xs
xsm
sm
md
lg

ดีแต่ปาก! “เทือก” ลั่น พ.ร.บ.นิรโทษฯ ผ่านวาระ 3 จะนำม็อบแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หน.ปชป.ควง “เทือก-อภิรักษ์” ขึ้นบีทีเอสเช็กเรตติ้ง ก่อนปราศรัยเวทีพรรค “นิพิฏฐ์” ปลุกเร้าแม่ยกหน้าเวที ร่วมปกป้องสถาบัน ปัดจุดไม่ติดบอกเป็นเสรีชน อ้างต้านนิรโทษฯ แดงทอดกฐินสามัคคี ไม่มีแกนนำ “สุเทพ” โว เตรียมแปรญัตติทุกมาตรา หากแพ้ถึงวาระ 3 จะนำม็อบล้มรัฐบาลเอง



วันนี้ (31 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย ส.ส.พรรค เช่น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางขึ้นรถไฟฟ้าที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส อารีย์ เพื่อเดินทางไปยังลานสกายวอล์กเกอร์ ช่องนนทรี เพื่อทำการปราศรัยในเวทีเดินหน้าผ่าความจริงนัดพิเศษ เพื่อเร่งชี้แจงต่อประชาชนถึงแนวทางการต่อต้านการผลักดันร่างกฏหมายนิรโทษกรรม ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะมีขึ้นในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยระหว่างเดินทางได้มีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายรูปกับนายอภิสิทธิ์ตลอดเส้นทาง ขณะที่บรรยากาศที่เวทีเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนมาร่วมฟังประมาณ 1,000 คน โดยมีเจ้าหน้าที่หนึ่งกองร้อยจาก บก.น.5 มาอำนวยความปลอดภัยให้ด้วย

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยบนเวทีเดินหน้าผ่าความจริง ลานสกายวอล์ก ช่องนนทรี โดยได้ปลุกเร้าให้ประชาชนออกมาร่วมกันปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และได้กล่าวนำประชาชนสาบานตนว่าจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์มีพฤติกรรมซ้ำรอย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชาย น่าจะเข้าคุกเหมือนกัน ตนน้อยใจทหารที่สาบานตนต่อธงชัยเฉลิมพลว่าจะยอมตายเพื่อรักษาไว้แห่งองค์พระมหากษัตริย์ น่าเสียดายที่ตนไม่มีโอกาสสาบานตนได้เช่นนั้น ตนพร้อมที่จะตายเพื่อพระราชา หากจะต้องตายขออย่างเดียวคือธงชาติคลุมร่าง ไม่มีใครจาบจ้วงสถาบันเท่าครั้งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ

“ถึงเวลาต้องออกมาปกป้องชาติ พระราชา มีคนบอกว่าพวกเราจุดไม่ติด รวมกันไม่ได้ แน่นอนอาจจับตัวกันยากเพราะเราต้อนไม่ได้ ไม่ใช่ควาย เราคือเสรีชน หากรัฐบาลจะประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง แน่จริงประกาศไปเลย เพราะไม่ได้ใหญ่ไปกว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 63 ที่บุคคลมีเสรีภาพในการชุมนุม หากนายวรชัย (เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย) เข้าสภาไม่ได้ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน เลือกข้างเสียว่าจะไปอยูกับนายวรชัย หรือเสรีชน เพราะเวลาไม่มีความเป็นกลางสำหรับประเทศไทยแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ทำตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีแกนนำ เป็นเรื่องการทอดกฐินสามัคคีทุกคนมาด้วยใจ อย่ากลัว บ้านเมืองนี้ต้องการคนกล้า” นายนิพิฏฐ์กล่าว

นายสุเทพปราศรัยตอนหนึ่งว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายวรชัยมีสั้นๆ เพียง 7 มาตรา แต่มาตรา 3 เขียนชัดว่า ร่างกฎหมายนี้ออกมาใช้บังคับเมื่อไหร่ ความผิดทั้งหลายที่พวกเขาได้ทำไม ทั้งกระทำผิดด้วยวาจา ฆ่าคน วางเพลิงเผาทรัพย์ ที่ทำมาตั้งแต่ปี 49-54 จะไม่เป็นความผิดอีกต่อไป คนที่ทำความผิดจะกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้รับโทษโดยสิ้นเชิง และในมาตรา 4 ยังบอกว่าหากความผิดใดอยู่ระหว่างดำเนินคดีให้ยกเลิกการพิจารณาคดี ถอนฟ้อง และให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากระบบ หากศาลมีคำพิพากษาก็ให้ลบคำตัดสินทั้งหมด

“ส่วนมาตรา 7 นั้นบอกว่ามีนายกฯเป็นผู้รักษาการ และใช้อำนาจตามกฎหมายนี้ ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์อ้างว่าไม่เกี่ยว หรือหนูไม่รู้นั้น มึงเลิกพูดได้แล้ว” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวว่า เหตุที่นิรโทษกรรมเพราะคนเสื้อแดงได้ก่อเหตุร้าย เหตุวุ่นวายมาตั้งแต่ปี 49-54 เขาจึงต้องออกกฎหมายให้พวกตัวเอง ซึ่งตนอยากให้พี่น้องตั้งคำถามในใจว่าความผิดที่คนเหล่านี้ทำเป็นความผิดเล็กน้อย หรือความผิดที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม เพราะหากทำอย่างนั้นจะทำให้หลักการทางกฎหมาย เพราะความผิดทั้งหลายเหล่านั้นทั้งที่มีหลักฐาน บุคคลเป็นพยาน มีวีดิโอบันทึกภาพการทำความผิดชัดเจน คนพวกนี้ก็จะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งไม่มีใครยืนยันได้ว่าคนพวกนี้จะไม่กลับมาทำร้ายประชาชนอีก ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีกองกำลังชุดดำ ที่ถูกส่งไปฝึกอาวุธที่กัมพูชา เพื่อรอโอกาสกลับมาทำร้ายคนไทยหากมีโอกาสครั้งต่อไป นอกจากนั้นกฎหมายดังกล่าวยังจะส่งผลให้คนที่จวบจ้วงสถาบันก็จะเดินลอยนวลได้ และคนที่เผาศาลากลางจังหวัดที่ถูกศาลพิพากษาจำคุกแล้ว ก็จะหลุดและกลายเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งหมด นอกจากนั้นพวกที่หนีคดีอยู่ต่างประเทศ อย่างนายจักรภพ เพ็ญแข และ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะต้องถูกยกเลิกหมายจับ ยกเลิกการดำเนินคดี และกลับมาประเทศไทยโดยไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น

“ทุกประเทศในโลกที่สงบได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองประชาชน ประชาชนได้รับการปฏิบัติเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย ซึ่งคนที่ทำความผิดฆ่าคนตาย วางเพลิง ต้องถูกลงโทษขั้นรุนแรงเกือบทุกประเทศ ซึ่งประเทศไทยจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่คนฆ่าทหาร ฆ่าประชาชน เผาศาลากลางจะเป็นคนบริสุทธิ์ ซึ่งจะเป็นประเทศเดียวที่อัปยศจากการกระทำของรัฐบาลนี้” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวอีกว่า ตนอยากบอก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ว่าอย่าทำร้ายประชาชน เพราะการออกมาชุมนุมของประชาชนครั้งนี้เป็นการต่อสู้ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่มีอาวุธ แต่หากประชาชนบาดเจ็บแม้แต่คนเดียว พวกคุณจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไป หากประชาชนถูกกำหัวด้วยอำนาจอยุติธรรม และความไม่เป็นธรรม พวกคุณก็อย่าอยู่เลยในสัปดาห์หน้าให้ ส.ส.สู้อย่างเต็มที่ในสภา และอยากเรียกร้องไปยังผู้แทนฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ไม่ว่าจะพรรคไหน ขอให้มีให้มีสำนึก และกลับตัวกลับใจมาคัดค้านกฎหมายฉบับดังกล่าว

“ในวาระรับหลักการนั้น พวกเราจะอธิบายอย่างละเอียดว่ากฎหมายนี้ไม่เหมาะสมอย่างไร ซึ่งเราจะสู้ทั้งวันทั้งคือ หากสู้แล้วแพ้ ก็จะตามไปสู้ใหม่ในวาระ 2 ซึ่งเป็นขั้นแปรญัตติ ต่อให้พวกเขาไปแปรญัตติเอาฉบับสุดซอย กลางซอยอะไรก็ช่าง เราก็จะตามไปสู้แปรญัตติทุกมาตรา ทุกตัวอักษรหากแพ้ และจะต่อสู้ในสภาในวาระ 3 ก็แพ้อีก ถึงวันนั้นก็จะมีเสียงเป่านกหวีดว่าเอาเลย ซึ่งผมจะไม่รอให้ใครสั่ง ซึ่งหากถึงวันนี้จริงก็ไม่มีคำถามอะไรแล้ว เพราะคนพวกนี้มันระยำจริงๆ ดังนั้นตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.จนถึงการพิจารณาวาระ 2-3 เรายังไม่โค่นล้มรัฐบาล เพราะจะให้โอกาสรัฐบาล หากยอมถอยก็ถือว่าเจ๊ากัน แต่หากรัฐบาลยังดึงดันต่อไป พยายามกดหัวประชาชนด้วยกฎหมายดังกล่าว ลุแก่อำนาจ ถึงวันนั้นเราก็จะล้มรัฐบาล เพราะรัฐบาลสมควรเป็นรัฐบาลแล้ว” นายสุเทพกล่าว

นายสุเทพกล่าวอีกว่า ตนอยากบอกพี่น้องประชาชนว่า หากมีใครมาชวนไปชุมนุม ไม่ว่าหน้ากากขาว อพส.ก็มาเลย เพราะทุกคนมีจิตใจ และอุดมการณ์ตรงกันทั้งสิ้น ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลมีผังล้มรัฐบาลออกมา มีตนและนายอภิสิทธิ์ว่าไปเข้าร่วมกับกลุ่มต่างๆ ซึ่งพวกตนไม่เคยเข้าร่วมกับกลุ่มใด เพราะเคารพในการต่อสู้ของแค่ละกลุ่ม แต่หากวันใดที่กฎหมายดังกล่าวผ่านวาระ 3 ในสภา วันนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนเราก็จะเข้าร่วม เพราะถึงวันนี้เราก็ถือเป็นคนไทยในประเทศคนหนึ่ง มีคนมาเสนอกับตนว่าหากวันใดที่แพ้วาระ 3 ควรนัดหยุดงานให้หมดทั้งประเทศ ให้ข้าราชการทุกคนลาป่วยพร้อมกันทั้งประเทศ เพื่อไม่รับใช้รัฐบาลชั่วต่อไป ทั้งนี้การที่มีหลายคนน้อยใจทหารนั้น ตนเข้าใจว่าทหารเป็นข้าราชการ มีระเบียบ มีวินัย ซึ่งเวลานี้ไม่ใช่หน้าที่ของทหาร และตนไม่เคยคิดให้ทหารออกมาปฏิวัติ แต่ขอให้ประชาชนลุกขึ้นต่อต้านรัฐบาลชั่ว และหากเราแพ้โหวตในสภาวาระ 3 ถึงเวลานั้นข้าราชการทุกฝ่ายทั้งทหาร ตำรวจ ต้องมายืนข้างประชาชน













กำลังโหลดความคิดเห็น