สารพัด สารพันปัญหาที่รุมเร้ารัฐบาลหุ่นเชิดยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อยู่ในขณะนี้ เริ่มขมวดปมเขม็งเกลียวตึงเครียดเข้าไปทุกขณะ ไม่ว่าจะโครงการจำนำข้าวที่พบเบาะแสการทุจริตมโหฬารและสร้างความเสียหายต่อการผลิตการค้าข้าวทั้งระบบอย่างวินาศสันตะโร และอีกหลากหลายปัญหาความล้มเหลวไร้ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโครงการประชานิยมแบบทักษิณคิดเพื่อไทยทำ โดยเฉพาะล่าสุดคลิปเสียงที่เปิดเผยการย่ำยีสถาบันและกองทัพ รวมทั้งแผนการชั่วร้ายที่หาหนทางกลับประเทศไทยแบบไร้โทษทัณฑ์ความผิดของทักษิณ จึงเหมือนน้ำมันราดใส่กองไฟ ที่ครุกรุ่นในหมู่มวลคนไทยที่รักความเป็นธรรม
มวลชนภาคประชาชนจึงเริ่มก่อหวอด แม้จะยังกระจัดกระจายเป็นหลายกลุ่มหลายองค์กรแต่ก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือคัดค้านการทุจริต คอร์รัปชัน การจาบจ้วงล่วงละเมิดต่อสถาบัน และการเมืองทุนสามานย์แบบระบอบทักษิณ
การปรากฏขึ้นของมวลชนในรูปแบบใหม่ที่ใช้หน้ากาก วี อันเป็นสัญลักษณ์และอุดมการณ์สากลที่ทั่วโลกรับรู้ได้ เริ่มแผ่ขยายครอบคลุมไปเกือบทั่วประเทศแล้ว แม้จะไม่มีแกนนำชัดเจน แต่ทุกกลุ่มก้อนในทุกจังหวัดก็มีการบริหารจัดการกันเองแบบนิรนาม สามารถดึงคนใหม่ๆ และพลังเงียบส่วนหนึ่งที่ลังเลพะวักพะวนกับเรื่องสีเสื้อออกมาเพิ่มได้พอสมควรแล้ว และนับวันจะปรากฏจำนวนคนไทยมาร่วมสวมหน้ากาก วี เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และที่ได้ผลเกินขาดยิ่งกว่านั้นก็คือ ในมวลชนคนหน้ากาก วี เริ่มมีเยาวชนคนหนุ่มสาวจากโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คมาเพิ่มสีสันขึ้นเรื่อยๆ ปรากฏการณ์นี้ จึงมีผลต่อการสั่นสะเทือนต่อระบอบการเมืองที่ล้มเหลวอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
หลายคนอาจรู้สึกหงุดหงิดกังวลกับการแยกกลุ่มแยกพวกของมวลชน ที่ดูเหมือนต่างคนต่างคิดต่างทำโดยไม่สอดประสานกันทำให้มวลชนหรอมแหรมเป็นหย่อมๆ ขาดไร้พลังที่จะกดดัน หรือนำไปสู่เป้าหมายใดๆ ดังที่ทักษิณปรามาสไว้ในคลิปเสียงว่า ไอ้พวกต่อต้านไม่มีน้ำยาอะไรหรอก ทหารไม่เอาด้วยก็จบ แรกๆ ผมเองก็ออกจะเห็นด้วยมาโดยตลอดว่า ลำพังแต่มวลชนภาคประชาชนฝ่ายเดียว คงทำอะไรไม่ได้ เพราะขนาดยึดทำเนียบรัฐบาลได้ยังไม่มีผลอะไรเลย การล้มล้างรัฐบาลได้จึงต้องอาศัยกำลังฝ่ายทหารจึงจะสำเร็จ แต่ผมก็ไม่เคยสนับสนุนและไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร โดยเฉพาะในช่วงนี้ ที่ทักษิณมีกองกำลังเสื้อแดงพร้อมจะออกมาต่อต้านอย่างถึงขั้นนองเลือดเป็นสงครามกลางเมืองได้
ในบทความฉบับก่อนผมจึงเสนอแนวทางให้คนไทยสวมหน้ากาก วี ออกมายืนกลางถนนหน้าบ้านใครหน้าบ้านมันให้เต็มบ้านเต็มเมือง แล้วทหารทั้งสามเหล่าทัพเพียงแต่ร่วมกันประกาศจุดยืนว่าเคียงข้างประชาชนไม่ เอารัฐบาลและไม่ยอมรับในอำนาจรัฐเท่านั้นเอง เพื่อให้รัฐบาลกลายเป็นรัฐล้มเหลวที่ปกครองไม่ได้ และเกิดสุญญกาศทางการเมือง ที่ทุกฝ่ายจะสามารถร่วมกันยินยอมพร้อมใจยกให้เป็นพระราชอำนาจขององค์พระประมุขแห่งชาติ ที่จะทรงใช้หลักการ “ราชประชาสมาสัย” คือการมีส่วนร่วมระหว่างสถาบันพระมหากษัตริย์กับปวงชนชาวไทย ในการบริหารจัดการบ้านเมือง เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม สมดังพระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ที่ยังดังกึกก้องอยู่ในหัวใจพสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศมาจนถึงทุกวันนี้
ผมหวังจะเห็นปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงปฏิรูปปฏิวัติประเทศไทย โดยการเมืองภาคประชาชนทุกภาคส่วนทุกเสื้อสีร่วมกับสามเหล่าทัพ โดยไม่ต้องมีการรัฐประหารให้ล้าสมัยอีกต่อไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้มีการรวมตัวกันขององค์กรภาคประชาชนบางส่วนบางองค์กร ประกาศเป็น “กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ “โดยได้เปิดตัวคณะเสนาธิการร่วม ประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ อดีตแกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัจน์ อดีตนายทหารคนสนิทพล.ต.มนูญกฤต รูปขจร พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี อดีตโฆษก อพส. และนายพิเชฐ พัฒนโชติ อดีตพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีนายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำขบวนการอีสานกู้ชาติ ทำหน้าประสานงานองค์กรกลุ่มเครือข่าย และพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหวมวลชน โดยได้ออก แถลงการณ์ ฉบับที่ 1
ระบุว่า สถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันอยู่ในภาวะวิกฤตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ถูกครอบงำด้วยอำนาจชั่วช้าสามานย์ของระบอบทักษิณที่มีพฤติกรรมไม่จงรักภักดี เหิมเกริม กระทำการอันไม่เหมาะสม จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยนักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร อีกทั้งบงการให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ทำการแทรกแซงบ่อนทำลายผู้นำเหล่าทัพให้แตกความสามัคคี ย่ำยีกองทัพ ย่ำยีหัวใจของคนไทยทั้งชาติอย่างรุนแรงที่สุด รัฐบาลนี้ปล่อยให้มีการทุจริตคอร์รัปชันโกงกินบ้านเมือง ทำให้ประเทศสูญเงินไปกับนโยบายประชานิยมในโครงการจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท เมื่อข้าราชการผู้ทำหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของชาติได้ตรวจพบการทุจริต รัฐบาลกลับใช้อำนาจกลั่นแกล้ง ด้วยการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกระทำการข่มเหงอย่างไม่เป็นธรรม
รัฐบาลหุ่นเชิดระบอบทักษิณบริหารประเทศผิดพลาด ล้มเหลว จนเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง สินค้าและบริการสูงขึ้นเท่าตัว โดยเฉพาะราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้มซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของระบบเศรษฐกิจ สร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนอย่างแสนสาหัส รัฐบาลไม่สนใจที่จะแก้ปัญหาปากท้อง กลับมุ่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายที่จะทำให้นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ฟอกโทษพ้นผิด รัฐบาลนี้ กู้เงินอย่างมหาศาล ก่อหนี้ผูกพันชั่วลูกชั่วหลานในโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท โดยไม่มีรายละเอียดที่โปร่งใส ไม่ดำเนินการประชาพิจารณ์ และศึกษาผลกระทบตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งศาลปกครองได้วินิจฉัยให้ชะลอโครงการไปแล้ว แต่รัฐบาลยังเดินหน้าก่อหนี้อย่างไม่เกรงกลัว นอกจากนั้นแล้วยังออก พ.ร.บ. กู้เงินเพื่อพัฒนาระบบขนส่งทั่วประเทศ 2.2 ล้านล้านบาท ที่ทำการยักย้ายถ่ายเท ไม่เข้าสู่ระบบงบประมาณรายจ่ายประจำปี อันส่อว่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 และยังมีอีกสารพัดปัญหาทำให้แผ่นดินร้อนเป็นไฟ ผู้คนในชาติแตกความสามัคคีอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติ
แถลงการณ์ระบุด้วยว่า “กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ” มีภารกิจ ดังนี้
1. เป็นศูนย์กลางการประสานงาน องค์กร กลุ่ม เครือข่าย พรรคการเมืองต่างๆ ที่มีเป้าหมายร่วมกันในการโค่นระบอบทักษิณให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินไทย
2. จัดตั้งและขยายมวลชนผู้รักชาติ รักสถาบันพระมหากษัตริย์ รักประชาธิปไตย หวงแหนแผ่นดิน ให้สามัคคีรวมตัวกันมากขึ้น เป็นมวลมหาประชาชนในทุกจังหวัด
3. จัดตั้งกองกำลังปกป้องประชาชนในทุกจังหวัด
พร้อมด้วยข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล 6 ข้อ ประกอบด้วย
1. ให้รัฐบาลแสดงจุดยืนในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการหยุดการกระทำอันไม่ควร การจาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
2. ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ลาออกจากรัฐมนตรีว่าการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยทันที
3. ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ด้วยการยุติการขึ้นราคาแก๊สหุงต้ม และลดราคาน้ำมันทุกประเภท ด้วยการดำเนินการให้ ปตท.หยุดค้ากำไรเกินควรเอาเปรียบประชาชน และปฏิรูป ปตท. ชให้กลับมาเป็นของประชาชน โดยทันที
4. ให้รัฐบาลยุติโครงการกู้เงินบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และ พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งเห็นชัดแล้วว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550
5. ให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรถอนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมทุกฉบับที่เสนอเพื่อล้างผิด ฟอกโทษต่อนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร
6. ให้รัฐบาลดำเนินการเอาผิดกับผู้ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวในทุกขั้นตอน ยกเลิกการตั้งกรรมการสอบสวน น.ส.สุภา ปิยะจิต รองปลัดกระทรวงการคลัง รวมทั้งคืนตำแหน่งให้นายถวิล เปลี่ยนศรี ตามคำสั่งศาล โดยทันที
พร้อมทั้งกำชับด้วยว่าให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการใดๆ หรือบ่ายเบี่ยง ซื้อเวลา กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ จะดำเนินการนัดชุมนุมโดยสันติแสดงสิทธิตามรัฐธรรมนูญและแสดงพลังในวันที่ 4 ส.ค.นี้ เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการตามข้อเรียกร้องทั้ง 6 ข้อ ต่อไป
การ เมืองไทยถึงบทตึงเครียด ขมวดปมเขม็งเกลียวเข้ามาแล้วจริงๆ โหรหลายสำนักทำนายตรงกันว่า เดือนสิงหาคม จะเป็นจุดเปราะบางของการเมืองไทย และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
โหรการเมืองจะแม่นหรือไม่ ก็ถึงกับโดนชกต่อยหน้าบวมไปหนึ่งโหรแล้ว โดยตำรวจจับมือชกยังไม่ได้ แต่ก็น่าจะคาดเดาได้ว่า เป็นฝ่ายที่รับไม่ได้กับคำทำนายที่เป็นโทษกับฝ่ายตน และเป็นฝ่ายที่มักจะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย โหยหาประชาธิปไตย แต่ชอบใช้กำลังกับฝ่ายที่เห็นต่างจากฝ่ายตนเสมอมา
การเมืองที่กำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ จะเป็นการต่อสู้ระหว่างฝ่ายการเมืองที่ครองอำนาจรัฐกับภาคประชาชนที่ทนไม่ไหวและรับไม่ได้กับการใช้อำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม ฉ้อฉล และคดโกงกันอย่างไม่บันยะบันยัง
ผลลัพธ์สุดท้ายจะลงเอยเช่นไร คอการเมืองต้องจับตากันอย่างไม่กะพริบตา