ข้าวตราฉัตรฟ้อง “เช็ค” สุทธิพงษ์ คนค้นฅน หลังโพสต์เป็นข้าวมีปัญหา

ข้าวตราฉัตรกู้ชื่อฟ้อง “เช็ค สุทธิพงษ์” โพสต์กล่าวหา ด้าน “พาณิชย์” สั่งฝ่ายกฎหมายเอาผิดคนปล่อยข่าวทำลายชื่อเสียงข้าวไทย หลังทำให้เกิดความตื่นตระหนกและทำระบบค้าข้าวเสียหาย พร้อมประสานไอซีทีบล็อกเว็บ และ ขอ อย.ช่วยตรวจคุณภาพอีกทาง สั่งทูตพาณิชย์แจงคู่ค้า ข้าวไทยปลอดภัย

นายสุเมธ เหล่าโมราพร ประธานคณะผู้บริหารกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ผู้บริหารข้าวตราฉัตร ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือซีพี เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ หรือเช็ค กรรมการผู้จัดการบริษัททีวีบูรพา และพิธีกรรายการคนค้นฅน ที่ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีข้อความถึงข้าวไทยมีสารปนเปื้อนและไม่ได้มาตรฐาน และมีการระบุชื่อข้าวตราฉัตร ซึ่งเห็นว่าการกระทำของนายสุทธิพงษ์ ได้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ทางบริษัทเป็นอย่างมาก จึงได้แจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวางเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาในข้อหาหมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

“บริษัทเห็นว่าไม่มีทางเลือก และที่ผ่านมามีนักวิชาการ และสื่อมวลชนบางแขนงได้นำข้อความไปแชร์และขยายผล ซึ่งไม่มีข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการข้าวรายใหญ่ทั้งในและต่างประเทศได้พยายามทำความเข้าใจและชี้แจง โดยได้มีการส่งหนังสือและเชิญให้มาดูขั้นตอนการผลิตข้าวตราฉัตรว่าทุกขั้นตอนได้มาตรฐานและเป็นสากล ซึ่งในกรณีของนายสุทธิพงษ์ได้มีการติดต่อทั้งทางโทรศัพท์ และทางโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ไม่ได้รับการตอบรับ หรือติดต่อกลับแต่อย่างใด จึงทำให้บริษัทตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดี”

อย่างไรก็ตาม ทราบว่านายสุทธิพงษ์จะแถลงข่าวในช่วงบ่ายวันที่ 11 ก.ค. โดยยังไม่รู้ประเด็นที่จะกล่าวขอโทษหรืออย่างไร แต่ในแง่ของการดำเนินคดีทางกฎหมาย เมื่อมีการกล่าวขอโทษจะมีการถอนฟ้องหรือไม่นั้น ได้ให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทเป็นผู้ดำเนินการ แต่โดยส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับนายสุทธิพงษ์ แต่ก็อยากฝากให้สื่อมวลชนทุกแขนง ถ้าไม่รับทราบข้อเท็จจริงสามารถสอบถามมาทางบริษัทได้ พร้อมจะชี้แจงทำความเข้าใจ และขอความร่วมมืออย่าแชร์ข้อมูลที่ไม่มีข้อเท็จจริงเพราะจะทำให้เสื่อมเสียต่อข้าวไทยได้

ทั้งนี้ ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศเกิดความไม่มั่นใจในข้าวไทย แต่ในฐานะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ ได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจอย่างเต็มที่ และทางบริษัทก็พร้อมร่วมมือกับภาครัฐที่จะชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนกรณีที่ภาครัฐมีข้าวในสต๊อกจำนวนมาก ก็ไม่ได้หมายความว่าข้าวในโกดังจะเสียหายทั้งหมด เพราะอาจจะมีบางโกดังที่เสียหายแต่ไม่ได้เสียหายทั้งหมด เพราะแต่ละโกดังมีการจัดการดูแลเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามในช่วง1-2วัน ที่ผ่านมา หลังนายสุทธิพงษ์ ได้ทำการโพสข้อความทางเฟสบุ๊กและถูกแชร์ออกไปอย่างรวดเร็ว ยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อแบรนด์ข้าวตราฉัตรค่อนข้างมาก โดยมีลูกค้าและคู่ค้าโทรเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงจำนวนมาก แต่ในแง่ยอดขายรวมยังไม่ตก ซึ่งหลังมีข่าวออกมา ทางข้าวตราฉัตร จะมีการทำตลาดเรียกความมั่นใจกลับคืนมาแน่นอน โดยเป็นการตลาดที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหลัก

"เรามีแชร์ในตลาดข้าวสารที่ 8% หรือผลิตได้กว่า 4แสนตัน จากมูลค่าตลาดข้าวสารไทยอยู่ที่ 6 ล้านตันต่อปี เป็นข้าวถุง 20% มูลค่าตลาด 30,000 ล้านบาท การเติบโตอยู่ในกลุ่มเกรดพรีเมี่ยม มองว่าคนยังมีความเชื่อมั่นในข้าวถุงไทยอยู่ ขณะที่ครึ่งปีแรกตลาดข้าวไทยส่งออกตก เหตุสถานการณ์เศรษฐกิจโลกตก สินค้าพื้นฐานทั้งทอง น้ำตาล และน้ำมันตก ราคาข้าวไทยจึงต้องมีการปรับตัวลง ครึ่งปีหลังตลาดส่งออกข้าวไทยท้าทายขึ้น มุ่งกลุ่มพรีเมี่ยมเน้นคุณภาพจะช่วยดึงยอดขายกลับมา โดยภาพรวมการขายในประเทศน่าจะดีกว่าส่งออก แต่ต้องดูสถาณการณ์ครึ่งปีหลังด้วย แต่ในภาพรวมเชื่อว่าตลาดข้าวถุงไม่ตก ตลาดข้าวคุณภาพจะมีแต่เติบโตขึ้น เพราะทั้งภาครัฐได้สนับสนุน เช่น ประกาศสินค้าเกรดพรีเมี่ยมในกลุ่มอาหาร เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพอาหารไทยทั้งจากคนไทยเองและต่างประเทศที่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย"

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาข้าวไทยถูกโจมตีมาโดยตลอด ทางข้างตราฉัตรในฐานะผู้นำข้าวถุง และส่งออกไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก จึงนำโรงงานขึ้นทะเบียนกับทางอย. 3โรงงาน เช่นที่ นครหลวง วังแดง และจะขึ้นทะเบียนอีก 3โรงงานเพิ่มเติม อีกทั้งยังนำข้าวตราฉัตรเข้าประกวด โดยได้รางวัลเกียรติยศ อย.ควอลิตี้ อวอร์ด ปี 2556 ตอกย้ำ ข้าวตราฉัตร เป็นข้าวคุณภาพดี สะอาด ปลอดภัย ไร้สารตกข้าง โดยทำพิธีรับรางวัลในวันที่ 11ก.ค ที่ผ่านมา ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงความมั่นใจในคุณภาพข้าวถุงไทยได้

เช็คแถลงยืนยันเจตนาบริสุทธิ์
วันเดียวกัน นายสุทธิพงษ์ แถลงข่าวยืนยันว่า การที่ตนเองได้โพสต์ข้อความผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊กถึงการพาดพิงว่ามีสารพิษตกค้างในข้าวบางยี่ห้อ มีเจตนาที่บริสุทธิ์ใจ และมีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยและสุขภาพของประชาชนที่บริโภค และรู้สึกไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค แต่ขณะที่กำลังชี้แจงเจตนารมณ์ผ่านโทรศัพท์ไอโฟนบังเอิญกดปุ่มโพสต์ทั้งที่ข้อความยังไม่ครบถ้วน และได้มีการลบทันที แต่มีบุคคลนำไปขยายความต่อจนทำให้เกิดการเข้าใจผิด อีกทั้งมีการบิดเบือนเจตนารมณ์ และในวันนี้จึงออกมาแถลงข่าวเพื่อชี้แจงให้สื่อมวลชนได้รับทราบข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ ยืนยันว่า จากการโพสต์ข้อความไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือต้องการดิสเครดิตยี่ห้อข้าวแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้จะเตรียมเข้าชี้แจงกับผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเชื่อว่าจะเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

พาณิชย์เต้นบล็อกข่าว
ด้าน นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีมีการโพสต์ข้อความข้าวถุงบางยี่ห้อมีสารพิษว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายและกรมการค้าภายในไปศึกษาว่าจะใช้กฎหมายหรือมาตรการใดในการเอาผิดผู้ปล่อยข่าวที่สร้างความสับสนและตื่นตระหนกต่อประชาชน และสร้างความเสียหายต่อระบบการค้าข้าวของไทย

ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ในการปิดเว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ในการตรวจสอบคุณภาพ รวมถึงภาคเอกชน ขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริง และมอบนโยบายให้กรมการค้าภายในเพิ่มการใช้ตรารับรองคุณภาพข้าวของกระทรวงพาณิชย์ (ตรามือพนม) เพิ่มเติมจากข้าวถุงหอมมะลิเพื่อสร้างความมั่นใจในการบริโภคข้าวถุง

ส่วนในต่างประเทศ ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศสั่งการให้สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ทั่วโลกทำความเข้าใจและชี้แจงว่าข้าวไทยเป็นข้าวคุณภาพดี ปลอดภัย และยังคงเป็นผู้นำตลาด พร้อมกับให้ทูตพาณิชย์เร่งหาตลาดข้าวเพื่อช่วยในการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม วันที่ 13 ก.ค.นี้จะออกตรวจสอบคุณภาพข้าวในโรงสีที่ผลิตข้าวถุงและส่งออกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับการตรวจสอบเรื่องการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ส่วนกระทรวงฯ คงไม่ดำเนินการตรวจสอบอะไรเพราะมีหน้าที่ในการระบายและส่งเสริมตลาดข้าว