xs
xsm
sm
md
lg

รัฐพล่าน!แก้ข้าวถุงมีสารพิษ "เช็ค"ขอโทษ-ซีพียอมถอนฟ้อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-ตื่นแก้ปัญหาข้าวมีสารพิษตกค้าง "หมอประดิษฐ"สั่งตรวจข้าวทุกยี่ห้อ เพื่อให้ผู้บริโภคสบายใจ พร้อมนำข้าวถุงเข้าสู่ระบบตรวจของ อย. จ่อประกาศคุมสารอีก 3 ชนิดที่ใช้ในการผลิต ข้าวโค-โค่ ยอมรับผิด เรียกคืนข้าวที่จำหน่ายล็อตที่มีปัญหาทั้งหมด ส.ส.เพื่อไทย แทงคนกันเอง เผยรับไม่ได้หากขายข้าวสต๊อกรัฐขาดทุน ด้าน "พาณิชย์"เปิดประมูลข้าวเปลือกอีก 2 แสนตัน ยื่นประมูล 30 ก.ค. "เช็ค-คนค้นฅน" เดินสายขอขมา ซีพี.ถอย จ่อถอนฟ้อง

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยถึงกรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคแถลงผลตรวจข้าวยี่ห้อโค-โค่ พบสารเมทิลโบรไมด์เกินมาตรฐาน 50 ppm ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เตรียมสุ่มตรวจข้าวสารเพิ่มทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยในระยะสั้นขอให้ประชาชนเป็นผู้ชี้แหล่งว่าต้องการให้ อย. และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจข้าวยี่ห้อใดและสถานที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านค้าส่ง หรือโรงสี เพื่อความสบายใจของผู้บริโภค ส่วนในระยะยาวเร่งให้ อย. บังคับใช้มาตรฐานการผลิตอาหารที่ดีขั้นพื้นฐาน (Primary GMP) ในผู้ผลิตข้าวถุง จากเดิมที่กำหนดให้เริ่มดำเนินการในปี 2558 ให้เริ่มวันที่ 1 ม.ค.2557 และให้ผู้ประกอบการปรับปรุงสถานที่ให้ได้มาตรฐานให้แล้วเสร็จภายใน 5 เดือน

"ขอให้ทุกฝ่ายอย่านำปัญหาเรื่องข้าวมาเป็นเกมการเมือง เพราะจะกระทบต่อการส่งออกข้าวของประเทศที่เป็นรายได้หลัก จะทำให้ไทยเสียโอกาสทางการค้า และในวันนี้ (18 ก.ค.) นายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่สุ่มตรวจบริษัทผู้ผลิตข้าวถุงใน จ.พระนครศรีอยุธยา"นพ.ประดิษฐกล่าว

นายนพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เดิมทีข้าวสารจัดเป็นอาหารทั่วไป มีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ไม่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบจาก อย. แต่เมื่อปลายปี 2555 มีความคิดที่จะยกระดับคุณภาพอาหารทั่วไปให้ได้มาตรฐานการผลิตอาหารที่ดีขั้นพื้นฐาน (Primary GMP) โดยให้เวลาผู้ประกอบการกลุ่มอาหารทั่วไปดำเนินการภายใน 3 ปี หรือภายในปี 2558 รวมไปถึงข้าวบรรจุถุงต่อไปจะต้องมีเลขสารบบ อย.ด้วย เบื้องต้นมี 1 รายมาขอขึ้นทะเบียนแล้ว คือ ข้าวตราฉัตร

ทั้งนี้ การมาขอขึ้นทะเบียนก็จะต้องมีการตรวจโรงงาน เพราะการรมข้าวเป็นสิ่งสำคัญ จะต้องมีการเข้มงวดมากขึ้น แต่หากข้าวที่ขายในประเทศหันมาใช้สารฟอสฟีนทั้งหมดจะตัดปัญหาไปได้ แต่ผู้ประกอบการบางรายอาจต้องใช้สารเมทิลโบรไมด์ เพราะประเทศคู่ค้ากำหนดให้ใช้ แต่สารตัวนี้มีข้อตกลงว่าจะเลิกใช้ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากทำลายโอโซน แต่ไม่ใช่เพราะมีผลต่อสุขภาพ

***จ่อคุมสาร 3 ชนิดที่ใช้ผลิตข้าวถุง

ภญ.ศรีนวล กรกชกร รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า คณะกรรมการอาหารและยา มีข้อสรุปว่าจะแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องอาหารที่มีสารพิษตกค้าง (ฉบับที่ 2) ตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 โดยจะเพิ่มชนิดและปริมาณสารพิษตกค้างจากวัตถุอันตรายทางการเกษตรในบัญชีอาหารหมายเลข 1 ปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด (Maximum Residue Limit : MRL) โดยจะกำหนดให้สารไฮโดรเจนฟอสไฟด์ (Hydrogen Phasphide) มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด ไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมของต่อ 1 กิโลกรัมของอาหาร สารเมทิลโบรไมด์ (Methyl Bromide) มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมของสารต่อ 1 กิโลกรัมของอาหาร และสารซัลฟูริล ฟลูออไรด์ (Sulfuryl Fluoride) มีปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุดไม่เกิน 0.1 มิลลิกรัมของสารต่อ 1 กิโลกรัมของอาหาร โดยเป็นไปตามมาตรฐานอาหารระหว่างประเทศ (CODEX) และจะเสนอให้ รมว.สาธารณสุข ลงนามและประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันที

"การแก้ไขประกาศ เป็นแนวทางที่สามารถควบคุมและดูแลสถานการณ์ได้รวดเร็วที่สุด เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อการผลิตข้าวถุงในประเทศ"

ส่วนตัวอย่างข้าวโค-โค่ ผลการตรวจสอบพบว่า มีปริมาณสารเมทิลโบรไมด์ เกินมาตรฐานอยู่ที่ 94.2 ppm ส่วนขั้นตอนการเอาผิด ที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีการกำหนดค่ามาตรฐานในข้าวสารมาก่อน เพราะถือว่าเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงต่ำ และเมื่อแปลผลเป็นค่าอันตรายต่อหน่วยที่ร่างกายไม่ควรได้รับ ก็ถือว่ายังไม่เกินค่ามาตรฐาน

***เผยเจอสารพิษเหตุรมข้าวผิดวิธี

นายชูศักดิ์ ว่องวิชชกร หัวหน้าด่านตรวจพืชท่าเรือกรุงเทพ กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าการที่ข้าวถุงยี่ห้อโค-โค่ มีสารเมทิลโบรไมด์เกินมาตรฐาน เกิดจากความผิดพลาดทางเทคนิคในการรมข้าวถุงล็อตนี้ เนื่องจากบริษัทผลิตออเดอร์ได้เร็วและต้องรอการส่งไปยังศูนย์จำหน่ายประมาณ 3 วัน จึงทำการรมข้าวซึ่งบรรจุถุงเสร็จแล้ว เพราะมีความเข้าใจว่าจะสามารถช่วยป้องกันมอดและแมลงต่างๆ ได้ ตรงนี้ถือว่าผิดหลักการในการรมข้าว เพราะโดยปกติจะต้องรมข้าวที่เป็นวัตถุดิบก่อนบรรจุเท่านั้น

"การที่บริษัทรมควันหลังบรรจุข้าวถุงแล้ว จะทำให้สารเมทิลโบรไมด์ซึมเข้าไปในถุงข้าวผ่านรูที่เจาะไว้เพื่อไล่อากาศจำนวน 8 รู ซึ่งรมไว้นาน 24 ชั่วโมง เมื่อระบายสารออกแล้ว สารที่อยู่นอกถุงข้าวก็จะระเหยหายไปหมด แต่สารที่ซึมเข้าไปในถุงข้าวจะระเหยออกจากถุงได้ยาก เพราะไม่สามารถซึมผ่านพลาสติกได้ จึงเป็นสาเหตุทำให้ตรวจพบสารเกินมาตรฐาน เนื่องจากเปิดถุงแล้วทำการตรวจสอบเลย ทำให้สารระเหยไม่ทัน ซึ่งความจริงแล้วหากเปิดถุงทิ้งไว้ สารก็จะค่อยๆ ระเหยลดน้อยลงไปเอง ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับทราบและรับปากจะแก้ไขแล้ว"

***"โค-โค่"ยอมเรียกข้าวถุงคืน

นายจรูญ ศรีวสันต์ศักดิ์ ผู้จัดการบริษัท สยามเกรนส์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้เรียกคืนสินค้าข้าวบรรจุถุงยี่ห้อโค-โค่ทั้งหมดแล้ว จำนวน 3,000 ถุง หากผู้บริโภคมีการซื้อไปแล้ว ก็สามารถนำมาส่งคืนได้เช่นกัน

"ต้องขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายด้วยที่มีการดำเนินการรมควันผิดพลาด และต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร อย. รวมถึงมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคด้วย ที่สะท้อนการทำงาน ทำให้ทราบว่าการทำงานของเรามีปัญหา ซึ่งเราพร้อมที่จะรับฟังแล้วนำมาแก้ไข ไม่เพียงแต่องค์กรเท่านั้น แม้ผู้บริโภคเพียงรายเดียวมาร้อง เราก็พร้อมรับฟัง ซึ่งความผิดพลาดในครั้งนี้เกิดจากเทคนิคในการรมควัน ซึ่งเราไม่ทราบมาก่อนว่าการรมข้าวหลังบรรจุถุงแล้วถือว่าผิดวิธีการ ซึ่งบริษัทก็ขอยอมรับผิดในจุดนี้" นายจรูญกล่าว

**หน่วยงานรัฐประสานเสียงกินแล้วไม่ตาย

วันเดียวกันนี้ มีการประชุมคณะกรรมาธิการที่ดินทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร มีนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง เป็นประธาน ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ และกรมวิชาการเกษตร เข้าชี้แจงถึงกรณีปัญหาผลกระทบจากการใช้สารเคมีในการจัดการคุณภาพข้าว และมมติให้ทำหนังสือถึงรัฐบาลให้ตรวจสอบโกดังข้าวทั้งปริมาณและคุณภาพอย่างละเอียด และตรวจสอบข้าวทุกยี่ห้อในท้องตลาด ไม่ใช่สุ่มตรวจ

นายศักดิ์เกษม สุนทรภัทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร จากกรมวิชาการเกษตร กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันมีการใช้สารเคมี 2 ชนิด คือ เมทิลโบรไมด์ และฟอสฟีน เพื่อรมควันข้าว ซึ่งสารดังกล่าวแม้จะเป็นวัตถุอันตราย แต่ตามกฎหมายของประเทศไทยและในบางประเทศ ระบุไว้ชัดเจนว่า การส่งออกข้าวและสินค้าอื่นๆ แต่ละครั้งจะต้องผ่านการรมควันข้าวด้วยการใช้สารเคมีดังกล่าวก่อน เพื่อป้องกันแมลง แต่จะใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เป็นไปตามมาตรฐาน ขณะที่สารในลักษณะนี้ ก็ไม่ได้มีในเฉพาะข้าวสารเท่านั้น แต่ยังมีในผลไม้ต่างๆ ทั้งแอปเปิ้ล ส้ม และมะพร้าวที่นำเข้ามาในประเทศไทยด้วย

นางกนกพร อภิสุข ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาตรฐานอาหาร ผู้แทนจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรณีข้าวในโกดังที่รอการจำหน่าย ก็มักจะทำการรมควันก่อน เพื่อป้องกันมอดและแมลง เมื่อทำการตรวจสอบ ก็อาจจะพบว่าสารเคมีปนเปื้อนอยู่ได้ แต่การปนเปื้อนดังกล่าวนั้นไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต และองค์การอนามัยโลกได้รับรองแล้วว่า หากบริโภคข้าวที่มีสารดังกล่าวตลอดทั้งชีวิต ก็จะไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากมีปริมาณสารจำนวนน้อย

***คนกันเองรับไม่ได้ขายข้าวขาดทุน

ที่รัฐสภา นายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การระบายข้าวที่ยังเหลืออีก20ล้านตันในสต๊อก ตนอยากให้รัฐบาลระบายข้าวให้ได้ตันละ15,000 บาท ตามราคาท้องตลาด เพราะขณะนี้มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะระบายข้าวในราคาตันละ12,000บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาด ถ้าหากระบายได้ต่ำกว่า15,000 บาท ผู้ที่รับผิดชอบโดยเฉพาะนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ จะต้องทบทวนว่าจะมีวิธีไหนที่จะระบายข้าวได้ราคาตามท้องตลาด เพราะตนรับไม่ได้หากรัฐบาลจะต้องขาดทุนไปมากกว่านี้

“รัฐบาลไม่ควรใช้วิธีการประมูลในทางลับ เพราะจะรู้กันเฉพาะบริษัทใหญ่ๆ เพียงไม่กี่แห่ง หากจะขายข้าวในราคาถูก ก็ควรเอามาบรรจุถุงขายให้ประชาชนในราคากิโลกรัมละ 15 บาท จะดีกว่า รัฐบาลช่วยชาวนาแล้ว ก็ควรช่วยผู้บริโภคด้วย”นายไพโรจน์ กล่าว

***"ปู"โวยสื่อเสนอแต่เรื่องซ้ำๆ

ที่อิมแพคเมืองทองธานี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคตรวจสอบข้าวสารบรรจุถุงพบสารตกค้างเกินมาตรฐานในบางยี่ห้อว่า รัฐบาลไม่ปิดกั้นในการที่จะช่วยรัฐบาลตรวจสอบ แต่อยากขอความกรุณาว่าจริงๆ ในส่วนของรัฐบาล ก็มีมาตรฐานการตรวจสอบจากกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว อยากขอให้ประสานงานกัน เพราะไม่อยากให้ต่างคนต่างออกไป แล้วทำให้เกิดความกังวลต่อประชาชน ซึ่งวันนี้ เราพร้อมบูรณาการลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบให้เกิดความกระจ่างกับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายฝ่ายเกรงจะกระทบการส่งออก โดยเฉพาะส่งไปประเทศจีน นายกฯ กล่าวว่า ขอความกรุณาอย่าพูด เพราะจะเกิดความเสียหายทั้งระบบ ทั้งๆ ที่ข้าวไทยมีคุณภาพดีอยู่แล้ว

"ตรงนี้ต้องขอความร่วมมือสื่อมวลชน ถ้าสื่อมวลชนยังถามคำถามนี้อยู่ตลอดเวลามันก็ไม่ไปไหน ก็ต้องเรียนว่าขอความเห็นใจจริงๆ เถอะ วันนี้แทนที่เราจะเดินข้างหน้าแล้ว แต่กลับมาคุยกันแต่ประเด็นตรงนี้ อันนี้ต้องขอความกรุณาจริงๆ"นายกฯ กล่าว

***ขอไปดูโรงงานผลิตให้เห็นกับตา

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่การประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จ.อยุธยา และจะไปตรวจเยี่ยมผู้ผลิตข้าวถุงตราฉัตร มีวัตถุประสงค์อะไร นายกฯ กล่าวว่า อยากไปสำรวจเองด้วยตา อยากไปฟังผู้ประกอบการ เป็นการฟังทุกมุมมอง เพราะวันนี้อาจจะฟังจากจุดที่ตรวจปลายทาง ไม่ดูทั้งกระบวนการ อยากให้โอกาสกับทุกคนได้พูดและให้ข้อมูลอย่างเต็มที่

*** "มาร์ค"โหน ชื่นชมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาคุณภาพข้าวถุงที่พบสารปนเปื้อนว่า รัฐบาลต้องดูตามความจริงว่าสารที่เป็นปัญหามีการตกค้างและสะสมได้ และต้องมีมาตรการดูแลในส่วนที่เกินมาตรฐานสากล โดยเฉพาะในส่วนที่เกินมาตรฐานของประเทศคู่ค้าของไทยก็ต้องเอาใจใส่ด้วย หากมีสารตกค้างเกินมาตรฐานก็จะเป็นปัญหาได้

ทั้งนี้ ขอชื่นชมมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคและมูลนิธิชีววิถีที่ตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะตนเคยเรียกร้องมานานแล้วว่ารัฐบาลควรดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการตรวจสอบ มีกระบวนการทางวิทยาศาสตร์รองรับ และเห็นควรผลักดันให้มีกฎหมายจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคตามรัฐธรรมนูญ แต่รัฐบาลนี้ก็ไม่ยืนยันทำให้กฎหมายตกไป

***"หมอวรงค์"ร้องสอบสัญญาข้าวจีทูจี

ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พร้อมด้วยนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกุลเดช พัวพัฒนกุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาสาธิตวิธีการนำข้าวเน่า หรือข้าวเหลืองมาหยอดลงหลุม ให้กับทีมงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีดู หลังจากมีการนัดหมายกันไว้ แต่ปรากฎว่าทีมงานโฆษกฯ ไม่อยู่ เนื่องจากติดภารกิจในการเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นอกสถานที่ หรือครม.สัญจร ระหว่างวันที่ 18-19 ก.ค.ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงมอบหมายให้นายสมภาส นิลพันธ์ ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาดูการสาธิตพร้อมรับหนังสือแทน

ทั้งนี้ นพ.วรงค์ ยังได้มอบเอกสารซึ่งเป็นลายเซ็นของ “มาดามกง” ซึ่งเซ็นชื่อเป็นภาษาจีน ที่มีการระบุว่าเป็นผู้ซื้อข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) จากรัฐบาลไทย รวมทั้งเอกสารที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับช่องทางการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวทุกขั้นตอนมามอบให้ด้วย

นพ.วรงค์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลประกาศทีโออาร์ขายข้าวครั้งล่าสุดเป็นข้าว 5% รวมกับปลายข้าว โดยทีโออาร์ของรัฐบาลกำหนดไว้ว่าเมื่อประมูลได้แล้วจะต้องส่งขายต่างประเทศ ซึ่งตนเห็นด้วย แต่สิ่งที่แปลกใจ คือ เมื่อขายข้าวแบบจีทูจี เหตุใดจึงไม่บังคับ เพราะการขายแบบจีทูจีเป็นช่องทางในการทุจริต โดยตนได้เรียนแล้วว่ามีการใช้ตัวละครคือ “มาดามกง” มาซื้อข้าวแบบจีทูจี แต่แทนที่ข้าวดังกล่าวจะไปยังต่างประเทศ กลับเวียนมาขายในประเทศ จึงไม่แปลกใจว่าราคาข้าวไทยในปัจจุบันนี้ ข้าวสารถูกกว่าข้าวเปลือก จึงขอเรียกร้องให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ไปตรวจสอบสัญญา ซึ่งตรวจสอบไม่กี่ฉบับก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

“จากการตรวจสอบในเชิงลึก เราได้รับการแจ้งมาว่า “มาดามกง” มีความผูกพันกับทีมผู้ประกอบการค้าข้าวแบบจีทูจีทีมเก่า แค่รัฐบาลไปเรียกสัญญามาดูก็จบแล้ว และอยากให้รัฐบาลทำงาน เพราะที่ผ่านมา มีแต่ให้เราไปร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งที่รัฐบาลมีอำนาจทุกอย่าง” นพ.วรงค์กล่าว

อย่างไรก็ตาม ตนไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการฝังชิพลงในกระสอบข้าวเพื่อป้องกันการทุจริต เพราะนายนิวัฒน์ธำรงไม่เข้าใจกระบวนการเส้นทางของข้าวว่ามีการทุจริตในขั้นตอนใดบ้าง ถ้านายนิวัฒน์ธำรงวิเคราะห์ประเด็นนี้ไม่ได้ การไปฝังชิพจะมีแต่การสูญเสีย และถ้านายกฯ และนายนิวัฒน์ธำรง แก้ปัญหาตามรายละเอียดเกี่ยวกับช่องทางการทุจริตที่ตนนำมามอบให้ การฝังชิพจะไม่มีความจำเป็นเลย

***ชวนนท์"ท้า"เต้น"ฟ้องปมข้าวเน่าที่กระบี่

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ตอบโต้เรื่องข้าวเน่าที่ จ.กระบี่ ว่า ไม่อยากให้นายณัฐวุฒิเบี่ยงเบนประเด็นเถียงข้างๆ คูๆ ไร้สาระ ถ้านายรัฐวุฒิแน่จริงขอให้ฟ้องตนได้เลย จะได้ไปพิสูจน์กันในศาล แต่ขอย้ำว่านายณัฐวุฒิต้องเป็นผู้ฟ้องเอง

***เปิดประมูลข้าวเปลือกทำข้าวนึ่งอีก2แสนตัน

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า กรมการค้าต่างประเทศได้ออกประกาศให้ผู้สนใจที่มีคำสั่งซื้อข้าวนึ่งจากต่างประเทศเข้าร่วมประมูลเสนอราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% ปีการผลิต 2555/56 ในสต็อกโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลปริมาณ 200,000 ตัน เพื่อส่งออกต่างประเทศ โดยให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาซื้อข้าวเปลือกได้ภายในวันที่ 30 ก.ค.2556 โดยเป็นการเสนอราคาซื้อ ณ โรงสี และกำหนดให้ผู้ซื้อต้องเสนอราคาซื้อขายที่สอดคล้องกับปริมาณคำสั่งซื้อข้าวนึ่งจากต่างประเทศ

ก่อนหน้านี้ กรมการค้าต่างประเทศ ได้เปิดให้ยื่นประมูลข้าวขาว 1.5 แสนตันเศษ สำหรับส่งออก และปลายข้าวสารเจ้า เอ วันเลิศ 2 แสนตัน ใช้ในประเทศและส่งออก โดยให้ยื่นซองเสนอซื้อในวันที่ 26 ก.ค.2556

***"เช็ค-คนค้นฅน"เดินสายขอขมา

วันเดียวกันนี้ ที่บริษัท ข้าวซีพี จำกัด โรงงานข้าวนครหลวง ตราฉัตร อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มการค้าระหว่างประเทศ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นายองอาจ จัมปากะนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านธุรการสายงานผลิตข้าว และพนักงานบริษัท ได้นำคณะของนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกร ผู้ดำเนินรายการ “คนค้นฅน” พร้อมคณะเยี่ยมชมวิดีทัศน์กระบวนการผลิตข้าว ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานโลกนานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เดินชมกระบวนการผลิตทั้งหมด

ภายหลังการเยี่ยมชมโรงานข้าวตราฉัตร นายสุทธิพงศ์ กล่าวขอขมา และขออโหสิกรรมในเหตุดังกล่าว โดยกล่าวว่า รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และที่ไม่ได้ออกมากล่าวขอโทษในตอนแรกอย่างที่ตั้งใจไว้ เป็นเพราะเหตุการณ์ลุกลามเกินกว่าจะรับมือผู้เดียว จึงต้องขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่และทนายความ แต่ตอนนี้ จะขอทำตามที่ตัวเองประสงค์ โดยรีบเดินทางมาพบ เพื่อขอโทษ และขออโหสิกรรม

ด้านนายสุเมธ กล่าวว่า เข้าใจ และขอบคุณสื่อมวลชนที่มาร่วมพิสูจน์คุณภาพข้าวตราฉัตร พร้อมจะแจ้งถอนฟ้องนายสุทธิพงษ์อย่างเป็นทางการ
กำลังโหลดความคิดเห็น