ASTVผู้จัดการรายวัน - “1577 โฮมชอปปิ้ง” ชูสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามเป็น “หัวหอก” หลังทำยอดโตเกินคาด 15% ในช่วงครึ่งแรก เตรียมอัดงบ 250 ล้านบาทเดินหน้ากิจกรรมการตลาด รวมทั้งเพิ่มช่องทาง e-Commerce เตรียมเปิดสินค้าใหม่ 10 รายการ ดันฐานลูกค้าเพิ่ม 40%
นายจุล โชติกะวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด ผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทให้บริการ “1577 โฮม ช้อปปิ้ง” ตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่าย 700 รายการ มีฐานลูกค้าประมาณ 1.2 ล้านคน มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท ทีวีไดเร็คส์ จำกัด (มหาชน)
ผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโตเกินเป้าหมายประมาณ 15% คิดเป็นยอดขายประมาณ 850 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายทั้งปีได้ตามที่ตั้งเป้าหมายคือ 1,400 ล้านบาท หรือเติบโต 30% ปัจจัยเติบโตเพราะการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มสุขภาพและความงาม 6 รายการเมื่อช่วงต้นปี
“ปัญหาเรื่องกำลังซื้อผู้บริโภคลดลงและค่าครองชีพที่สูงขึ้นไม่มีผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของบริษัท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นกลุ่มสุขภาพและความงามซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ แต่ที่น่าห่วงมากที่สุดคือเรื่องราคาสื่อโทรทัศน์ที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 30-40% ในทุกช่องทาง ทั้งฟรีทีวี เคเบิล และดาวเทียมจนส่งผลให้เราต้องตัดงบโฆษณาในบางรายการลง แม้รายการนั้นจะมีเรตติ้งดีก็ตาม”
สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งประมาณ 10% ครึ่งปีหลังบริษัทมีเปิดตัวสินค้าใหม่ในหมวดดูแลรูปร่างและน้ำหนัก 10 รายการ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ตลาดยังมีความต้องการสูงและมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งใช้งบการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ประมาณ 250 ล้านบาท รวมทั้งแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายและเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และจัดงบประมาณพิเศษอีก 2-3 ล้านบาทต่อไตรมาสจัดกิจกรรมพิเศษ
ในปี 2556 บริษัทจะปรับปรุงพัฒนาด้านการให้บริการและเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาคุณภาพพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าให้เป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านสุขภาพและความงาม การพัฒนาระบบการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.lanlabuy.com เพื่อขยายตลาดลูกค้าในกลุ่ม e-Commerce โดยคาดหวังยอดขายจากช่องทางนี้ประมาณ 5% จากยอดขายทั้งหมด
“การดำเนินงานในปีนี้ยังอาจมีอุปสรรคและปัญหาที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง เราจึงจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเรามีเป้าหมายสำคัญในปี 2557 คือก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโฮม ชอปปิ้ง พร้อมทำยอดขายเพิ่มขึ้น 40% เช่นเดียวกับมุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 40%รวมทั้งเพิ่มสินค้าใหม่อีกประมาณ 15%”
“ภาพรวมของตลาดโฮมชอปปิ้งถือว่าดีและมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% ต่อปี เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ระบบมากขึ้นและมีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการแต่ละรายต่างมีจุดแข็งและกลไกการตลาดที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลทำให้ผู้กลุ่มบริโภคกลุ่มใหม่ๆ เริ่มทดลองใช้บริการและมีประสบการณ์การซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก”
นายจุล โชติกะวรรณ กรรมการบริหาร บริษัท พรอพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี่ จำกัด ผู้ให้บริการช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านระบบคอลล์เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัทให้บริการ “1577 โฮม ช้อปปิ้ง” ตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันมีสินค้าจำหน่าย 700 รายการ มีฐานลูกค้าประมาณ 1.2 ล้านคน มีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท ทีวีไดเร็คส์ จำกัด (มหาชน)
ผลประกอบการครึ่งปีแรกเติบโตเกินเป้าหมายประมาณ 15% คิดเป็นยอดขายประมาณ 850 ล้านบาท คาดว่าจะทำยอดขายทั้งปีได้ตามที่ตั้งเป้าหมายคือ 1,400 ล้านบาท หรือเติบโต 30% ปัจจัยเติบโตเพราะการเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มสุขภาพและความงาม 6 รายการเมื่อช่วงต้นปี
“ปัญหาเรื่องกำลังซื้อผู้บริโภคลดลงและค่าครองชีพที่สูงขึ้นไม่มีผลกระทบต่อยอดขายสินค้าของบริษัท เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นกลุ่มสุขภาพและความงามซึ่งส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ แต่ที่น่าห่วงมากที่สุดคือเรื่องราคาสื่อโทรทัศน์ที่ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 30-40% ในทุกช่องทาง ทั้งฟรีทีวี เคเบิล และดาวเทียมจนส่งผลให้เราต้องตัดงบโฆษณาในบางรายการลง แม้รายการนั้นจะมีเรตติ้งดีก็ตาม”
สินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่บริษัทมีส่วนแบ่งประมาณ 10% ครึ่งปีหลังบริษัทมีเปิดตัวสินค้าใหม่ในหมวดดูแลรูปร่างและน้ำหนัก 10 รายการ เนื่องจากเป็นกลุ่มสินค้าที่ตลาดยังมีความต้องการสูงและมียอดขายเป็นอันดับ 1 ของบริษัทมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งใช้งบการตลาด โฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ประมาณ 250 ล้านบาท รวมทั้งแนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมายและเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น และจัดงบประมาณพิเศษอีก 2-3 ล้านบาทต่อไตรมาสจัดกิจกรรมพิเศษ
ในปี 2556 บริษัทจะปรับปรุงพัฒนาด้านการให้บริการและเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาคุณภาพพนักงานฝ่ายบริการลูกค้าให้เป็นเสมือนที่ปรึกษาด้านสุขภาพและความงาม การพัฒนาระบบการสั่งซื้อออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.lanlabuy.com เพื่อขยายตลาดลูกค้าในกลุ่ม e-Commerce โดยคาดหวังยอดขายจากช่องทางนี้ประมาณ 5% จากยอดขายทั้งหมด
“การดำเนินงานในปีนี้ยังอาจมีอุปสรรคและปัญหาที่ไม่คาดคิดซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานได้ โดยเฉพาะเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง เราจึงจำเป็นต้องวางกลยุทธ์การตลาดอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเรามีเป้าหมายสำคัญในปี 2557 คือก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดโฮม ชอปปิ้ง พร้อมทำยอดขายเพิ่มขึ้น 40% เช่นเดียวกับมุ่งขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 40%รวมทั้งเพิ่มสินค้าใหม่อีกประมาณ 15%”
“ภาพรวมของตลาดโฮมชอปปิ้งถือว่าดีและมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 25% ต่อปี เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้าสู่ระบบมากขึ้นและมีการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการแต่ละรายต่างมีจุดแข็งและกลไกการตลาดที่แตกต่างกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือกเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันยังมีผลทำให้ผู้กลุ่มบริโภคกลุ่มใหม่ๆ เริ่มทดลองใช้บริการและมีประสบการณ์การซื้อเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นมาก”