รมต.ประจำสำนักนายกฯ เรียก ธ.ก.ส.แจงตัวเลขจ่ายชาวนาในโครงการจำนำข้าว ก่อนเรียกอนุ กก.ปิดบัญชีข้าวให้ข้อมูล คาดสรุปตัวเลขขาดทุนได้ศุกร์นี้ โวย ปชป.กล่าวหาเลื่อนลอยรัฐบาลถ่วงเวลาหวังตบแต่งตัวเลข
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันนี้ (12 มิ.ย.) นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่ง ครม.มอบหมายให้รวบรวมข้อมูลโครงการจำนำข้าวเพื่อชี้แจงต่อสาธารณชน เรียกผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ให้ข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว
นายวราเทพเปิดเผยว่า เรียกสอบถามจำนวนตัวเลข ณ ปัจจุบันที่รัฐบาลจัดงบประมาณให้กับเกษตรกร เพราะ ธ.ก.ส.เป็นสถาบันการเงินที่ใช้เงินในการดำเนินโครงการ เพื่อนำมาเทียบกับรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำผลผลิตทางการเกษตร ที่มีการปิดบัญชีวันที่ 31 ม.ค. 2556 ดังนั้น ตัวเลขที่จะมีความแตกต่าง คือ ตัวเลข ณ เวลาที่คำนวณ ขณะที่ตัวเลขจาก ธ.ก.ส.รายงานก้าวหน้ามาจนถึงต้นเดือน มิ.ย.แล้ว ส่วนตัวเลขที่แน่นอนขอพูดทีเดียว และธ.ก.ส.ยังไม่มีข้อกังวลใดๆ ที่มีการใช้เงินในส่วนของ ธ.ก.ส.วงเงิน 9 หมื่นล้านบาท
นายวราเทพกล่าวว่า ส่วนที่ฝ่ายค้านกล่าวหาว่ารัฐบาลเจตนาแต่งตั้งให้เป็นคนรวบรวบข้อมูลนั้น เพื่อให้มีเวลาในการตบแต่งตัวเลข ยืนยันการแก้ไขตัวเลขเป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะตัวเลขมีการบันทึกเอกสารราชการไว้แล้ว และการอธิบายต้องมีเหตุผล การกล่าวหาของฝ่ายค้านเป็นการคิดที่ปราศจากเหตุผล กล่าวหาเลื่อนลอย สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือโครงการนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางที่ฝ่ายค้านต้องการ
“อยากให้ใจเย็นมากกว่านี้ ไม่ใช่ได้ข้อมูลอะไรมาแล้วออกมาพูดโดยไม่แน่ใจว่า เข้าใจข้อมูลหรือไม่ ขนาดตนยังต้องถามคนรับผิดชอบ ไม่แน่ใจว่าถามหรือไม่ ถ้าไม่ได้ถามแล้วอ่านแล้วไปแปล ความเข้าข้างตัวเองเพื่อใส่ร้ายรัฐบาลหรือไม่ ถ้าถามเรียกไปถามตอนไหน ในกรรมาธิการ ที่พรรค หรือที่ลับสองคน และต้องดูประโยชน์ที่ชาวนาได้รับด้วย ไม่ใช่พูดแต่ความเสียหายโดยที่กล่าวหารัฐบาลไม่มีคำอธิบาย และรัฐบาลจะเปลี่ยนนโยบายทันทีไม่ได้ และจนถึงขณะนี้ยังหาตัวเลขที่ฝ่ายค้านกล่าวหาเสียหาย 2,600,000 ล้านบาทไม่ได้”
นายวราเทพกล่าวว่าจะพยายามรวบรวมตัวเลขให้เร็วที่สุด ซึ่งน่ามีข้อมูลครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงเรียกมาพบพร้อมกันอีกครั้ง จากนั้นจะนำมาประมวลเพื่อพยายามอธิบายถึงที่มาที่ไปตัวเลขให้ได้ และจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมายืนยันตัวเลขด้วย อย่างไรก็ตาม จะพยายามประมวลให้ได้ตัวเลขภายในวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย.และรอดูผลการหารือของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) วันพฤหัสบดีที่ 13 มิ.ย.ด้วยว่ามีนโยบายอย่างไรบ้าง
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุได้ข้อมูลตัวเลขค่าบริหารจัดการที่มาจากตัวเลขงบประมาณที่จ่ายขาดให้ ธ.ก.ส.และพบว่ารัฐบาลกำลังมีการของบประมาณให้ ธ.ก.ส. จำนวน 4 หมื่นล้านบาท ชดเชยภาระดอกเบี้ย ชดเชยเงินต้น ซึ่งนายอภิสิทธิ์เชื่อว่าเป็นตัวเลขที่ไม่ได้รวบกับตัวเลขขาดทุนที่มีการประเมินนั้น ทางบัญชีเวลา ธ.ก.ส.ได้รับเงินคืน คือส่วนที่ระบายได้แล้วเอาเงินคืน ธ.ก.ส. แล้ว ธ.ก.ส.ก็ลดวงเงินกู้ แต่เมื่อถึงเวลาปิดบัญชียังไม่มีเงินให้ ธ.ก.ส.ก็ต้องใช้เงินจากงบประมาณนำไปใช้ และเมื่อมีดอกเบี้ยบวกมาด้วยก็ต้องตั้งงบประมาณสูงกว่าเงินต้น ซึ่งทางบัญชีนำมาคิดได้ในส่วนของตัวเลขขาดทุนด้วย แต่ต้องมีที่มาที่ไป วันนี้เราไม่มีเงินที่ไปจ่ายเกษตรกรโดยไม่มีดอกเบี้ย แต่หาแหล่งเงินกู้ที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุดคือธนาคารรัฐ หรือระดมจากสำนักบริหารหนี้