xs
xsm
sm
md
lg

“ประชา” รับหนักใจภารกิจ ยันไม่ทับไลน์ “ปู” ขออย่ารีบสรุปไฟใต้ ลงพื้นที่ก่อน 8 ก.ค.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง(แฟ้มภาพ)
รองนายกฯ ปัดจ้อ ฝ่ายค้านโยงเปลี่ยนประธาน นปช.กับยุบสภา เหน็บล้ม รบ.เป็นหน้าที่ เผยเร็วไปประเมินสถานการณ์ รับหนักใจ ท่องบทชุมนุมได้ห้ามละเมิดสิทธิ ชม ผบ.ตร.ทำงานดี ยันไร้ปัญหากองทัพ แจงดูแลเอกสาร นายกฯ คุมส่วนใหญ่ เผยถูกมอบดูงานพัฒนาจชต. ยังใช้แผนเดิมแก้ปัญหา หนุนคุยบีอาร์เอ็นต่อ แย้มคุยกลุ่มอื่นทางลับ ขออย่ารีบสรุปเดินผิดทาง ย้ำยึดเข้าใจ เข้าถึงและยุทธวิธี ยันต้องฟังมาเลย์ เล็งเรียกถกความมั่นคง ลงใต้ก่อน 8 ก.ค.



วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ทางการเมืองโดยเฉพาะกรณีข่าวการเปลี่ยนตัวประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่มองกันว่ามีความเชื่อมโยงกับการที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอาจมีการยุบสภาหรือไม่ว่า ตนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ แต่การที่ฝ่ายค้านจะมองอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของความคิดที่สามารถแตกต่างกันได้

“การที่ฝ่ายค้านบอกจะล้มรัฐบาล ส่วนตัวมองเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านเขามีหน้าที่ล้มรัฐบาล อันนี้แน่นอน อยู่ที่รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด โดยยึดประเทศและประชาชนเป็นหลัก” พล.ต.อ.ประชากล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ 6 เดือนก่อนที่จะสิ้นปีอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า คงเร็วไปที่จะประเมินตรงนี้เพราะเพิ่งเข้ามารับงาน ขอศึกษาข้อมูลจากสำนักข่าวกรองและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ก่อน เมื่อถามว่า หากถึงเวลาหนึ่งช่วงการเมืองร้อนๆ คิดว่าตัวท่านเองจะรับมือไหวหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า “คำว่าไหวหรือไม่ไหว มันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ แต่ถ้าถามว่าหนักใจไหม ก็ต้องยอมรับว่าภารกิจมันหนัก ไม่ใช่เรื่องธรรมดา งานด้านความม่นคงนั้นทุกท่านก็ทราบดี ความหนักใจก็มีบ้าง แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” พล.ต.อ.ประชากล่าว

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า โดยหลักแล้วการรวมตัวของประชาชนเขาสามารถทำได้ตามระบอบประชาธิปไตย โดยต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น ซึ่งรัฐบาลก็มีกรอบกฎหมายยึดไว้ ก็คงหารือกับทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหรือไม่ ก็ต้องหารือกับทาง ผบ.ตร.ก่อน แต่เท่าที่ดู ผบ.ตร.คนปัจจุบันก็ทำงานเข้มแข็งดี

เมื่อถามว่าในการทำงานจะประสานกับทางกองทัพได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า กับทางกองทัพไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้วคุยกันได้ เมื่อถามว่าการที่ท่านดูแลงานด้านความมั่นคง การประสานงานกับกองทัพซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็น รมว.กลาโหม ด้วยจะทำให้อำนาจการตัดสินใจของท่านลดน้อยลงไปด้วยหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี นายกฯ ในฐานะรมว.กลาโหม จะมีอำนาจในการสั่งการ การกำกับดูแลส่วนใหญ่ ส่วนตนดูแลงานในเรื่องของเอกสาร งานธุรการ อย่างงานที่จะเข้า ครม.ก็อาจจะผ่านตน แต่การบังคับบัญชาเป็นอำนาจของนายกฯ ต้องแยกให้ออก อย่างไรก็ตามจะเรียกหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเร็วๆ นี้เพื่อดูข้อมูลทั้งหมด

พล.ต.อ.ประชา กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า งานที่ได้รับมอบจากนายกฯ เป็นงานด้านการพัฒนาในเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นการบูรณาการเรื่องการดำเนินงานของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยจะมีการพูดคุยกันเพื่อทบทวนในเรื่องของยุทธศาสตร์ในด้านการพัฒนาของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง เบื้องต้นแนวปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหายังคงเป็นเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการทบทวน โดยการเพิ่มในเรื่องการพัฒนาเข้าไปมากขึ้น อย่างตัวอย่างเช่น การศึกษา จะต้องให้บุตรหลานของพี่น้องประชาชนมีโอกาสจะเข้าถึงแหล่งทุนที่สนับสนุนการศึกษา เรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิต เรื่องการพัฒนาในระบอบประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน

พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า สำหรับการเจรจาสันติภาพกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้น ตนมองว่าการพูดคุยเป็นเรื่องที่ดี ส่วนจะสำเร็จหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต แต่หากเราไม่พูดคุยกันเราจะไม่ทราบในเนื้อหาและประเด็นต่างๆ จึงคิดว่าการพูดคุยจึงยังเป็นเรื่องที่จำเป็นอยู่ ทั้งนี้ สำหรับเรื่องนี้ตนขอหารือกับ สมช. และศอ.บต.ที่เป็นผู้รับผิดชอบก่อน

ผู้สื่อข่าวถามว่า การพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนตัวบุคคลหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ความไม่สงบยังเกิดต่อเนื่อง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คงต้องหารือกับ สมช.กับ ศอ.บต.ก่อน ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงที่ยังเกิดขึ้นอยู่ต้องรับว่าเราจะให้ยุติได้อย่างทันทีทันใดคงจะค่อนข้างลำบากพอสมควร แต่แนวโน้มในอนาคตเราจะต้องมีการพูดคุยกัน เมื่อถามว่า มองว่าควรจะต้องเปลี่ยนกลุ่มพูดคุยหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนกลุ่ม แต่อาจจะเพิ่มกลุ่มใหม่หรือไม่ ส่วนที่มีการเรียกร้องให้พูดคุยในทางลับนั้น ตนคิดว่าที่ผ่านมาได้มีการทำในทางลับอยู่แล้ว และไม่ได้เปิดเผย แต่ที่เขาเปิดเพราะปิดไม่ได้

เมื่อถามว่า มีการมองว่ารัฐบาลแก้ปัญหาไม่ทุกจุด พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เป็นประเด็นที่ยังไม่น่าด่วนสรุปลงตัวว่าเราทำไม่สำเร็จ เพราะกำลังพยายามกันอยู่ ขอเวลาให้ทางรัฐบาลบ้าง เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เหตุการณ์ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดมานาน สาเหตุมีมากมายหลายประการ ต้องขอเวลาให้ภาครัฐได้มีเวลาเจาะลึกลงไปว่าเรายังขาดอะไร จะต้องเติมในส่วนไหน หรืออะไรที่เกินไปที่จะลดลงมา ต้องมีการทบทวน

เมื่อถามว่า นโยบายการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ควรเป็นอย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตนพุ่งเป้าไปที่ยุทธศาสตร์สองแนวทางคือ 1. การพัฒนา โดยยึดหลักการเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ 2. ยุทธวิธี ซึ่งจะต้องมีมาตรการในเรื่องของการดำเนินการที่ชัดเจนขึ้นว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ เป็นในส่วนของตำรวจและทหาร ส่วนจะมีการประสานกับมาเลเซียหรือไม่ในฐานะที่เขาเป็นตัวกลาง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เราคงต้องฟังเขาด้วย เพราะต้องอย่าลืมว่าประเทศเรากับมาเลเซียเป็นมิตรประเทศกัน

รองนายกฯ กล่าวด้วยว่า จะเรียกประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคงในเร็วๆ นี้ และก่อนวันที่ 8 ก.ค.ตนจะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เนื่องจากวันที่ 8 หรือ 9 ก.ค.นี้ ทางจุฬาราชมนตรีจะมีการประกาศว่าวันไหนเป็นวันรอมฎอน


กำลังโหลดความคิดเห็น