี้จึงไม่เกี่ยวกับท่อน้ำมันดิบแตกแต่อย่างใด แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจ จึงขอให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นำซากปลาแป้นไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้ง ว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งพบซากโลมาที่ชายหาด ด้านหลังบ้านพักชมคลื่น หมู่ 3 ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่ว ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าซากโลมาถูกใส่ไว้ในถุงดำฝังไว้ที่ชายหาด สภาพเน่าเปื่อยเพราะตายมาแล้วหลายวัน

นายสวาท ยาจิตร์ อายุ 73 ปี คนสวนบ้านพักชมคลื่น กล่าวว่า พบซากโลมาเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นจนผู้มาใช้บริการไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เและเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน จึงนำซากใส่ถุงดำแล้วฝังกลบไว้ที่ชายหาดใกล้บ้านพัก จนกระทั่งมีคนมาพบ

ด้านนายเฉลิมชัย ประกอบเกื้อ อายุ 37 ปี กลุ่มประมงปากคลองแกลง กล่าวว่า ชายหาดแถบนี้มีคราบน้ำมันลักษณะเป็นเม็ดสีดำคล้ายยางมะตอย เกลื่อนชายหาดตั้งแต่ปากคลองแกลง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม โดยเทศบาลตำบลเมืองแกลง ใช้รถไถมาทำความสะอาด แต่เมื่อน้ำทะเลขึ้นก็จะเห็นสีดำเต็มชายหาด ขณะเดียวกันฟองคลื่นเป็นสีเหลืองอ่อน บริเวณชายหาดมีกระดองหมึกอันเล็กเกลื่อนชายหาด ไม่ทราบว่าหมึกกระดองตายเพราะสาเหตุใด ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแล

นางลำใย บำรุงสุข อายุ 56 ปี เจ้าของเรือประมงต.ชากพง อ.แกลง ชกล่าวว่า หลังมีข่าวคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าว เรือออกหาปลามาได้แต่ขายไม่ได้ เคยที่หามาได้เอาไปทำกะปิขายคนซื้อก็ถามว่าเหม็นน้ำมันหรือเปล่า ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฝูงเคยเข้าชายฝั่งจำนวนมาก เมื่อในทะเลมีคราบน้ำมัน ส่งผลทำให้ฝูงเคยหนีไปที่อื่นหมด ไม่เข้าในว่าทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์ช่วงที่กำลังหาเคยมาทำกะปิด้วย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเดินทางกลับมาถึงบริเวณชายหาดแม่รำพึง ตรงข้ามไวท์สโตน รีสอร์ท หมู่ 1 ต.เพ อ.เมือง พบชาวบ้านกำลังมุงดูบริเวณชายหาด จึงลงไปดูพบโลมาตายเกยชายหาดส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว

นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า วันที่ 13 สิงหาคม เต่าตนุเพศผู้อายุ 20 ปี ตายเกยหาดสวนสน ต.เพ อ.เมือง วันที่ 14 สิงหาคม ฝูง

ที่รัฐสภา นายชวนนท์ อินทรมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตำหนิกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและคนในรัฐบาลว่า ไม่มีความจริงใจที่จะแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม จากกรณีน้ำมันดิบรั่วที่อ่าวพร้าว โดยเฉพาะนายปลอดประสพ ที่ถอดเสื้อว่ายน้ำโชว์ เพื่อให้เห็นว่าไม่เป็นอันตราย แต่กรมควบคุมมลพิษและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยผลตรวจสอบว่า มีค่าสารปรอทเกินมาตรา 29 เท่า เชื่อว่าคงมีเด็กและผู้ปกครองหลงเชื่อว่ายน้ำตามที่นายปลอดประสพบอกว่าไม่มีปัญหา

"ถามว่าวันนี้รัฐบาลจะรับผิดชอบอย่างไร จะให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบฟ้องนายปลอดประสพได้หรือไม่ แทนที่จะแจ้งเตือนประชาชนว่าควรงดเล่นน้ำในช่วงนี้ก่อน กลับมาใช้การตลาดสร้างภาพ ดังนั้น กรณีนี้นายปลอดประสพต้องรับผิดชอบ หากใครมีปัญหาสามารถมาปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรคได้ พร้อมจะให้คำแนะนำการฟ้องร้องดำเนินคดี". นายชวนนท์ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น