พิษคราบน้ำมันส่งผลกระทบกลุ่มประมง แม่ค้าอาหารทะเลและเรือโดยสาร ขณะที่รัฐบาลช่วย ปตท.เต็มกำลัง สธ.เผยผลการตรวจตัวอย่างอาหารทะเลที่บ้านเพและตำบลแกลงไม่พบปนเปื้อนสารปรอทและสารพีเอเอช ยังรอผลตรวจโลหะหนักอีก 3 รายการคือ ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู จะทราบผลทั้งหมดสัปดาห์หน้า ส่วน รมว.ทรัพย์เปิบปูม้าโชว์ไม่มีคราบน้ำมันปนเปื้อน แก้ภาพลักษณ์อาหารทะเลเสียหาย ปตท.แบ่ง 4 กลุ่มเยียวยา 1.รีสอร์ทและที่พัก 2.ร้านค้าและร้านอาหาร 3.เอสเอ็มอี 4.ชาวบ้าน ล่าสุดได้มีการยื่นของรับการเยียวยาแล้วกว่า 500 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีท่อน้ำมันดิบฯรั่วที่ระยอง ที่บริเวณท่าเทียบเรือนวลทิพย์ ร้านค้าบริเวณท่าเรือ ผู้ประกอบการเรือโดยสารข้ามเกาะเสม็ด ร้านขายของฝาก และที่น่าเป็นห่วงคือที่แผงขายอาหารทะเลสวนสน และตลาดสดบ้านเพ บรรยากาศเงียบเหงา นักท่องเที่ยวเบาบาง
นายอรุณ รุ่งหิรัญ ผู้จัดการท่าเรือนวลทิพย์ ต.เพ อ.เมืองระยอง กล่าวว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกาะเสม็ดน้อยมาก บรรยากาศเงียบเหงากว่าวันธรรมดา ปกติเรือโดยสารข้ามไปเกาะเสม็ดจะวิ่งวันละ 10 - 12 เที่ยว มีกรุ๊ปทัวร์วันละ 7 - 8 กรุ๊ป วันอาทิตย์นี้ตั้งแต่เช้ามาถึงช่วงบ่ายมีมาเพียง 2 กรุ๊ปเป็นชาวไต้หวันเท่านั้น เรือวิ่งได้เพียง 5 เที่ยว เสาร์อาทิตย์นี้แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็มีน้อยมากโดยเฉพาะกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนหายหมด ขณะนี้ได้ทำหนังสือรับรองไปเมืองจีนแล้วว่าเกาะเสม็ดไม่มีผลกระทบคราบน้ำมันแล้ว ก็ต้องรอดูว่าอาทิตย์หน้ากรุ๊ปทัวร์จะกลับมาเที่ยวเกาะเสม็ดคึกคักเหมือนเดิมหรือไม่ก็ต้องวัดกันละ สังเกตดูบริเวณลานจอดรถทัวร์ปกติจะมีรถทัวร์จอดเต็มไปหมด แต่อาทิตย์นี้ไม่มีรถทัวร์มาจอดเลย ร้านค้าบริเวณท่าเรือก็เงียบเหงา แม้แต่ร้านขายของฝากบริเวณลานจอดรถก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อ
นางสิริรัตน์ จีระสุข แม่ค้าขายอาหารทะเล ร้านสมลักษณ์ ซีฟูด ตลาดสดบ้านเพ กล่าวว่าช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์สัปดาห์นี้ขายไม่ดีเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้ออาหารทะเล มีแต่คนในพื้นบ้านที่มาซื้ออาหารทะเลไปรับประทาน สาเหตุจากการเสนอข่าวคราบน้ำมันทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าซื้ออาหารทะเลไปรับประทาน ตนพยายามชี้แจงแล้วว่าอาหารทะเลเช่น ปูม้า กุ้ง หอย ปลาหมึก รับซื้อมาจากเรือประมงขนาดใหญ่แถบ จ.ตราด มาขาย ปกติวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวมาเดินซื้ออาหารทะเล แต่อาทิตย์นี้แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ทำให้การขายลดลงเกือบครึ่ง สถานที่พักโรงแรมชื่อดังในแถบบ้านกร่ำ อ.แกลง ที่เคยสั่งอาหารทะเลสด สั่งลดปริมาณอาหารทะเล โดยเฉพาะปูม้า กุ้ง หอยและหมึก เกือบครึ่งและยังย้ำให้หาซื้ออาหารทะเลแถบจังหวัดตราด พวกกุ้ง หอย ปูม้าและปลาหมึกแถบหน้าด่านบริเวณเกาะเสม็ดสั่งงดเด็ดขาด ไปที่แผงขายอาหารทะเลสด สวนสน ต.แกลง อ.เมืองระยอง ปรากฏว่าพวก กุ้ง หอย ปู ปลาขายหมดแล้ว
บรรดาแม่ค้ากล่าวว่าวันนี้เรือออกไปวางอวนปูม้ากลับมาคราวนี้ได้เพียง 5 - 6 กก.เท่านั้น บางวันได้ 10 กก.ขึ้นไป ไม่เกี่ยวเรื่องคราบน้ำมัน วันเสาร์อาทิตย์นี้เงียบเหงามากไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเดินซื้ออาหารทะเลมีก็น้อยมาก มีแต่ชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นขนาดขายลดราคายังไม่ซื้อ ขายถูกเพื่อให้หมดไปวันๆ มีแต่มาสอบถามว่าปูม้าเหม็นน้ำมันหรือเปล่า บอกว่าไม่มีน้ำมันก็ไม่เชื่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มประมงพื้นบ้านสวนสนอย่างมาก
***สธ.ยันไม่พบอาหารปนเปื้อนสารปรอท
วานนี้ (4 ส.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชน จากปัญหาน้ำมันดิบไหลลงทะเลที่จังหวัดระยองว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ประชุมผู้เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกับบริษัทปตท. เพื่อวางแผนเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ และผู้เสี่ยงสัมผัสกับสารที่อยู่ในน้ำมันดิบ การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมทั้งในอาหารทะเล น้ำบริโภคทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างรัดกุม ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเต็มที่
นพ.ประดิษฐกล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างอาหารทะเลประเภทหอย แมลงภู่สด ปลาสด จำนวน 8 ตัวอย่างจากตลาดเพ และตำบลแกลง ส่งตรวจหาสารโพลีไซคลิคอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน หรือสารพีเอเอช (PAH: Polycyclic Aromatic Hydrocarbon) และโลหะปนเปื้อน 4 รายการ ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู ขณะนี้ทราบผล 2 รายการ คือ 1.สารพีเอเอช ไม่พบทุกตัวอย่าง 2. สารปรอท ไม่พบในหอย ส่วนในปลาพบระหว่าง 0.019-0.203 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 98 พ.ศ.2529 ที่กำหนดให้อาหารทะเลมีปริมาณปรอทได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สารปรอทที่ตรวจพบในปลาทะเลนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากสามารถพบได้ในธรรมชาติและปนเปื้อนในอาหารได้อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลก็ตาม ส่วนที่เหลืออีก 3 รายการคือ ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู รวมทั้งน้ำบริโภคอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะทราบผลทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับผลการเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะสารอนุพันธ์ของเบนซีน หรือสารที-ที มิวโคนิก แอซิด ในปัสสาวะ (t-t muconic acid in urine) ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ปฏิบัติงานเก็บ ทำลายคราบน้ำมันดิบทุกคน ประชาชนในพื้นที่ และบุคคลอื่นๆ เช่น สื่อมวลชน อาสาสมัคร ผู้บริหาร ที่เข้าไปในพื้นที่อ่าวพร้าว ขณะนี้ได้เก็บปัสสาวะตรวจแล้ว 1,522 คน ทราบผลแล้ว 252 คน พบว่าค่าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดทุกตัวอย่าง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียน วางแผนติดตามตรวจสุขภาพต่อเนื่องในอีก 1 ปี และทุก 5 ปีทุกราย และหากรายใดที่มีค่าเกินค่ามาตรฐาน ก็จะตรวจเลือด วิเคราะห์การทำงานของตับไตต่อไป
"ผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งมีหน่วยปฐมพยาบาล ปฎิบัติงานดูแลที่อ่าวพร้าวต่อเนื่องทุกวัน จนถึงวันนี้ ให้บริการตรวจรักษารวม 414 ราย พบอาการที่เกี่ยวข้องกับสารเบนซีน เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคอ ผื่นคัน รวม 190 ราย ส่วนด้านสุขภาพจิตพบบางส่วนมีความวิตกกังวล นอนไม่หลับบ้าง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปหลังเหตุการณ์ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ และอสม. เฝ้าระวังดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป 2 สัปดาห์" นพ.ประดิษฐกล่าว
***รมว.ทรัพย์เปิบปูม้าโชว์สื่อ
วันเดียวกัน ที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ต.เพ อ.เมืองระยอง นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและคณะ ได้มาพักรับประทานอาหารก่อนเดินทางข้ามไปเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง โดยมีนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 พร้อมข้าราชการให้การต้อนรับ
โดยบนโต๊ะอาหารเป็นเมนูพิเศษคือ ปูม้า เป็นอาหารทะเลที่กำลังส่งผลกระทบต่อกลุ่มประมงพื้นบ้าน และแม่ค้าอาหารทะเลสวนสน และตลาดสดบ้านเพอย่างรุนแรง นักท่องเที่ยวไม่กล้าซื้อกิน รวมทั้งกรุ๊ปทัวร์ก็งดสั่งอาหารทะเล
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพย์ นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ได้แกะปูม้ารับประทานโชว์ผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวว่า ภาพจะได้ออกไปทั่วโลก ที่ผ่านมาข่าวทีวีก็ยังไม่ได้แก้เรื่องภาพปูม้าปนเปื้อนคราบน้ำมัน วันนี้จึงต้องกินปูม้าโชว์ว่าไม่มีสารพิษแต่อย่างใด เป็นการลบภาพเรื่องอาหารทะเลที่ตกเป็นข่าว จนส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวไม่กล้ารับประทานอาหารทะเล วันนี้ได้ทดลองกินปูม้าให้ดูว่าไม่มีสารพิษแต่อย่างใด
****ปตท.แบ่งกลุ่มชาวระยองเยียวยา
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจัดการเหตุฉุกเฉินและภาวะวิกฤต กลุ่ม ปตท. เปิดเผยความคืบหน้าการทำความสะอาดชายหาด และฟื้นฟูเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการ ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกาะเสม็ด โดยล่าสุดสภาพชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด มีสภาพที่สะอาดใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยพยายามขนย้ายถุงบรรจุคราบน้ำมันออกจากอ่าวพร้าวให้หมดภายในวันนี้
ทั้งนี้ ได้ลำเลียงถุงบรรจุคราบน้ำมันไปรวมไว้ที่โรงกลั่นน้ำมันเพื่อรอการตรวจสอบ แยกประเภทและส่งกำจัดตามมาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดไว้ตามกฎหมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส่วนการทำความสะอาดคราบน้ำมันบริเวณก้อนหินต่างๆ ได้ใช้วิธีฉีดน้ำแรงดันสูงอย่างระมัดระวัง และเช็ดคราบสกปรก เพื่อให้ชายหาดกลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังคงมีมาตรการเฝ้าระวัง ติดตามและกำจัดฟิล์มน้ำมันที่อาจหลงเหลือถูกพัดมากับคลื่นเข้าสู่ชายหาดให้หมดไป
สำหรับการฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะเสม็ดนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมประชุมกับผู้ประกอบการ เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการฟื้นฟูเยียวยา โดยกำหนดคณะกรรมการรับผิดชอบแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย กลุ่มรีสอร์ทและที่พัก กลุ่มร้านค้าและร้านอาหาร กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และ กลุ่มชุมชนชาวบ้าน โดยก่อนหน้านี้ กลุ่ม ปตท. ได้จัดส่งทีมชุมชนสัมพันธ์เข้าพบชุมชนในพื้นที่รอบเกาะเสม็ดครบถ้วนทั้งหมดแล้ว เพื่อแสดงความเสียใจและน้อมรับฟังผลกระทบที่ชุมชนได้รับ และนำข้อมูลมาประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูเยียวยาอย่างบูรณาการร่วมกับจังหวัดและประชาชนในท้องที่ต่อไป
ด้านนายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดเก็บคราบน้ำมันอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า ในเช้าวันนี้ (5 ส.ค.) คาดว่าจะลำเลียงบิ๊กแบ็กที่เก็บคราบน้ำมันปนเปื้อนออกจากพื้นที่อ่าวพร้าวได้ทั้งหมด หลังจากดีเลย์มาจากปัญหาน้ำทะเลที่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็วทำให้ลำบากต่อการขนย้าย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็จะทำการฟื้นฟูทรายหาดและโขดหินให้กับมาสะอาดดังเดิมซึ่งจะใช้เวลาระยะหนึ่ง
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้ ล่าสุดได้มีการยื่นของรับการเยียวยาแล้วกว่า 500 ราย คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้รับจำนวนผู้ได้รับความเดือดร้อนที่แท้จริง ส่วนมูลค่าความเสียหายจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้
**เจ้าท่ายันคราบฯ ไม่มาถึงทะเลพัทยา
นายเรวัต โพธิ์เรียง หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาพัทยา เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวคราบน้ำมันที่เกาะเสม็ด อาจทำให้เกิดความหวั่นวิตกในหมู่ประชาชน และนักท่องเที่ยวถึงความไม่มั่นใจเพราะเกรงว่าคราบน้ำมันจะส่งผลกระทบมาถึงทะเลพัทยาได้นั้น ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบน่านน้ำตั้งแต่ทะเลชลบุรี ทะเลพัทยา ถึงทะเลสัตหีบ ได้มีการประสานงานติดต่อข้อมูลข่าวสารร่วมกับส่วนกลางอย่างต่อเนื่อง และติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด จึงอยากให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนก และอุ่นใจได้ว่า จะไม่มีคราบน้ำมัน หรือผลกระทบใดๆ ในเขตน่านน้ำทะเลพัทยาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วลงทะเลจนเป็นข่าวครึกโครม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้บูรณาการแผนการทำงานร่วมกันในส่วนของสำนักงานภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงมั่นใจว่าจะไม่มีคราบน้ำมันลอยมาถึงเขตน่านน้ำทะเลพัทยา เพราะกระแสลมจะไม่พัดผ่านมาทางนี้ จึงอยากสร้างความมั่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่จะตัดสินใจมาพักผ่อนท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้มีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เมืองพัทยาจึงประสานความร่วมมือกับกรมเจ้าท่าอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ หากมีความช่วยเหลืออะไรที่เมืองพัทยาสามารถพอจะช่วยในส่วนของการกำจัดคราบน้ำมันที่เกาะเสม็ด หากได้รับการประสานงานร้องขอทั้งกำลังคน และเครื่องมือ เมืองพัทยาก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังด้วยเช่นกัน.
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีท่อน้ำมันดิบฯรั่วที่ระยอง ที่บริเวณท่าเทียบเรือนวลทิพย์ ร้านค้าบริเวณท่าเรือ ผู้ประกอบการเรือโดยสารข้ามเกาะเสม็ด ร้านขายของฝาก และที่น่าเป็นห่วงคือที่แผงขายอาหารทะเลสวนสน และตลาดสดบ้านเพ บรรยากาศเงียบเหงา นักท่องเที่ยวเบาบาง
นายอรุณ รุ่งหิรัญ ผู้จัดการท่าเรือนวลทิพย์ ต.เพ อ.เมืองระยอง กล่าวว่าวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเกาะเสม็ดน้อยมาก บรรยากาศเงียบเหงากว่าวันธรรมดา ปกติเรือโดยสารข้ามไปเกาะเสม็ดจะวิ่งวันละ 10 - 12 เที่ยว มีกรุ๊ปทัวร์วันละ 7 - 8 กรุ๊ป วันอาทิตย์นี้ตั้งแต่เช้ามาถึงช่วงบ่ายมีมาเพียง 2 กรุ๊ปเป็นชาวไต้หวันเท่านั้น เรือวิ่งได้เพียง 5 เที่ยว เสาร์อาทิตย์นี้แม้แต่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็มีน้อยมากโดยเฉพาะกลุ่มทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนหายหมด ขณะนี้ได้ทำหนังสือรับรองไปเมืองจีนแล้วว่าเกาะเสม็ดไม่มีผลกระทบคราบน้ำมันแล้ว ก็ต้องรอดูว่าอาทิตย์หน้ากรุ๊ปทัวร์จะกลับมาเที่ยวเกาะเสม็ดคึกคักเหมือนเดิมหรือไม่ก็ต้องวัดกันละ สังเกตดูบริเวณลานจอดรถทัวร์ปกติจะมีรถทัวร์จอดเต็มไปหมด แต่อาทิตย์นี้ไม่มีรถทัวร์มาจอดเลย ร้านค้าบริเวณท่าเรือก็เงียบเหงา แม้แต่ร้านขายของฝากบริเวณลานจอดรถก็ไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้อ
นางสิริรัตน์ จีระสุข แม่ค้าขายอาหารทะเล ร้านสมลักษณ์ ซีฟูด ตลาดสดบ้านเพ กล่าวว่าช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์สัปดาห์นี้ขายไม่ดีเนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวมาซื้ออาหารทะเล มีแต่คนในพื้นบ้านที่มาซื้ออาหารทะเลไปรับประทาน สาเหตุจากการเสนอข่าวคราบน้ำมันทำให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าซื้ออาหารทะเลไปรับประทาน ตนพยายามชี้แจงแล้วว่าอาหารทะเลเช่น ปูม้า กุ้ง หอย ปลาหมึก รับซื้อมาจากเรือประมงขนาดใหญ่แถบ จ.ตราด มาขาย ปกติวันหยุดจะมีนักท่องเที่ยวมาเดินซื้ออาหารทะเล แต่อาทิตย์นี้แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ทำให้การขายลดลงเกือบครึ่ง สถานที่พักโรงแรมชื่อดังในแถบบ้านกร่ำ อ.แกลง ที่เคยสั่งอาหารทะเลสด สั่งลดปริมาณอาหารทะเล โดยเฉพาะปูม้า กุ้ง หอยและหมึก เกือบครึ่งและยังย้ำให้หาซื้ออาหารทะเลแถบจังหวัดตราด พวกกุ้ง หอย ปูม้าและปลาหมึกแถบหน้าด่านบริเวณเกาะเสม็ดสั่งงดเด็ดขาด ไปที่แผงขายอาหารทะเลสด สวนสน ต.แกลง อ.เมืองระยอง ปรากฏว่าพวก กุ้ง หอย ปู ปลาขายหมดแล้ว
บรรดาแม่ค้ากล่าวว่าวันนี้เรือออกไปวางอวนปูม้ากลับมาคราวนี้ได้เพียง 5 - 6 กก.เท่านั้น บางวันได้ 10 กก.ขึ้นไป ไม่เกี่ยวเรื่องคราบน้ำมัน วันเสาร์อาทิตย์นี้เงียบเหงามากไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเดินซื้ออาหารทะเลมีก็น้อยมาก มีแต่ชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้นขนาดขายลดราคายังไม่ซื้อ ขายถูกเพื่อให้หมดไปวันๆ มีแต่มาสอบถามว่าปูม้าเหม็นน้ำมันหรือเปล่า บอกว่าไม่มีน้ำมันก็ไม่เชื่อก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ยอมรับว่ามีผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มประมงพื้นบ้านสวนสนอย่างมาก
***สธ.ยันไม่พบอาหารปนเปื้อนสารปรอท
วานนี้ (4 ส.ค.) นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชน จากปัญหาน้ำมันดิบไหลลงทะเลที่จังหวัดระยองว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดระยอง ประชุมผู้เกี่ยวข้องด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกับบริษัทปตท. เพื่อวางแผนเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ และผู้เสี่ยงสัมผัสกับสารที่อยู่ในน้ำมันดิบ การปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมทั้งในอาหารทะเล น้ำบริโภคทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวอย่างรัดกุม ดูแลความปลอดภัยแก่ประชาชนอย่างเต็มที่
นพ.ประดิษฐกล่าวว่า จากการเก็บตัวอย่างอาหารทะเลประเภทหอย แมลงภู่สด ปลาสด จำนวน 8 ตัวอย่างจากตลาดเพ และตำบลแกลง ส่งตรวจหาสารโพลีไซคลิคอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน หรือสารพีเอเอช (PAH: Polycyclic Aromatic Hydrocarbon) และโลหะปนเปื้อน 4 รายการ ได้แก่ สารปรอท ตะกั่ว แคดเมียม และสารหนู ขณะนี้ทราบผล 2 รายการ คือ 1.สารพีเอเอช ไม่พบทุกตัวอย่าง 2. สารปรอท ไม่พบในหอย ส่วนในปลาพบระหว่าง 0.019-0.203 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ไม่เกินมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 98 พ.ศ.2529 ที่กำหนดให้อาหารทะเลมีปริมาณปรอทได้ไม่เกิน 0.5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม สารปรอทที่ตรวจพบในปลาทะเลนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากสามารถพบได้ในธรรมชาติและปนเปื้อนในอาหารได้อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วลงทะเลก็ตาม ส่วนที่เหลืออีก 3 รายการคือ ตะกั่ว แคดเมียม สารหนู รวมทั้งน้ำบริโภคอยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าจะทราบผลทั้งหมดภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับผลการเฝ้าระวังการสัมผัสสารเคมีเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะสารอนุพันธ์ของเบนซีน หรือสารที-ที มิวโคนิก แอซิด ในปัสสาวะ (t-t muconic acid in urine) ในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยง เช่น ผู้ปฏิบัติงานเก็บ ทำลายคราบน้ำมันดิบทุกคน ประชาชนในพื้นที่ และบุคคลอื่นๆ เช่น สื่อมวลชน อาสาสมัคร ผู้บริหาร ที่เข้าไปในพื้นที่อ่าวพร้าว ขณะนี้ได้เก็บปัสสาวะตรวจแล้ว 1,522 คน ทราบผลแล้ว 252 คน พบว่าค่าไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนดทุกตัวอย่าง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ขึ้นทะเบียน วางแผนติดตามตรวจสุขภาพต่อเนื่องในอีก 1 ปี และทุก 5 ปีทุกราย และหากรายใดที่มีค่าเกินค่ามาตรฐาน ก็จะตรวจเลือด วิเคราะห์การทำงานของตับไตต่อไป
"ผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต ซึ่งมีหน่วยปฐมพยาบาล ปฎิบัติงานดูแลที่อ่าวพร้าวต่อเนื่องทุกวัน จนถึงวันนี้ ให้บริการตรวจรักษารวม 414 ราย พบอาการที่เกี่ยวข้องกับสารเบนซีน เช่น ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ เจ็บคอ ผื่นคัน รวม 190 ราย ส่วนด้านสุขภาพจิตพบบางส่วนมีความวิตกกังวล นอนไม่หลับบ้าง ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ทั่วไปหลังเหตุการณ์ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ และอสม. เฝ้าระวังดูแลช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไป 2 สัปดาห์" นพ.ประดิษฐกล่าว
***รมว.ทรัพย์เปิบปูม้าโชว์สื่อ
วันเดียวกัน ที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ต.เพ อ.เมืองระยอง นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและคณะ ได้มาพักรับประทานอาหารก่อนเดินทางข้ามไปเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง โดยมีนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง นายสุเมธ สายทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด นายภุชงค์ สฤษฎีชัยกุล ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 พร้อมข้าราชการให้การต้อนรับ
โดยบนโต๊ะอาหารเป็นเมนูพิเศษคือ ปูม้า เป็นอาหารทะเลที่กำลังส่งผลกระทบต่อกลุ่มประมงพื้นบ้าน และแม่ค้าอาหารทะเลสวนสน และตลาดสดบ้านเพอย่างรุนแรง นักท่องเที่ยวไม่กล้าซื้อกิน รวมทั้งกรุ๊ปทัวร์ก็งดสั่งอาหารทะเล
นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงทรัพย์ นายนพพล ศรีสุข อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ นายมโนพัศ หัวเมืองแก้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ได้แกะปูม้ารับประทานโชว์ผู้สื่อข่าว พร้อมกล่าวว่า ภาพจะได้ออกไปทั่วโลก ที่ผ่านมาข่าวทีวีก็ยังไม่ได้แก้เรื่องภาพปูม้าปนเปื้อนคราบน้ำมัน วันนี้จึงต้องกินปูม้าโชว์ว่าไม่มีสารพิษแต่อย่างใด เป็นการลบภาพเรื่องอาหารทะเลที่ตกเป็นข่าว จนส่งผลกระทบนักท่องเที่ยวไม่กล้ารับประทานอาหารทะเล วันนี้ได้ทดลองกินปูม้าให้ดูว่าไม่มีสารพิษแต่อย่างใด
****ปตท.แบ่งกลุ่มชาวระยองเยียวยา
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจัดการเหตุฉุกเฉินและภาวะวิกฤต กลุ่ม ปตท. เปิดเผยความคืบหน้าการทำความสะอาดชายหาด และฟื้นฟูเยียวยาประชาชนและผู้ประกอบการ ตลอดจนสภาพแวดล้อมที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่เกาะเสม็ด โดยล่าสุดสภาพชายหาดอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด มีสภาพที่สะอาดใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยพยายามขนย้ายถุงบรรจุคราบน้ำมันออกจากอ่าวพร้าวให้หมดภายในวันนี้
ทั้งนี้ ได้ลำเลียงถุงบรรจุคราบน้ำมันไปรวมไว้ที่โรงกลั่นน้ำมันเพื่อรอการตรวจสอบ แยกประเภทและส่งกำจัดตามมาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดไว้ตามกฎหมาย โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพเรือและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ส่วนการทำความสะอาดคราบน้ำมันบริเวณก้อนหินต่างๆ ได้ใช้วิธีฉีดน้ำแรงดันสูงอย่างระมัดระวัง และเช็ดคราบสกปรก เพื่อให้ชายหาดกลับคืนสู่สภาวะปกติให้เร็วที่สุด นอกจากนั้นยังคงมีมาตรการเฝ้าระวัง ติดตามและกำจัดฟิล์มน้ำมันที่อาจหลงเหลือถูกพัดมากับคลื่นเข้าสู่ชายหาดให้หมดไป
สำหรับการฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการในพื้นที่เกาะเสม็ดนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (3 ส.ค.) กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมประชุมกับผู้ประกอบการ เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการฟื้นฟูเยียวยา โดยกำหนดคณะกรรมการรับผิดชอบแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย กลุ่มรีสอร์ทและที่พัก กลุ่มร้านค้าและร้านอาหาร กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย และ กลุ่มชุมชนชาวบ้าน โดยก่อนหน้านี้ กลุ่ม ปตท. ได้จัดส่งทีมชุมชนสัมพันธ์เข้าพบชุมชนในพื้นที่รอบเกาะเสม็ดครบถ้วนทั้งหมดแล้ว เพื่อแสดงความเสียใจและน้อมรับฟังผลกระทบที่ชุมชนได้รับ และนำข้อมูลมาประกอบการจัดทำแผนฟื้นฟูเยียวยาอย่างบูรณาการร่วมกับจังหวัดและประชาชนในท้องที่ต่อไป
ด้านนายบวร วงศ์สินอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดเก็บคราบน้ำมันอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า ในเช้าวันนี้ (5 ส.ค.) คาดว่าจะลำเลียงบิ๊กแบ็กที่เก็บคราบน้ำมันปนเปื้อนออกจากพื้นที่อ่าวพร้าวได้ทั้งหมด หลังจากดีเลย์มาจากปัญหาน้ำทะเลที่ขึ้นสูงอย่างรวดเร็วทำให้ลำบากต่อการขนย้าย อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็จะทำการฟื้นฟูทรายหาดและโขดหินให้กับมาสะอาดดังเดิมซึ่งจะใช้เวลาระยะหนึ่ง
นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการเยียวยาช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วในครั้งนี้ ล่าสุดได้มีการยื่นของรับการเยียวยาแล้วกว่า 500 ราย คาดว่าภายในสัปดาห์นี้น่าจะได้รับจำนวนผู้ได้รับความเดือดร้อนที่แท้จริง ส่วนมูลค่าความเสียหายจะได้ข้อสรุปในไม่ช้านี้
**เจ้าท่ายันคราบฯ ไม่มาถึงทะเลพัทยา
นายเรวัต โพธิ์เรียง หัวหน้าสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 6 สาขาพัทยา เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวคราบน้ำมันที่เกาะเสม็ด อาจทำให้เกิดความหวั่นวิตกในหมู่ประชาชน และนักท่องเที่ยวถึงความไม่มั่นใจเพราะเกรงว่าคราบน้ำมันจะส่งผลกระทบมาถึงทะเลพัทยาได้นั้น ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบน่านน้ำตั้งแต่ทะเลชลบุรี ทะเลพัทยา ถึงทะเลสัตหีบ ได้มีการประสานงานติดต่อข้อมูลข่าวสารร่วมกับส่วนกลางอย่างต่อเนื่อง และติดตามความคืบหน้ามาโดยตลอด จึงอยากให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนก และอุ่นใจได้ว่า จะไม่มีคราบน้ำมัน หรือผลกระทบใดๆ ในเขตน่านน้ำทะเลพัทยาอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ หลังจากเกิดเหตุน้ำมันรั่วลงทะเลจนเป็นข่าวครึกโครม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ได้บูรณาการแผนการทำงานร่วมกันในส่วนของสำนักงานภูมิภาคชายฝั่งทะเลตะวันออก โดยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงมั่นใจว่าจะไม่มีคราบน้ำมันลอยมาถึงเขตน่านน้ำทะเลพัทยา เพราะกระแสลมจะไม่พัดผ่านมาทางนี้ จึงอยากสร้างความมั่นใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ที่จะตัดสินใจมาพักผ่อนท่องเที่ยวยังเมืองพัทยาว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวแต่อย่างใด
ด้านนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา กล่าวด้วยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ไม่ได้นิ่งนอนใจได้ให้มีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เมืองพัทยาจึงประสานความร่วมมือกับกรมเจ้าท่าอยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้ หากมีความช่วยเหลืออะไรที่เมืองพัทยาสามารถพอจะช่วยในส่วนของการกำจัดคราบน้ำมันที่เกาะเสม็ด หากได้รับการประสานงานร้องขอทั้งกำลังคน และเครื่องมือ เมืองพัทยาก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลังด้วยเช่นกัน.
