xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“เทือก”ชักนกหวีดกลับ ปชป.“ไม้หลักปักเลน”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ไปปราศรัยบนเวที “เดินหน้าผ่าความจริงนัดพิเศษ”ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สกายวอล์ก สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี วันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-พรรคประชาธิปัตย์ประกาศลั่นกลองรบ เพื่อล้มกฎหมายนิรโทษกรรมตั้งแต่เมื่อเดือนเศษมาแล้ว

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.56 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฏร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขาธิการพรรคที่ยังคงมีบทบาทเป็นแกนนำพรรคคนหนึ่ง ได้กล่าวบนเวทีผ่าความจริงที่ จ.สิงห์บุรี ว่า จากนี้ไปพรรคจะจัดเวทีผ่าความจริงในพื้น กทม. 4 เวทีติดกัน เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมในสภาช่วงเดือนสิงหาคม

“ต่อไปนี้เราจะต่อสู้ทั้งในสภาและนอกสภา ถ้าสู้ในสภาไม่ได้ก็จะออกมาสู้นอกสภาร่วมกับประชาชนทั้งหลาย พวกผมจะฟังเสียงนกหวีด หากประชาชนเป่าก่อนผมก็จะออกมาทันที และถ้าผมเป่าก่อนประชาชนก็ออกมาช่วยด้วยแล้วกัน ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว เราจะยอมให้พวกมันมาปู้ยี่ปู้ยำต่อไปไม่ได้อีกแล้ว” คำประกาศของนายสุเทพ

ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่พร้อมจะต่อสู้นอกสภาชัดเจนยิ่งขึ้นบนเวที “ประชาชนผ่าความจริง” ที่สวนเบญจศิริ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ซึ่งได้ตั้งหัวข้อการปราศรัยว่า "หยุดกฎหมายล้างผิด คิดล้มรัฐธรรมนูญ หยุดเงินกู้ผลาญชาติ หยุดอำนาจฉ้อฉล "

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวบนเวทีวันนั้นตอนหนึ่งว่า เวลานี้รัฐบาลเป็นคนสร้างความขัดแย้งเสียเอง ผ่านมา 2 ปี ประชนกว่า10 ล้านคนอึดอัดกับการทำงานของรัฐบาล วันนี้รัฐบาลไม่ต้องมาบอกให้เราเคารพกฎหมาย แต่ควรปฏิบัติเอง และไปบอกนายใหญ่ให้เคารพกฎหมายด้วย และเห็นว่าหากรัฐบาลเอากฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาฯ เชื่อว่าคงผ่าน 3 วาระไม่ได้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์จะต้านอย่างเต็มที่

ขณะทืี่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง แสดงท่าทีเอาจริงเอาจัง ถึงขั้นบอกให้ประชาชนเก็บกระเป๋าแล้วเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ร่วมเวทีผ่าความจริงพรรคประชาธิปัตย์ ที่บริเวณสกายวอล์ก สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี ในวันที่ 31 ก.ค. เพราะในวันที่ 1 ส.ค. วันเปิดการประชุมสภา อาจมีการยกเว้นข้อบังคับสภาเพื่อนำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เข้าสู่การพิจารณา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็ขอให้ประชาชนมาพบกันได้ทันที

ไฮไลต์ในวันนั้น น่าจะเป็นการปราศรัยของนายสุเทพ ที่ตอนหนึี่งระบุว่า เมื่อเสียงนกหวีดของประชาชนดังพร้อมกันเซ็งแซ่ ตนจะออกมาร่วมต่อต้านรัฐบาลกับพี่น้องทั้งหลาย หากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัย ออกมาบังคับใช้เป็นกฎหมายเมื่อไหร่ คนที่จะได้ประโยชน์ คือ สมุนบริวาร พ.ต.ท.ทักษิณ และถ้าการต่อสู้ในสภาฯไม่ไหว จะเป่านกหวีดยาวไม่เลิก

“ผมกราบเรียนกับพี่น้อง การต่อสู้ในช่วงนี้ ต้องลุกขึ้นมาแสดงพลัง รัฐบาลจะได้คิดและหยุดการกระทำ แต่ถ้ายังดื้อออกกฎหมาย ไม่ฟังใคร กะโหลกหนา เราก็จะลุกขึ้นตบกะโหลกมัน ถึงวันนั้นถ้าล้มรัฐบาลก็ต้องล้มมัน เอาไว้ไม่ได้แล้ว เพราะไม่เห็นกับประชาชนและชาติบ้านเมือง วันนี้สู้ไปตามลำดับขั้นตอน ดูซิว่ายิ่งลักษณ์จะไปอยู่ดูไบหรือเราต้องขุดรูอยู่ ช่วยกันเป็นสมองช่วยกันคิดขั้นตอน ตอนนี้ถ้าอยากเป่านกหวีดก็ให้เป่าไปพลางๆ ก่อน ให้รอดูว่าหากวันที่ 7 ส.ค. สู้ในสภาแล้วแพ้ ก็ให้เป่านกหวีดยาวไม่เลิกแล้วเป่าไปทั้งเดือนเลย”

คำกล่าวของนายสุเทพดังกล่าว ใครได้ฟังก็ย่อมเข้าใจว่า ถ้าในวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับของนายวรชัยวาระแรก ในขั้นรับหลักการ ถ้าพรรคประชาธิปัตย์สู้แล้วแพ้ ก็ให้เป่านกหวีดทันทีและยาวไปเลยตลอดทั้งเดือน

แต่แล้วในวันที่ 31 ก.ค.บนเวทีปราศรัยเดินหน้าผ่าความจริงนัดพิเศษ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สกายวอล์ก สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี นายสุเทพได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า “ในวาระรับหลักการนั้น พวกเราจะอธิบายอย่างละเอียดว่ากฎหมายนี้ไม่เหมาะสมอย่างไร ซึ่งเราจะสู้ทั้งวันทั้งคืน หากสู้แล้วแพ้ ก็จะตามไปสู้ใหม่ในวาระ 2 ซึ่งเป็นขั้นแปรญัตติ ต่อให้พวกเขาไปแปรญัตติเอาฉบับสุดซอย กลางซอยอะไรก็ช่าง เราก็จะตามไปสู้แปรญัตติทุกมาตรา ทุกตัวอักษรหากแพ้ และจะต่อสู้ในสภาในวาระ 3 ก็แพ้อีก ถึงวันนั้นก็จะมีเสียงเป่านกหวีดว่าเอาเลย ซึ่งผมจะไม่รอให้ใครสั่ง”

นายสุเทพยังกล่าวอีกว่า ตนอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า หากมีใครมาชวนไปชุมนุม ไม่ว่าหน้ากากขาว อพส.ก็มาเลย เพราะทุกคนมีจิตใจ และอุดมการณ์ตรงกันทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมาพวกตนไม่เคยเข้าร่วมกับกลุ่มใด เพราะเคารพในการต่อสู้ของแต่ละกลุ่ม แต่หากวันใดที่กฎหมายดังกล่าวผ่านวาระ 3 ในสภา วันนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนเราก็จะเข้าร่วม เพราะถึงวันนี้เราก็ถือเป็นคนไทยในประเทศคนหนึ่ง มีคนมาเสนอกับตนว่าหากวันใดที่แพ้วาระ 3 ควรนัดหยุดงานให้หมดทั้งประเทศ ให้ข้าราชการทุกคนลาป่วยพร้อมกันทั้งประเทศ เพื่อไม่รับใช้รัฐบาลชั่วต่อไป

สรุปว่า ท้ายที่สุดแล้ว นายสุเทพจะยังไม่เป่านกหวีด ตามที่เคยพูดไว้เมื่อวันที่ 27 ก.ค.แม้พรรคประชาธิปัตย์จะแพ้ในการโหวตวาระแรก แต่จะให้โอกาสรัฐบาลไปจนถึงวาระ 2 และวาระ 3 ถ้ายังแพ้อีกก็ค่อยออกมาชุมนุม แถมยังแทงกั๊ก โบ้ยให้ประชาชน ข้าราชการ ออกมาก่อน แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วม

เป็นที่น่าสังเกตว่า การปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเย็นวันที่ 31 ก.ค.มีขึ้นหลังจากที่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2556 เรื่อง จุดยืนต่อกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิด ในเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ซึ่งพันธมิตรฯ ได้่ประกาศจุดยืนคัดค้านการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทุกฉบับ เพียงแต่จะยังไม่ออกมาชุมนุมในช่วงนี้ เนื่องจากแกนนำและผู้ปราศรัยจำนวน 96 คนติดเงื่อนไขการประกันตัวในคดีก่อการร้ายที่มีการทำสำนวนคดีและส่งฟ้องในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ รวมทั้งเห็นว่า ผลลัพธ์จากการออกไปชุมนุมในช่วงนี้ จะยังไม่นำไปสู่การปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง

อาการผิดหวังของบรรดาสาวกพรรคประชาธิปัตย์ได้แสดงออกมาอย่างชัดเจนต่อคำแถลงของพันธมิตรฯ ดังกล่าว หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งที่ใกล้ชิดกับพรรคการเมืองพรรคนี้ ถึงกับเสนอข่าวในทำนองว่า พันธมิตรฯ ไม่สู้ ทั้งๆ ที่แถลงการณ์ก็ระบุชัดเจนว่า ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษทุกฉบับ เพียงแต่ไม่เคลื่อนไหวด้วยการชุมนุมเท่านั้น

ขณะที่บรรดาสาวกในโลกไซเบอร์ก็ยังคงดาหน้ากันออกมายัดเยียดข้อหาเดิมๆ ให้แกนนำพันธมิตรฯ เช่นว่า รับเงิน นช.ทักษิณบ้าง พันธมิตรฯ ไม่มีมวลชนแล้ว จึงไม่กล้าออกมาชุมนุมบ้าง

เครื่องหมายคำถามอันโตๆ ที่มีไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ก็คือว่า ในเมื่อแกนนำของพรรคอย่างนายสุเทพเคยบอกว่าทั้งคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดงเป็นปัญหาของบ้านเมือง แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะมารอพึ่งพาการเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ด้วยเหตุใด

แล้วในขณะที่พวกเขาปรามาสว่าพันธมิตรฯ ไม่มีมวลชน แต่พรรคประชาธิปัตย์มีมวลชนของตัวเองเกือบ 12 ล้านคน คิดตามจำนวนคนที่ลงคะแนนให้พรรคในการเลือกตั้งในปี 2554 ทำไมจึงไม่ให้มวลชนเหล่านี้ออกมาชุมนุมเสียเอง จะรอให้ถึงวาระ 3 ทำไม ซึ่งจะกินเวลาอีกหลายเดือน และสายเกินไปแล้ว

สาเหตุที่นายสุเทพต้องเก็บนกหวีดไว้ก่อน ทั้งที่ได้เดินสายปลุกอารมณ์ของมวลชนเอาไว้ล่วงหน้าจนพุ่งพล่านได้ที่แล้ว ก็เพราะคาดหวังว่าพันธมิตรฯ จะออกมาชุมนุม แล้วจะได้นำมวลชนของตัวเองเข้ามาร่วม และห้อยโหนไปกับขบวนการต่อสู้ของพันธมิตรฯ เพื่อรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์หลังจากได้รับชัยชนะ

แต่เมื่อพันธมิตรฯ ยังไม่ออกมา ก็เลยต้องรอไว้ก่อน ปล่อยให้บรรดาสาวกอารมณ์ค้างมาระบายออกใส่พันธมิตรฯ แทนที่จะมองว่าพรรคการเมืองที่พวกเขาเทิดทูนบูชานั้น ไม่ได้มีอุดมกาณ์ที่แน่วแน่ที่จะต่อสู้เพื่อบ้านเมือง แต่เป็นแค่พรรคการเมืองขี้ขลาด เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามสถานการณ์ ไม่ต่างจากไม้หลักปักขี้เลนอันหนึ่งเท่านั้น


กำลังโหลดความคิดเห็น