ระยอง - ผู้ว่าฯ แจงกรณีปลาตายที่ชายหาดแม่รำพึง ที่แท้เป็นวิถีชีวิตของชาวประมงจับปลาชนิดนี้ได้แล้วทิ้ง จนถูกคลื่นพัดเข้าสู่ชายฝั่ง เผยเจอซากโลมาตายเกยหาดอีก 2 ตัว
เวลา 10.30 น. วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ชายหาดแม่รำพึง นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นางรัตนา มั่นประสิทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นายนิพนธ์ เลิศศรีสุวัฒนา นายอำเภอเมือง นายทวีป แสงกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตะพง และนายสมสุข โกสิต เจ้าของเรือประมง ร่วมแถลงข่าวกรณีที่พบปลาตายบริเวณชายหาดแม่รำพึง ซึ่งเบื้องต้นหวั่นวิตกว่าสาเหตุอาจจะมาจากท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที จีซี จำกัด (มหาชน) รั่วกลางทะเลนั้น
นายวิชิต กล่าวว่า ตรวจสอบแล้วเป็นปลาแป้นที่ชาวประมงปลดทิ้งจากอวนครอบของเรือไดหมึกกลางทะเล โดยเรือโชคณัฐวุฒิ ของนายครรชิต ชูเชิด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะทำการประมงอยู่บริเวณปะการังเทียม หน้าปากน้ำระยอง ก่อนถึงหาดแม่รำพึง โดยมีปลาแป้นที่ปลดทิ้งประมาณ 200 กิโลกรัม เนื่องจากขณะเป็นเรือครอบหมึก ประกอบกับมีพายุฝน คลื่นลมแรง ทั้งยังเป็นเรือประมงขนาดเล็กทำการประมงคนเดียว ไม่สามารถยกปลาแป้นจำนวนมากขึ้นเรือได้ จึงตัดสินใจปลดอวนทิ้งปลาแป้นไป แล้วนำเรือที่จับหมึกได้ 10 กิโลกรัมกลับเข้าฝั่ง
นายวิชิต กล่าวว่า ต่อมา เวลา 09.00 น. วันที่ 14 สิงหาคม นายสมสุข โกสิต เจ้าของเรืออวนล้อมที่อยู่ใกล้เคียงได้พบซากปลาแป้นลอยอยู่ใกล้เคียงกับพิกัดหน้าโรงงานไออาร์พีซี กระแสน้ำพัดเข้าหาฝั่งหาดแม่รำพึง ซากปลาแป้นส่วนใหญ่จึงถูกซัดเข้าหาดแม่รำพึง อย่างไรก็ตาม การทิ้งปลาแป้นเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากราคาถูก ทำอาหารสัตว์ได้อย่างเดียว ไม่นิยมบริโภคเพราะเนื้อน้อยแต่ก้างเยอะ
กรณีนี้จึงไม่เกี่ยวกับท่อน้ำมันดิบแตกแต่อย่างใด แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจจึงขอให้ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก นำซากปลาแป้นไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้งว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรับแจ้งพบซากโลมาที่ชายหาดด้านหลังบ้านพักชมคลื่น หมู่ 3 ต.ซากพง อ.แกลง จ.ระยอง ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมันรั่ว ซึ่งากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าซากโลมาถูกใส่ไว้ในถุงดำฝังไว้ที่ชายหาด สภาพเน่าเปื่อยเพราะตายมาแล้วหลายวัน
นายสวาท ยาจิตร์ อายุ 73 ปี คนสวนบ้านพักชมคลื่นกล่าวว่า พบซากโลมาเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 10 สิงหาคม ซึ่งส่งกลิ่นเหม็นจนผู้มาใช้บริการไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ และเนื่องจากเป็นเวลากลางคืนจึงนำซากใส่ถุงดำแล้วฝังกลบไว้ที่ชายหาดใกล้บ้านพัก จนกระทั่งมีคนมาพบ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 จ.ระยอง ได้มาตรวจสอบแต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันออก ตรวจสอบ และให้รายละเอียด
ด้านนายเฉลิมชัย ประกอบเกื้อ อายุ 37 ปี กลุ่มประมงปากคลองแกลง กล่าวว่า ชายหาดแถบนี้มีคราบน้ำมันลักษณะเป็นเม็ดสีดำคล้ายยางมะตอยเกลื่อนชายหาดตั้งแต่ปากคลองแกลง ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม โดยเทศบาลตำบลเมืองแกลง ใช้รถไถมาทำความสะอาด แต่เมื่อน้ำทะเลขึ้นก็จะเห็นสีดำเต็มชายหาด ขณะเดียวกัน ฟองคลื่นเป็นสีเหลืองอ่อน บริเวณชายหาดมีกระดองหมึกอันเล็กเกลื่อนชายหาด ไม่ทราบว่าหมึกกระดองตายเพราะสาเหตุใด ซึ่งยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดูแล
นางลำใย บำรุงสุข อายุ 56 ปี เจ้าของเรือประมง ต.ชากพง อ.แกลง กล่าวว่า หลังมีข่าวคราบน้ำมันที่อ่าวพร้าว เรือออกหาปลามาได้แต่ขายไม่ได้ เคยที่หามาได้เอาไปทำกะปิขายคนซื้อก็ถามว่าเหม็นน้ำมันหรือเปล่า ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฝูงเคยเข้าชายฝั่งจำนวนมาก เมื่อในทะเลมีคราบน้ำมัน ส่งผลทำให้ฝูงเคยหนีไปที่อื่นหมด ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาเกิดเหตุการณ์ช่วงที่กำลังหาเคยมาทำกะปิด้วย
ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังเดินทางกลับมาถึงบริเวณชายหาดแม่รำพึง ตรงข้ามไวท์สโตน รีสอร์ท หมู่ 1 ต.เพ อ.เมือง พบชาวบ้านกำลังมุงดูบริเวณชายหาด จึงลงไปดูพบโลมาตายเกยชายหาดส่งกลิ่นเหม็นเน่าไปทั่ว
นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า วันที่ 13 สิงหาคม เต่าตนุเพศผู้ อายุ 20 ปี ตายเกยหาดสวนสน ต.เพ อ.เมือง วันที่ 14 สิงหาคม ฝูงปลาแป้นตายเกลื่อนหาดแม่รำพึง ต.ตะพง อ.เมือง วันที่ 15 สิงหาคม มีโลมาตายเกยชายหาดแม่รำพึง หมู่ 1 ต.เพ อ.เมือง และพบซากโลมาตาย ที่หมู่ 3 ต.ชากพง อ.แกลง เป็นสัญญาณที่บอกว่าทรัพยากรหน้าดินเริ่มมีปัญหา ระบบห่วงโซ่อาหารเริ่มจะมีผลกระทบ และยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาแก้ไขปัญหา ทางสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง ได้ประสานกลุ่มประมง และเครือข่ายทั่วประเทศซึ่งพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่