“ประชา” โยนเหตุบึ้มบันนังสตาเป็นพวกกลุ่มย่อยในพื้นที่ไม่เกี่ยวบีอาร์เอ็น เตรียมทำความเข้าใจกับกลุ่มต่างๆ ช่วงรอมฎอนเป็นเดือนที่ไม่ทำบาป เผย 21 ก.ค. นัด “ยุทธศักดิ์-เสธ.ทบ.-ผบ.ตร.” ลงพื้นที่ภาคใต้ รับนำ “บิ๊กอ๊อด” คุย “บิ๊กตู่” หารือแนวทางแก้ปัญหาใต้ แต่ไม่ได้เคลียร์ใจเรื่องคลิปถั่งเช่า บอกเป็นเรื่องส่วนตัว
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ว่า ได้รับรายงานถึงเหตุดังกล่าวแล้ว เป็นการวางระเบิดข้างทาง มีทหารบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน และจากการตรวจสอบได้รับรายงานว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มย่อยในพื้นที่ โดยคาดว่า ผู้ก่อเหตุไม่น่าจะใช้กลุ่มบีอาร์เอ็น เนื่องจากเราได้มีการพูดคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้ว แต่ขณะนี้เราก็ไม่สามารถทำความเข้าใจได้กับทุกกลุ่มจึงอาจมีการก่อกวนบ้าง แต่ก็จะต้องพยายามทำความเข้าใจกับกลุ่มย่อยต่างๆ ต่อไปว่าช่วงนี้เป็นเดือนรอมฎอน เป็นเดือนที่ไม่ทำบาปกัน
ส่วนจะกระทบการหารือหยุดก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนหรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า คงไม่กระทบถึงตรงนั้น เพราะเป็นเพียงกลุ่มย่อย ส่วนการประสานไปยังผู้ประสานงานฝ่ายมาเลเซีย เพื่อแจ้งไปยังกลุ่มบีอาร์เอ็นในการสืบทราบนั้น ฝ่ายปฏิบัติงานในพื้นที่คงได้มีการประสานกัน
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า กลุ่มย่อยที่เรายังไม่ได้เข้าไปทำการพูดคุยด้วย มีกลุ่มใดบ้าง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตนขอไม่พูดถึงเรื่องกลุ่มย่อยต่างๆ ขอให้เจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจกันไปก่อน และที่ไม่อยากเปิดเผยถึงกลุ่มเล็กๆ เหล่านี้เนื่องจากไม่อยากให้ความสำคัญ แต่ที่ต้องให้ความสำคัญกับกลุ่มบีอาร์เอ็นนั้นเนื่องจากเป็นกลุ่มใหญ่ที่ทางมาเลเซียประสานเข้ามา และเราก็เห็นว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาทในพื้นที่ ส่วนการประสารกับกลุ่มย่อยที่เหลือเหล่านั้นคิดว่าทางเราน่าจะประสานกันได้เอง
ต่อข้อถามว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่งแล้ว มีความกังวลใจในการแก้ปัญหาภาคใต้หรือไม่ รองนายกรัรฐมนตรีกล่าวว่า เนื่องจากปัญหาภาคใต้เป็นสถานการณ์พิเศษ ก็ต้องมีความกังวลใจอยู่แล้วว่าจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด อะไรที่ทำให้ดีขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาหรือทำความเข้าใจก็จะทำต่อไป ส่วนการปรับยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาก็ต้องมีการพิจารณาทบทวนกัน ซึ่งต้องมีการแลกเปลี่ยนทำความเข้าใจระหว่างหน่วยปฏิบัติด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ส่วนการสื่อสารกับเข้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ตนสามารถสื่อสารกับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ได้ตลอด
พล.ต.อ.ประชายังเปิดเผยด้วยว่า ในวันที่ 21 ก.ค. ตนพร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสธ.ทบ. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จะลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการ ทั้ง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ศอ.บต. และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และร่วมละศีลอดกับพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่ด้วย
พล.ต.อ.ประชากล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาได้เดินทางเข้าพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.พร้อมกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ เพื่อพูดคุยเรื่องการทำงาน โดยเพิ่มบทบาทในการดูแลประชาชนว่าจะเข้าไปช่วยเรื่องการพัฒนาในพื้นที่ได้อย่างไร เช่นช่วงนี้เป็นช่วงเดือนรอมฎอน จุดตรวจจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นชุดช่วยเหลือหรือบริการประชาชนเป็นต้น แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องคลิปเสียง พล.อ.ยุทธศักดิ์สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด เพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องแยกไว้ต่างหาก เมื่อเรามีเวลาน้อยก็คุยเรื่องงานว่าจะทำให้ภาคใต้สงบได้อย่างไร
ส่วนมีการเคลียร์ใจกันระหว่าง พล.อ.ยุทธศักดิ์ กับ ผบ.ทบ.หรือไม่นั้น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน พล.อ.ยุทธศักดิ์เองก็อยู่ในกลาโหมเป็นสายงานอยู่แล้ว ไม่น่าเป็นห่วงอะไร และท่าทีระหว่างการพูดคุยก็เป็นไปตามปกติ สำหรับตนกับ ผบ.ทบ.ก็ไม่มีปัญหา เพราะเคยทำงานใกล้ชิดกันมาตั้งแต่ตนเป็น รมว.ยุติธรรม และรับตำแหน่งหัวหน้า ศปภ.ในช่วงเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2554 ผบ.ทบ.ก็ทุ่มเทช่วยงานเต็มที่ ต่างอดหลับอดนอนด้วยกัน การเดินทางไปพบจึงเป็นการทบทวนบรรยากาศเก่าๆ จิบชากาแฟกันเท่านั้น