xs
xsm
sm
md
lg

รมว.กห.ตั้งทีมโฆษกจ้อใต้ทุกศุกร์ ไม่หวังคุยบีอาร์เอ็นแล้วเหตุลด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (แฟ้มภาพ)
“สุกำพล” รับห่วงงานประชาสัมพันธ์แก้ไฟใต้ แย้มยึดไอเดีย “ปลอดประสพ” จัดนิทรรศการ แต่งตั้ง หน.โฆษก กห. และโฆษก กห.พีอาร์ จ้อทุกศุกร์ ไม่คาดหวังคุยบีอาร์เอ็นแล้วเหตุลด ชี้ถ้าหยุดยิงรอมฎอนก็ดี บอกที่ผ่านมาอ่อนข้อให้มาก ชี้ถ้าวันไหนไม่ยิ้มคือสถานการณ์ไม่ดี จ่อเพิ่มเบี้ยเลี้ยงข้าราชการเท่ากัน ไม่อยากพูดปืนใหญ่ตานีจำลองถูกบึ้ม



วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่กระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 08.30 น. พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วม กับ 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน เพื่อบูรณาการการประชาสัมพันธ์การแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลเป็นห่วงเรื่องงานประชาสัมพันธ์ ในส่วนตนรับผิดชอบเรื่องแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขอย้ำว่าเฉพาะงานประชาสัมพันธ์เท่านั้น ส่วนการแก้ไขปัญหายังมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศปก.กปต.) เป็นผู้รับผิดชอบอยู่ เมื่อได้ข้อสรุปว่าจะมีการประชาสัมพันธ์เรื่องใดและมีแนวทางอย่างไรจะส่งข้อมูลไปยังรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณากำหนดงบประมาณ โดยนายกรัฐมนตรียินดีสนับสนุน

“ผมมีแนวคิดจะจัดตั้งนิทรรศการผลความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นในกทม. และขยายไปพื้นที่อื่นๆทั่วประเทศ รวมถึงจะนำแนวร่วมที่กลับใจ และหน่วยงานความมั่นคงด้านพัฒนาที่ปฏิบัติงานอยู่ในพื้นที่มาร่วมตอบข้อซักถามที่ยังมีความสงสัยด้วย เพราะที่ผ่านมามีเพียงแค่การนำเสนอข่าวสถานการณ์ประจำวันเป็นส่วนใหญ่เท่านั้นซึ่งผมได้ดูตัวอย่างจากการจัดนิทรรศการด้านน้ำจำนวนเงิน 3.5 ล้านล้านบาทของนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายรัฐมนตรี เป็นแบบอย่าง ถือว่าเป็นแนวทางที่ดี ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ก็มีการจัดนิทรรศการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยังอยู่ในวงแคบจึงมีแนวคิดที่จะยกนิทรรศการขึ้นมาจัดใน กทม. เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ในวงกว้างมากขึ้น หากผลตอบรับดีจะขยายไปยังจังหวัดต่างๆ เพราะถือว่าสถานการณ์ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นของคนไทยทุกคนแต่ในส่วนของกระทรวงกลาโหมไม่ได้มีงบประมาณในการจัดนิทรรศการจึงจำเป็นต้องขอนายกรัฐมนตรี” รมว.กลาโหมกล่าว

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวต่อว่า ตนได้แต่งตั้ง พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนงานโฆษกกระทรวงกลาโหม ด้านสารสนเทศและกิจการพลเรือน (สกร.) สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พ.อ.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ทำหน้าที่ชี้แจงประชาสัมพันธ์ พร้อมประสานกับหน่วยงานต่างๆ ใน 17 กระทรวง 66 หน่วยงาน เพื่อขอผลการดำเนินงานของหน่วยนั้นๆ เพื่อนำมาบูรณาการและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ สำหรับการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงกลาโหมในปี 2557 ในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้แม้จะได้งบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ต้องใช้เวลา ตนเป็นคนใจร้อน แต่ก็ทราบว่าการแก้ไขต้องค่อยเป็นค่อยไป เช่นในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว เนื่องจากมีโครงการที่จะจัดบ้านพักครูในโรงเรียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะเสร็จภายใน 1 ปี ซึ่งก็ต้องมาแบ่งงานว่าสิ่งใดควรทำก่อนหรือหลัง แต่งานความมั่นคงต้องเดินหน้า หากสถานการณ์ดีขึ้นเราก็ถอยมาให้หน่วยพัฒนาเข้าไปแทนที่

จากนั้นภายหลังหลังจากการประชุม 1 ชั่วโมง พล.อ.อ.สุกำพลแถลงว่า จากการหารือจะมีการนำข้อมูลการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกมิตินำลงเว็บไซต์ของ กอ.รมน. โดยทุกสัปดาห์หน่วยต่างๆ จะส่งข้อมูลมาให้เรา ซึ่งในทุกวันศุกร์จะให้ทีมงานโฆษกชี้แจงผลงานความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาภาคใต้ของกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งหมดให้ได้รับในหลายมิติ ที่สำคัญ คือ เราจะมีการจัดทำนิทรรศการภาคใต้ในทุกมิติ และจะมีการตอบทุกข้อสงสัย ทุกคำถามที่คาใจของประชาชนเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้เราจะตอบให้หมด เพื่อให้เข้าใจว่า ภาคใต้เป็นอย่างไร ซึ่งจะจัดทำในเร็วๆ นี้ ปัจจัยความสำเร็จ คือ ความต่อเนื่อง ซึ่งตนบอกในที่ประชุมว่า ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเพียง 1-2 เดือน จนกว่าปัญหาจะดีขึ้น

พล.อ.อ.สุกำพลยังกล่าวถึงการพูดคุยสันติภาพในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ว่า ตนไม่ได้คาดหวังว่าหลังการพูดคุยรอบ 3 ความรุนแรงจะลดลง เพราะยังเป็นไปไม่ได้ ต้องแยกกันระหว่างการพูดคุยกับการปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่ถ้าเมื่อไรที่ผลการพูดคุยเกี่ยวพันกับการปฏิบัติงานก็ต้องมาว่ากัน เท่าที่ทราบจากทีมงานที่จะไปพูดคุยสันติภาพกับบีอาร์เอ็นได้ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประชาชนคนมุสลิมเรียกร้องมาว่าในช่วงเดือนรอมฎอนเป็นเดือนถือศีลอด อยากให้ผู้ก่อการร้ายหยุดยิง ซึ่งจะต้องไปถามทางบีอาร์เอ็น ส่วนฝ่ายรัฐไม่ได้ดำเนินการอะไรอยู่แล้ว หากสามารถหยุดยิงได้ก็ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ที่ผ่านมาอยากให้เข้าใจว่าเราอ่อนข้อให้มาก ต้องรู้สถานะตัวเองว่า เราเป็นใครและท่านเป็นใคร อย่างไรก็ตาม งานใน 3 จังหวัดภาคใต้วันนี้มีความคืบหน้าตามลำดับ เราต้องมีความอดทน

“อย่างที่เห็นวันนี้ผมยังยิ้ม หากวันใดผมไม่ยิ้มคือสถานการณ์ไม่ดี ส่วนแนวโน้มที่จะมีการปรับเพิ่มเบี้ยเลี้ยงให้กับทหารนั้น เจ้าหน้าที่ทุกกระทรวง ทบวง กรม จะได้รับเงินเท่ากัน แม้ว่าทหารจะมีความเสี่ยงมากกว่า แต่เจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ ก็ทำงานในลักษณะของเขา ซึ่งเราเป็นทหารทำหน้าที่ที่มีความเสี่ยงก็ต้องทำใจ ผมอยากให้ทหารได้เบี้ยเลี้ยงมาก แต่รัฐบาลต้องดูภาพใหญ่ เช่นกรณีที่มีทหารเสียชีวิตก็นำมาเปรียบเทียบกันว่า ทำไมได้ไม่เท่ากับกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมือง ซึ่งตรงนี้กำลังพลของเราก็เข้าใจ และที่ผ่านมาทาง ส.ส.ได้มีการนำเสนอว่า สมควรที่จะได้เท่ากัน แต่ต้องมองให้รอบคอบ หากเห็นว่าเหมาะสมเราก็จะให้ ในส่วนของกองทัพบกมีประกันชีวิตให้ ขอยืนยันว่าเราช่วยเต็มที่ เพราะเขาเป็นลูกน้องที่น่าสงสาร ไปทำงานด้านความมั่นคง แต่ไม่บ่นสักคำ เราเป็นทหารต้องมีวินัย และต้องทำงานที่อันตราย คนที่วิพากษ์วิจารณ์ขอให้เห็นใจและให้กำลังใจกัน อย่างเช่น ส.ส.ที่มีฐานเสียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยากให้ช่วยด้วย” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว

เมื่อถามถึงกรณีคนร้ายได้ก่อเหตุระเบิดที่ปืนใหญ่พญาตานีจำลอง บริเวณลานวัฒนธรรมกรือเซะ ห่างจากมัสยิดกรือเซะ 100 เมตร ต.ตันหยงลูโละ อ.เมือง จ.ปัตตานี พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่อยากพูดมากเพราะไม่มีประโยชน์ และยังไม่ได้คิดที่จะนำปืนใหญ่พญาตานีของจริงที่ตั้งอยู่หน้ากระทรวงกลาโหมไปตั้งในพื้นที่ จ.ปัตตานี


กำลังโหลดความคิดเห็น