xs
xsm
sm
md
lg

ประชาป้องBRNไม่เกี่ยวบึ้ม "มาร์ค"อัด"ปู"เลิกตีกรรเชียง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงเช้าวานนี้ (17ก.ค.) ว่า ตนได้รับรายงานถึงเหตุดังกล่าวแล้ว เป็นการวางระเบิดข้างทาง มีทหารบาดเจ็บเล็กน้อยแค่ 1 นาย และจากการตรวจสอบได้รับรายงานว่า ผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มย่อยในพื้นที่ โดยคาดว่าผู้ก่อเหตุ ไม่น่าจะใช้กลุ่มบีอาร์เอ็น เนื่องจากเราได้มีการพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว แต่ขณะนี้เราก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้กับทุกกลุ่มจึงอาจมีการก่อกวนบ้าง แต่ก็จะต้องพยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มย่อยต่างๆต่อไป ว่าช่วงนี้เป็นเดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่ไม่ทำบาปกัน
ส่วนจะกระทบการหารือหยุดก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า คงไม่กระทบถึงตรงนั้น เพราะเป็นเพียงกลุ่มย่อย ส่วนการประสานไปยังผู้ประสานงานฝ่ายมาเลเซีย เพื่อแจ้งไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็น ในการสืบทราบนั้น ฝ่ายปฏิบัติงานในพื้นที่คงได้มีการประสานกัน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กลุ่มย่อยที่เรายังไม่ได้เข้าไปทำการพูดคุยด้วย มีกลุ่มใดบ้าง พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนขอไม่พูดถึงเรื่องกลุ่มย่อยต่างๆ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกันไปก่อน และที่ไม่อยากเปิดเผยถึงกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้ เนื่องจากไม่อยากให้ความสำคัญ แต่ที่ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ ที่ทางมาเลเซีย ประสานเข้ามา และเราก็เห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาทในพื้นที่ ส่วนการประสานกับกลุ่มย่อยที่เหลือเหล่านั้น คิดว่าทางเราน่าจะประสานกันได้เอง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาภาคใต้เป็นสถานการณ์พิเศษ ตนก็มีความกังวลใจอยู่บ้าง ว่าจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด อะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา หรือทำความเข้าใจก็จะทำต่อไป ส่วนการปรับยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา ก็ต้องมีการพิจารณาทบทวนกัน ต้องมีการแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจกัน ระหว่างหน่วยปฏิบัติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ส่วนการสื่อสารกับเข้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ตนสามารถสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ได้ตลอด
พล.ต.อ.ประชา กล่าวด้วยว่า วันที่ 21 ก.ค. ตนพร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสธ.ทบ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. จะลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการ ทั้ง กอ.รมน.ภาคสี่ส่วนหน้า ศอ.บต. และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และร่วมละศีลอดกับพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ด้วย
พล.ต.อ.ประชา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พร้อมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เพื่อพูดคุยเรื่องการทำงาน โดยเพิ่มบทบาทในการดูแลประชาชน ว่าจะเข้าไปช่วยเรื่องการพัฒนาในพื้นที่ได้อย่างไร เช่นช่วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฎอน จุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นชุดช่วยเหลือหรือบริการประชาชนเป็นต้น และไม่ได้พูดถึงเรื่องคลิปเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์ สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่อย่างใด เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว ที่ต้องแยกไว้ต่างหาก เมื่อเรามีเวลาน้อยก็คุยเรื่องงานว่าจะทำให้ภาคใต้สงบได้อย่างไร
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ยังมีเหตุระเบิดที่ จ.ยะลา ในช่วงรอมฎอน ที่มีข้อตกลงว่าจะลดความรุนแรงในพื้นที่ว่า ทุกเหตุการณ์ ต้องมีการตรวจสอบ แต่ถ้าดูจากข่าวรูปแบบเหตุการณ์ก็เป็นการกระทำต่อชุดคุ้มครอง ซึ่งต้องวิเคราะห์ต่อว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์ไม่สงบ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว จึงต้องดูว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหน ลดลงมากน้อยแค่ไหน และต้องประเมินอย่างตรงไปตรงมา เพื่อเราจะได้สามารถเดินนโยบายเรื่องการพูดคุยให้เหมาะสมได้ อย่างไรก็ตาม การจะตัดสินใจว่าควรจะเจรจาต่อไปหรือไม่ คงต้องรอให้ครบเดือนตามกำหนดก่อน จากนั้นนำตัวเลขการเกิดเหตุมาประเมิน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อปัญหาภาคใต้ คือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แต่การที่พยายยามจะลอยตัวออกจากปัญหา ทำให้ได้คำตอบที่กระจัดกระจาย ไม่เป็นเอกภาพ เช่น เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา คำอธิบายของ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ออกมาระบุว่ามีการท้วงติงคำแถลงการณ์ ที่รวม อ.สะเดา เข้าไปในกรอบเจรจาแล้ว แต่ก็ต้องถามว่า ถ้าท้วงติงแล้วเหตุใดจึงไม่มีการแก้ไขคำแถลงการณ์
"ที่แปลกก็คือ เป็นการแถลงในนามของฝ่ายไทย กับมาเลเซีย ไม่ใช่ฝ่ายบีอาร์เอ็น เหตุใดจึงไปเขียนเรื่องนี้ไว้ ผมจึงบอกว่า นายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ต้องแสดงจุดยืนออกมา เพราะทหารก็บอกแล้วว่าไม่เห็นด้วยที่จะรวม อ.สะเดา เข้าไป ซึ่งผมเดินทางไปที่ จ.สงขลา ประชาชนก็ไม่สบายใจ ที่มีการระบุ อ.สะเดาเข้าไปในพื้นที่ไม่สงบ รัฐบาลต้องเอาใจใส่กับเรื่องที่มีความละเอียดอ่อนมากกว่านี้ อย่าไปกังวลในเรื่องภาพ ต้องเอาความจริง จึงจะแก้ปัญหาได้ การท้วงติงต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร และแถลงแก้อย่างเป็นทางการว่า พื้นที่สะเดาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่มีความไม่สงบ แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำ ผมเกรงว่าบีอาร์เอ็น จะอ้างโดยปริยายว่า เรายอมรับว่าสะเดา เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีปัญหาซึ่งอยุ่ในกรอบที่จะต้องเจรจากันในอนาคต ซึ่งไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น