“ประชา” ถกหน่วยงานความมั่นคง ก่อนรุดรายงาน “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” เจรจายุติความรุนแรงบีอาร์เอ็นได้ผล 6 วันเดือนรอมฎอน เกิดเหตุแค่ 1 ครั้ง บาดเจ็บ 2 ไม่มีใครตาย รับเป็นช่วงที่ใจหายใจคว่ำ เชื่อใจโจรใต้ได้ระดับหนึ่ง แต่ยืนยันไม่ถอนทหารตามข้อเรียกร้อง ปัดชีวิตคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้บีอาร์เอ็นกำหนดชะตา รัฐบาลไทยต้องเป็นฝ่ายกำหนด พร้อมปฏิเสธไม่ได้ให้ราคา “ฮัสซัน ตอยิบ”
ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.30 น.วันนี้ (16 ก.ค.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงคณะเล็ก โดยมี พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ท.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม จากนั้นเวลา 09.30 น.ทั้งหมดได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้เวลาเกือบ 1 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ได้เข้ารายงานสถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ โดยเฉพาะช่วงเดือนรอมฎอนรอบ 6 วันที่ผ่านมา หากเทียบกับสถิติตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา ซึ่งพบว่าปีนี้เกิดคดีน้อยมาก มีเพียงครั้งเดียว การสูญเสียก็ไม่มี บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 2 คน แม้ว่าจะเป็นสัปดาห์เดียวแต่เป็นช่วงสัปดาห์ใจหายใจคว่ำ เราอยากให้ดีเช่นนี้ไปอีก 30 กว่าวัน นอกจากนี้ได้รายงานเรื่องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นให้นายกฯ รับทราบว่าได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ซึ่งนายกฯ ได้กำชับให้ดูงานเรื่องการพัฒนาด้านต่างๆ และจะทำอย่างไรให้ประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สงบสุข
ส่วนที่หลายฝ่ายเห็นว่าเราไม่ควรวางใจกับบีอาร์เอ็นหรือฝ่ายที่ทำหน้าที่ประสานงาน รองนายกฯ กล่าวว่า ความไว้ใจหรือไม่ต้องดูพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าเหตุการณ์ไม่เกิดเราก็วางใจได้ แต่เมื่อพูดคุยแล้วเหตุการณ์ยังเกิดขึ้น เราก็ต้องทบทวนว่าสมควรไว้ใจมากน้อยแค่ไหน ส่วนเรื่องการถอนกำลังไม่ใช่ประเด็นที่เราจะพิจารณาเป็นหลัก เราจะพิจารณาเหตุที่เกิดเป็นสำคัญ กำลังทหารเราจะถอนหรือไม่ก็อยู่ที่เราพิจารณาซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายที่พูดคุยกับเรามีความจริงใจแค่ไหน พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็น่าจะมีความจริงใจในระดับหนึ่ง ส่วนเงื่อนไขนั้นก็ต้องดูว่าเงื่อนไขอะไรที่เราทำได้ ทำไม่ได้ อย่างถ้าจะให้เราถอนกำลังออกโดยสิ้นเชิงนั้นคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเราต้องดูแลความปลอดภัยประชาชน แต่อาจจะลดบทบาทในด้านยุทธวิธีมาเป็นด้านพัฒนาอันนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่เขาไม่ก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอน เพราะเป้าหมายของเราอยู่ที่ความอยู่เย็นเป็นสุข เพราะฉะนั้นการใช้กำลังเราก็ต้องมียุทธศาสตร์ในเชิงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าต่อไปนี้ชีวิตของคน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องขึ้นอยู่กับบีอาร์เอ็นและผู้ประสานงานว่าจะกำหนดทิศทางไปทางไหน ที่เราก็ต้องคอยเดินตามอย่างนั้นหรือ รองนายกฯ กล่าวว่า “ไปพูดถึงขั้นนั้นคงไม่ใช่ เพราะบีอาร์เอ็นเป็นเพียงผู้เสนอแนะ ของเราก็คือเรามีอธิปไตยในเรื่องของขอบเขตดินแดน ในเรื่องของประเทศชาติของเรา เราก็ทำในสิ่งที่เราทำได้ที่จะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนตรงนี้เป็นสำคัญ”
ต่อข้อถามว่า ที่ผ่านมาไม่เห็นฝ่ายเราเรียกร้องให้ฝ่ายที่ให้น้ำเลี้ยงกลุ่มขบวนการเหล่านี้หยุดเลย พล.ต.อ.ประชาปฏิเสธให้ความเห็นเพียงแต่ยิ้ม เมื่อถามว่า ตกลงสถิติปีนี้ดีกว่าหลายปีที่ผ่านมา รองนายกฯ กล่าวว่า “ในรอบ 6 วันที่ผ่านมาถ้าเทียบกับเมื่อปี 2552-2554 ถือว่าดีขึ้น ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบมีสถิติไว้ แม้จะเป็นสัปดาห์เดียวแต่ก็เป็นสัปดาห์ที่ใจหายใจคว่ำ เราก็อยากให้อีก 30 กว่าวันจากนี้ดีเช่นนี้อีก เราก็จะพึงพอใจที่สุด อยากให้เป็นอย่างนั้น”
ส่วนที่ผู้อำนวยความสะดวกจากมาเลเซียระบุว่าพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เพิ่มเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะลดความรุนแรง ทั้งที่ไม่เคยถูกระบุมาก่อนนั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นหนึ่งที่ตนต้องคุยกับทางทีมงาน ส่วนจะต้องทำหนังสือประท้วงไปยังมาเลเซียหรือไม่นั้น ขอคุยกันก่อนว่าเป็นอย่างไร แต่เรื่องนี้อยู่ดีๆ จะเพิ่มพื้นที่ อ.สะเดา หรือที่ไหนไปไม่ได้ ข้อเท็จจริงมันหนีความจริงไม่พ้น ซึ่งก็คงต้องคุยกันก่อนว่าเขามีเหตุผลอย่างไร
ต่อข้อถามว่าไปๆ มาๆ ตอนนี้ชีวิตเราขึ้นอยู่กับบีอาร์เอ็นใช่หรือไม่ ความจริงแล้วไม่ควรที่จะให้คนกลุ่มนั้นมาขีดเส้นให้เรา พล.ต.อ.ประชากล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เราต้องเป็นฝ่ายกำหนด ไม่ใช่เขากำหนด ผมขอเรียนยืนยัน เราในฐานะเจ้าของประเทศของเรา เราต้องเป็นฝ่ายกำหนด เรื่องนี้มันเรื่องใหม่ สดๆ ร้อนๆ ดังนั้นขอคุยกันนิดหนึ่ง ขอคุยกันหน่อย” ผู้สื่อข่าวแย้งว่า แต่เขาใช้ประชาสัมพันธ์เชิงรุกกับเรา แล้วเขาได้ประโยชน์ไม่ใช่เราได้ รองนายกฯ กล่าวว่า “เอาล่ะ ขอคุยกันหน่อย เพราะเราจะทำเพื่อพี่น้องประชาชน”
ผู้สื่อข่าวถามนย้ำว่า เหมือนว่าเรากำลังยกระดับและให้ราคานายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็นไปโดยปริยาย จากคนที่ไม่เคยรู้จักเดี๋ยวนี้มาเป็นผู้นำขบวนการก่อการร้าย พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น
