xs
xsm
sm
md
lg

“ปู”บุกซีพี.ดูข้าว สัญจรกรุงเก่า เปิดตัว“เพื่อนยื่งลักษณ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(16 ก.ค.56) นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงกำหนดการลงพื้นที่ตรวจราชการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง ว่า ในช่วงเช้าของวันที่ 18 ก.ค. นายกฯ และคณะจะเดินทางไปวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี พร้อมเยี่ยมชมศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP และเดินทางต่อไปยังบริษัท ซี. พี. อินเตอร์ เทรด จำกัด เพื่อเยี่ยมชมกระบวนการผลิตข้าว ศูนย์ปฏิบัติการคุณภาพและวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าว พร้อมเยี่ยมชมศูนย์บริการข้อมูลส่วนกลางของบริษัทฯ
จากนั้นช่วงบ่าย นายกฯและคณะมีกำหนดการจะเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการบางไทร ฮอสปิเฮาส์ โดยเป็นโครงการของภาคเอกชนซึ่งจัดที่พักอาศัยให้แก่ผู้สูงอายุ ต่อด้วยการไปเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) อ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมเยี่ยมชมศูนย์สินค้า OTOP และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีและพบปะประชาชนโดยได้ร่วมกิจกรรม Friends of Yingluck ด้วย
ส่วนช่วงเย็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะร่วมรับฟังสรุปผลการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ. ภูมิภาค) ซึ่งมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมฯ จากนั้นนายกฯ จะเป็นประธานการประชุมร่วมกับคณะผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ จ.พระนครศรีอยุธยา
นายธีรัตถ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 19 ก.ค. นายกฯ จะเดินทางไปตักบาตรพระและสักการะหลวงพ่อโต (ซำปอกง) พร้อมตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จากนั้นจะเดินทางไปเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 4/2556 ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ โดยหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปยังท่าน้ำนนทบุรี อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีและตรวจเยี่ยมโครงการประตูระบายน้ำบางบัวทอง ก่อนเดินทางกลับกทม.ในเวลา15.30 น.
นางสาวมัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ถ่ายภาพนางสาวยิ่งลักษณ์ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างการลงพื้นที่ประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดบุรีรัมย์ ว่า เป็นพฤติกรรมหน่อมแน้มที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเหตุใดการบริหารจึงล้มเหลวในเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชน กลไกของรัฐไม่สามารถแก้ปัญหาแพงทั้งแผ่นดินได้
เนื่องจากทั้งนางสาวยิ่งลักษณ์ และนายกิตติรัตน์ บริหารงานล้มเหลวและหันมาควักเงินจากธนาคารออมสินไปใช้ในนโยบายประชานิยมแล้ว 1 แสนล้านบาท และกำลังจะใช้เพิ่มอีก จึงขอตั้งคำถามไปยังบุคคลทั้งสอง ดังนี้
1. เอสเอ็มอีแบ๊งก์ที่ต้องดูแลผุ้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลางแต่มีปัญหาหนี้เสียกว่า 3 หมื่นล้านบาท ยังไม่มีกรรมการผู้จัดการมาดูแล และได้รับผลกระทบจากกรณีค่าแรง 300 บาท มียอดสินเชื่อแค่หลักพันล้านบาทเท่านั้น เพราะมีการทยอยย้ายออกจากธนาคารไป แสดงให้เห็นถึงการละเลยเพิกเฉยต่อปัญหา
2 .ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยหรือไอแบ๊งก์ มีหนี้เสียกว่า3หมื่นล้านบาท เพราะกระทรวงการคลังละเลยที่จะแก้ปัญหา อยู่ในสภาพปล่อยสินเชื่อไม่ได้
3. ธ.ก.ส.นำเงินไปทำโครงการจำนำข้าวแล้ว 2.6 แสนล้านบาท โดยรัฐยังไม่สามารถคืนเงินให้ธนาคารได้ กระทบถึงลูกค้ารายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการจำนำข้าว
4. ธนาคารอาคารสงห์เคราะห์ได้รับผลกระทบจากนโยบายรถคันแรก เพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อบ้านทำให้เงินหายไปจากระบบ
5. เอ็กซิมแบ๊งก์ มีปัญหาการส่งออกหดตัว 6. ธนาคารออมสิน ซึ่งอยู่ในสภาพที่แข็งแรงกว่าคนอื่นแต่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ควักเงินเด็กและดุดเงินจากสภาพคล่องไปโปะนโยบายทักษิณ คิด เพื่อไทยทำ มีการปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.กว่า1แสนล้านบาท และจะให้ประมูลพันธบัตรโครงการน้ำอีกกว่า2แสนล้านบาท เป็นการย่ำยีธนาคารเด็ก จึงต้องถามว่าจะเอามาคืนเมื่อไหร่ คืนอย่างไร
“สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนว่ารัฐบาลอยู่ในสภาพอนาถาต้องควักเงินเด็กมาใช้ การอยู่ต่อแม้แต่วันเดียวของรัฐบาลนี้มีความเสี่ยงที่กระปุกออมสินจะแตก จึงขอเรียกร้องประชาชนและพนักงานออมสินว่าจะยอมปล่อยให้รัฐบาลทุบกระปุกเด็กต่อไปหรือไม่ เพราะพฤติการณ์ทั้งหมดของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ลอกเลียนแบบพ.ต.ท.ทักษิณ ในการใช้ธนาคารรัฐจนถูกดำเนินคดีอาญาไปแล้วหลายคดี จึงอยากเตือนนางสาวยิ่งลักษณ์และนายกิตติรัตน์ ว่า ให้ระวังพฤติกรรมของตัวเองและต้องชี้แจงเกี่ยวกับสภาพคล่องของธนาคารรัฐทั้งหมดให้กับสังคมได้รับทราบด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น