ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป. พล่าน! ส.ว.คำนูณ ถามจุดยืน หนุนล้างผิด ม.112 หมิ่นสถาบัน-เผาบ้านเผาเมือง ที่ปรับมาจากร่างนิติเรด ครอบคลุมคดีหมิ่นเบื้องสูงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้านโฆษกปชป.อ้างเห็นด้วยกับหลักการ ร่างฉบับแดงอกหัก เหตุแยกแยะคดีชัดเจน “มาร์ค”ยื่นเงื่อนไขหนุน แต่รัฐบาลต้องถอนฉบับอื่นก่อน ด้านวิปรัฐยันกม.เงินต้องมาก่อนทุกข์คนเสื้อแดง
วานนี้ (18 ก.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก คำนูณ สิทธิสมาน ย้ำถามถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการชุมนุมปี 2553 ว่า 3 ประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับแม่น้องเกด มีอยู่ 2 ประเด็นสำคัญที่พูดไปแล้วคือ 1. นิรโทษกรรมให้แก่ผู้ทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในมาตรา 3 (3) และ 2. นิรโทษกรรมแก่ผู้วางเพลิงสถานที่ราชการ อยู่ในมาตรา 3 (4) วรรคสอง
“อีก 1 ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับพี่น้องที่ร่วมชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ยังไม่ได้พูดถึงคือ... 3. ไม่นิรโทษมวลชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณีชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ในตอนท้ายมาตรา 3 (3) เรื่องพันธะกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ”นายคำนูณระบุ
นายคำนูณกล่าวอีกว่า ร่างฯ นี้ปรับมาจากร่างฯ ของคณะนิติราษฎร์ เพียงแต่ตัดเนื้อหาว่าด้วยคณะกรรมการฯ (คณะกรรมการแก้ไขความขัดแย้ง) ออกไป และปรับข้อความที่มุ่งให้ครอบคลุมมาตรา 112 ให้ชัดเจนขึ้น จึงขอถามย้ำจุดยืนอย่างเป็นทางการของพรรคประชาธิปัตย์ให้ชัดเจนอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโปรดตอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ Blue Sky Channel ว่า ให้ความสนใจกับกฎหมายฉบับนี้ เพราะเป็นแนวคิดที่ใช้ได้คือเราจะพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดองเราต้องพยายามมาช่วยประชาชนที่เข้าไปร่วมในการแสดงออกทางการเมือง ไปเดินขบวน แต่สถานการณ์ในขณะนั้น เป็นสถานการณ์พิเศษ ก็จึงเกิดการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นกรณีการทำผิดกฎหมายพิเศษบ้าง การทำผิดกฎหมายเล็กๆ น้อยๆ บ้าง กรณีอย่างนี้คิดว่าเพื่อเป็นการแสดงออกให้เห็นว่า เรามุ่งไปสู่ความปรองดอง ก็สามารถที่จะนิรโทษกรรมได้ แต่เราไม่สมควรที่จะไปนิรโทษกรรมคนที่มีเจตนาในการเคลื่อนไหวที่ขัดกับหลักของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ก็คือการใช้อาวุธ การมุ่งต่อชีวิต การมุ่งต่อทรัพย์สินและการนิรโทษกรรมนี้ไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องอะไรเลยกับคดีทุจริตแต่กฎหมายนิรโทษกรรมที่ผ่านมาเป็นแบบเหมาเข่งครับ
อย่างไรก็ตาม ยังมีรายละเอียดมี 2-3 ประเด็น ที่ยังไม่เห็นด้วยและน่าจะมาตกลงกัน ขณะที่ฉบับอื่นต้องโละทิ้ง ถ้าอย่างนี้เรื่องนิรโทษกรรมจะจบ ไม่ต้องมาพูดกันอีกเลย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็คือว่า กรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ บังเอิญอยู่ในหมวดความมั่นคง ไม่ควรที่จะเอาเข้ามา เพราะว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้งในสังคม นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแยกแยะความผิดที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อทรัพย์ ที่พูดเฉพาะทรัพย์ของเอกชน ก็พูดกันง่ายๆ ตรงๆ ก็คือไปบอกว่า เผาเซ็นทรัลเวิล์ดเผาสยามสแควร์ ยังได้โทษอยู่ แต่เผาศาลากลาง นิรโทษอันนี้ไม่เห็นด้วย
"กำลังหารือกับคนในพรรค ถ้ารัฐบาลถอนกฎหมายทุกฉบับที่อยู่ในสภาออก เอาฉบับประชาชนนี้ มาเป็นตัวตั้งแล้วหารือกันนอกรอบ คุยกันเลยว่า หลักการอย่างนี้ ฝ่ายค้านรับได้ อย่างเช่นที่ผมบอก หลักกว้างๆ อย่างนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม แต่ไม่ให้คนเผาศาลากลาง และไม่ให้คนทำผิดมาตรา 112 เอาคร่าวๆ อย่างนี้ผมคิดว่าเดินได้ แล้วแสดงให้เห็นเลยว่า ทุกคนสนับสนุน และห้ามเบี้ยวจากนี้"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในหลักการถือว่าใช้ได้เพราะมีการแยกแยะความผิด แต่ตนไม่สบายใจที่มีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เกิดความเข้าใจผิดต่อพรรคประชาธิปัตย์ จึงขอย้ำหลักการที่พรรคเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นี้ว่า เพราะมีการแยกแยะการกระทำผิดตามลักษณะการกระทำ โทษและคดีความ โดยมีการระบุว่าจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และความผิดลหุโทษก็สามารถนิรโทษกรรมได้เพื่อสร้างความปรองดองให้สังคมไทย แต่จุดยืนของพรรคไม่สนับสนุนหรือไม่ยินยอมให้มีการนิรโทษกรรมกับแกนนำผุ้สั่งการไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นหรือแกนนำผู้ชุมนุม ทั้งนี้พรรคไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมกลุ่มที่มีพฤติกรรมเผาสถานที่ทั้งของราชการและเอกชน ทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีความผิดมาตรา 112 ต้องไม่รวมในการนิรโทษกรรม ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีการบิดเบือนว่าพรรคสนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมผู้ทำความผิดมาตรา 112
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวปฏิเสธ ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะนำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับแรก ในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป ตามที่มีกระแสข่าว โดยวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อพิจารณาหาข้อยุติอีกครั้ง แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังเห็นว่า ควรนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2557 ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะมีความสำคัญต่อประเทศและประชาชน โดยเบื้องกำหนดระยะเวลาการพิจารณาไว้ 3 วัน คือวันที่ 14-16 สิงหาคม
ด้านนายวรชัย กล่าวว่า ที่เสนอเป็นวาระแรก เพราะมีความสำคัญต่อการเยียวยาจิตใจประชาชนที่ถูกคุมขัง ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่าเงินงบประมาณ อีกทั้งการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมใช้เวลาเพียง 1 วันก็เสร็จสิ้น เพราะมีเนื้อหาชัดเจนในการนิรโทษกรรมประชาชนทุกกลุ่ม ยกเว้นแกนนำและผู้สั่งการ ส่วนประเด็นไหนที่มีข้อสงสัยสามารถลงรายละเอียดได้ในชั้นกรรมาธิการ.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านว่า ถ้าพรรคไม่ทำตามที่เคยหาเสียงไว้ต่อไปจะหาเสียงลำบาก เพราะชาวบ้านจะมองว่าถูกหลอกลวง
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นาย อภิสิทธิ์ เกำลังพูดจาบิดเบือน เกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เรื่องการนิรโทษกรรม ให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ รัฐบาลขอเรียนว่า การผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรองดอง การนิรโทษกรรม หรือ การแก่้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการขับเคลื่อนของ ส.ส. และ ส.ว ในสภาฯ อยู่แล้ว ไม่ใช่การดำเนินการของรัฐบาล ดังนั้น หาก นาย อภิสิทธิ์ ปากกับใจตรงกัน คือ เห็นแก่ประชาชนจริง ก็สามารถทำได้โดยใช้กลไกรัฐสภา สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ได้เช่นกัน เพราะไม่ว่า จะเป็น ร่าง พ.ร.บ ฉบับของ ส.ส.วรชัย เหมะ หรือ ฉบับของมารดา น.ส. กมนเกด ก็มีหลักการเดียวกัน คือ ไม่นิรโทษกรรมให้แกนนำของทุกฝ่ายอยู่แล้ว หวังว่า นาย อภิสิทธิ์ จะไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพียงเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ หวังว่า นาย อภิสิทธิ์ จะไม่อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานาเพื่อกลืนน้ำลายตัวเอง จึงขอให้สังคมรอดูพฤติกรรมของ นาย อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะแก้ตัวอย่างไรเมื่อถึงเวลานั้น นอกจากนี้ ขอให้ นาย อภิสิทธิ์ เลิกกล่าวหาว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยผลักดัน พ.ร.บ ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ เฉลิม อยู่บำรุง เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร เพราะที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้พูดชัดเจนว่า ที่ประชุมพรรคยังไม่เคยมีมติใด ๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ เฉลิม และขอให้ นาย อภิสิทธิ์ เลิกบิดเบือนว่ารัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ไม่สนใจนิรโทษกรรมคดีเล็กๆน้อย ๆ ของประชาชน เพราะที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ต่างหาก ที่เป็นฝ่ายขัดขวางกระบวนการสร้างความปรองดองโดยการสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นการทำลายบรรยากาศความปรองดองมาโดยตลอด เหมือนพวกปากกับใจไม่ตรงกัน
วานนี้ (18 ก.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหาได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก คำนูณ สิทธิสมาน ย้ำถามถึงจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ที่สนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชน นำโดยนางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการชุมนุมปี 2553 ว่า 3 ประเด็นสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ฉบับแม่น้องเกด มีอยู่ 2 ประเด็นสำคัญที่พูดไปแล้วคือ 1. นิรโทษกรรมให้แก่ผู้ทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 อยู่ในมาตรา 3 (3) และ 2. นิรโทษกรรมแก่ผู้วางเพลิงสถานที่ราชการ อยู่ในมาตรา 3 (4) วรรคสอง
“อีก 1 ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับพี่น้องที่ร่วมชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิที่ยังไม่ได้พูดถึงคือ... 3. ไม่นิรโทษมวลชนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กรณีชุมนุมที่สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ในตอนท้ายมาตรา 3 (3) เรื่องพันธะกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศ”นายคำนูณระบุ
นายคำนูณกล่าวอีกว่า ร่างฯ นี้ปรับมาจากร่างฯ ของคณะนิติราษฎร์ เพียงแต่ตัดเนื้อหาว่าด้วยคณะกรรมการฯ (คณะกรรมการแก้ไขความขัดแย้ง) ออกไป และปรับข้อความที่มุ่งให้ครอบคลุมมาตรา 112 ให้ชัดเจนขึ้น จึงขอถามย้ำจุดยืนอย่างเป็นทางการของพรรคประชาธิปัตย์ให้ชัดเจนอีกครั้ง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโปรดตอบ
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ Blue Sky Channel ว่า ให้ความสนใจกับกฎหมายฉบับนี้ เพราะเป็นแนวคิดที่ใช้ได้คือเราจะพิจารณาเรื่องการนิรโทษกรรมเพื่อความปรองดองเราต้องพยายามมาช่วยประชาชนที่เข้าไปร่วมในการแสดงออกทางการเมือง ไปเดินขบวน แต่สถานการณ์ในขณะนั้น เป็นสถานการณ์พิเศษ ก็จึงเกิดการกระทำผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นกรณีการทำผิดกฎหมายพิเศษบ้าง การทำผิดกฎหมายเล็กๆ น้อยๆ บ้าง กรณีอย่างนี้คิดว่าเพื่อเป็นการแสดงออกให้เห็นว่า เรามุ่งไปสู่ความปรองดอง ก็สามารถที่จะนิรโทษกรรมได้ แต่เราไม่สมควรที่จะไปนิรโทษกรรมคนที่มีเจตนาในการเคลื่อนไหวที่ขัดกับหลักของกฎหมาย และรัฐธรรมนูญ ก็คือการใช้อาวุธ การมุ่งต่อชีวิต การมุ่งต่อทรัพย์สินและการนิรโทษกรรมนี้ไม่ควรจะไปเกี่ยวข้องอะไรเลยกับคดีทุจริตแต่กฎหมายนิรโทษกรรมที่ผ่านมาเป็นแบบเหมาเข่งครับ
อย่างไรก็ตาม ยังมีรายละเอียดมี 2-3 ประเด็น ที่ยังไม่เห็นด้วยและน่าจะมาตกลงกัน ขณะที่ฉบับอื่นต้องโละทิ้ง ถ้าอย่างนี้เรื่องนิรโทษกรรมจะจบ ไม่ต้องมาพูดกันอีกเลย
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็คือว่า กรณีคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ บังเอิญอยู่ในหมวดความมั่นคง ไม่ควรที่จะเอาเข้ามา เพราะว่าจะเป็นประเด็นความขัดแย้งในสังคม นอกจากนี้ยังมีเรื่องการแยกแยะความผิดที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อทรัพย์ ที่พูดเฉพาะทรัพย์ของเอกชน ก็พูดกันง่ายๆ ตรงๆ ก็คือไปบอกว่า เผาเซ็นทรัลเวิล์ดเผาสยามสแควร์ ยังได้โทษอยู่ แต่เผาศาลากลาง นิรโทษอันนี้ไม่เห็นด้วย
"กำลังหารือกับคนในพรรค ถ้ารัฐบาลถอนกฎหมายทุกฉบับที่อยู่ในสภาออก เอาฉบับประชาชนนี้ มาเป็นตัวตั้งแล้วหารือกันนอกรอบ คุยกันเลยว่า หลักการอย่างนี้ ฝ่ายค้านรับได้ อย่างเช่นที่ผมบอก หลักกว้างๆ อย่างนี้ครอบคลุมทุกกลุ่ม แต่ไม่ให้คนเผาศาลากลาง และไม่ให้คนทำผิดมาตรา 112 เอาคร่าวๆ อย่างนี้ผมคิดว่าเดินได้ แล้วแสดงให้เห็นเลยว่า ทุกคนสนับสนุน และห้ามเบี้ยวจากนี้"นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายชวนนท์ อินทรโกมาลสุตย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ในหลักการถือว่าใช้ได้เพราะมีการแยกแยะความผิด แต่ตนไม่สบายใจที่มีความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นให้เกิดความเข้าใจผิดต่อพรรคประชาธิปัตย์ จึงขอย้ำหลักการที่พรรคเห็นด้วยกับ พ.ร.บ.นี้ว่า เพราะมีการแยกแยะการกระทำผิดตามลักษณะการกระทำ โทษและคดีความ โดยมีการระบุว่าจะนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และความผิดลหุโทษก็สามารถนิรโทษกรรมได้เพื่อสร้างความปรองดองให้สังคมไทย แต่จุดยืนของพรรคไม่สนับสนุนหรือไม่ยินยอมให้มีการนิรโทษกรรมกับแกนนำผุ้สั่งการไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลขณะนั้นหรือแกนนำผู้ชุมนุม ทั้งนี้พรรคไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมกลุ่มที่มีพฤติกรรมเผาสถานที่ทั้งของราชการและเอกชน ทำลายทรัพย์สินผู้อื่นจนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีความผิดมาตรา 112 ต้องไม่รวมในการนิรโทษกรรม ดังนั้นจึงไม่อยากให้มีการบิดเบือนว่าพรรคสนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมผู้ทำความผิดมาตรา 112
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวปฏิเสธ ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะนำ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ขึ้นมาพิจารณาเป็นอันดับแรก ในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป ตามที่มีกระแสข่าว โดยวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อพิจารณาหาข้อยุติอีกครั้ง แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ยังเห็นว่า ควรนำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณร่ายจ่ายประจำปี 2557 ขึ้นมาพิจารณาก่อน เพราะมีความสำคัญต่อประเทศและประชาชน โดยเบื้องกำหนดระยะเวลาการพิจารณาไว้ 3 วัน คือวันที่ 14-16 สิงหาคม
ด้านนายวรชัย กล่าวว่า ที่เสนอเป็นวาระแรก เพราะมีความสำคัญต่อการเยียวยาจิตใจประชาชนที่ถูกคุมขัง ซึ่งพรรคเพื่อไทยควรเห็นแก่ความเดือดร้อนของประชาชนมากกว่าเงินงบประมาณ อีกทั้งการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมใช้เวลาเพียง 1 วันก็เสร็จสิ้น เพราะมีเนื้อหาชัดเจนในการนิรโทษกรรมประชาชนทุกกลุ่ม ยกเว้นแกนนำและผู้สั่งการ ส่วนประเด็นไหนที่มีข้อสงสัยสามารถลงรายละเอียดได้ในชั้นกรรมาธิการ.
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน กล่าวถึงการผลักดัน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้านว่า ถ้าพรรคไม่ทำตามที่เคยหาเสียงไว้ต่อไปจะหาเสียงลำบาก เพราะชาวบ้านจะมองว่าถูกหลอกลวง
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นาย อภิสิทธิ์ เกำลังพูดจาบิดเบือน เกี่ยวกับท่าทีของรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย เรื่องการนิรโทษกรรม ให้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ รัฐบาลขอเรียนว่า การผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรองดอง การนิรโทษกรรม หรือ การแก่้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการขับเคลื่อนของ ส.ส. และ ส.ว ในสภาฯ อยู่แล้ว ไม่ใช่การดำเนินการของรัฐบาล ดังนั้น หาก นาย อภิสิทธิ์ ปากกับใจตรงกัน คือ เห็นแก่ประชาชนจริง ก็สามารถทำได้โดยใช้กลไกรัฐสภา สนับสนุน ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ที่กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ได้เช่นกัน เพราะไม่ว่า จะเป็น ร่าง พ.ร.บ ฉบับของ ส.ส.วรชัย เหมะ หรือ ฉบับของมารดา น.ส. กมนเกด ก็มีหลักการเดียวกัน คือ ไม่นิรโทษกรรมให้แกนนำของทุกฝ่ายอยู่แล้ว หวังว่า นาย อภิสิทธิ์ จะไม่ได้พูดเรื่องนี้ เพียงเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่พอถึงเวลาจริงๆ หวังว่า นาย อภิสิทธิ์ จะไม่อ้างเหตุผลต่าง ๆ นานาเพื่อกลืนน้ำลายตัวเอง จึงขอให้สังคมรอดูพฤติกรรมของ นาย อภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ว่าจะแก้ตัวอย่างไรเมื่อถึงเวลานั้น นอกจากนี้ ขอให้ นาย อภิสิทธิ์ เลิกกล่าวหาว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยผลักดัน พ.ร.บ ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ เฉลิม อยู่บำรุง เพื่อประโยชน์ของ พ.ต.ททักษิณ ชินวัตร เพราะที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยได้พูดชัดเจนว่า ที่ประชุมพรรคยังไม่เคยมีมติใด ๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ปรองดอง ฉบับ ร.ต.อ เฉลิม และขอให้ นาย อภิสิทธิ์ เลิกบิดเบือนว่ารัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทย ไม่สนใจนิรโทษกรรมคดีเล็กๆน้อย ๆ ของประชาชน เพราะที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ต่างหาก ที่เป็นฝ่ายขัดขวางกระบวนการสร้างความปรองดองโดยการสร้างเงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นการทำลายบรรยากาศความปรองดองมาโดยตลอด เหมือนพวกปากกับใจไม่ตรงกัน
