หลังจากมีกระแสข่าวการปรับครม."ยิ่งลักษณ์5"ที่ได้มีการนำรายชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว โดยมีรายชื่อบุคคลที่น่าสนใจ อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.กลาโหม นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา กลับเข้ามาเป็นรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง นายชัยเกษม นิติสิริ เป็น รมว.ยุติธรรม นางปวีณา หงสกุล เป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ย้ายร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จากรองนายกฯไปเป็น รมว.แรงงาน เป็นต้น
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม. ของรัฐบาลว่า ตัวบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไม่มีความสำคัญเท่ากับคนมาใหม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เช่น กระทรวงพาณิชย์ จะมีการเปิดเผยข้อมูลให้มีความโปร่งใสหรือไม่ สะสางการทุจริตไหม สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าชื่อรัฐมนตรี เช่นเดียวกับปัญหาภาคใต้คือ จะสะสางเรื่องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น อย่างไร ไม่ให้ความรุนแรงในพื้นที่เพิ่มขึ้น เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี แต่คนบงการยังเหมือนเดิม ก็ไม่ช่วยอะไรกับการบริหารประเทศ ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่าคนเข้ามาทำงานจะเปลี่ยแปลงอะไรได้หรือไม่ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ปรับรัฐมนตรีไปก็เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่ากับตอนนี้การปรับครม. และการบริหารประเทศอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ มีความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญ ต้องสำนึกว่า ตำแหน่งทีได้มามีความรับผิดชอบอะไร ไม่ควรให้ใครมาบงการ อย่างไรก็ตาม ตลอดการบริหารของรัฐบาลยังไม่มีอะไรนอกจากวนไปเวียนมา ไม่แก้ปัญหาประเทศ ปัญหาประชาชน จ้องผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวของพรรคพวกมากกว่า ส่วนที่รัฐบาลหวังว่าการปรับครม. จะช่วยยืดอายุรัฐบาลออกไปได้นั้น
" ผมเห็นว่ารัฐบาลนี้อยู่ได้ครบเทอม หากตั้งใจทำงาน และรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม แต่ถ้าทำเรื่องยุ่งๆ จะปรับยังไงก็อยู่ยาก ปรับยังไงก็มีปัญหา ทำให้อยู่ลำบาก ซึ่งเริ่มต้นนายกฯ ต้องทำตัวเป็นนายกฯตัวจริงเสียก่อน หากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ การบริหารก็ไม่เดิน มีความตึงเครียดตลอดเวลา อยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากสภาพแบบนี้ จึงอยากให้รัฐบาลเดินหน้า ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำงานอย่างจริงจัง ปลดล็อกความขัดแย้งทางการเมือง ก็หมดเรื่อง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับครม.ว่ารายชื่อครม.ชุดใหม่ ที่ปรากฏตามสื่อ เหมือนการเปลี่ยนครีมหน้าเค้กมากกว่าการเปลี่ยนเนื้อเค๊ก คือการสลับคน เปลี่ยนหน้าที่ แต่คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังยังเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นสังคมไทยคงไม่สามารถหวังผลได้ว่าการปรับครม.จะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตจากโครงการจำนำข้าว และการทุจริตอื่น ไม่ว่าจะเป็นการส่อทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5แสนล้าน และการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารดีขึ้น เนื่องจากผู้กำหนดแนวทางบริหารงานยังเหมือนเดิม การปรับครม.จึงเป็นแค่การแก้ปัญหาของรัฐบาลมากกว่าแก้ปัญหาของประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง
"หวังว่ายังมีเวลาก่อนที่ ครม.ใหม่จะคลอดออกมา นายกฯ มีเวลาที่จะทำให้การปรับ ครม.ปู5 สร้างความหวัง ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่ารัฐบาลจะสามารถฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคแก้ปัญหาประชาชนและประเทศชาติอย่างจริงจัง อยู่ที่นายกฯจะแสดงภาวะผู้นำ ความเป็นนายกฯเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ หากทำได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารประเทศต่อไปอีก 2 ปีข้างหน้า" นายองอาจ กล่าว
** ครม.ปู 5"บุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ"
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้วิจารณ์ถึงการปรับครม.ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางเฟซบุ๊กของเขา ว่า เมื่อวันก่อนเพิ่ง "วิพากษ์" ครม.ไปหยกๆ นายกฯยิ่งลักษณ์ทำงานรวดเร็วทันใจวันนี้ข่าวออกโผ ครม. เปลี่ยนโฉมใหม่ "โฟกัส" หน้าตาแล้ว ขอให้ความเห็น ดังนี้
1. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบรมว.กลาโหม "แบบนี้ต้องมี 2 สคริปท์ จะอ่านทันหรือ ? สับสนตายทุกภาคส่วน"
2. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นรมช.กลาโหม "หน้าที่หลักคงยื่นสคริปท์ ให้นายกฯอ่าน"
3.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็น รองนายกรัฐมนตรี "อ้าว เห็นเป็นรมว.ศึกษาฯอยู่หยกๆ ยังเซ็นชื่อไม่ครบทุกแฟ้มเลยเปลี่ยนอีกแล้ว"
4. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรองนายกรัฐมนตรี (คุมตำรวจ) “พวกบ่อนต้องเริ่มทำโพยใหม่"
5.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นรมว.พาณิชย์ "เหยื่อรายใหม่ ต้องมาเช็ดขี้ให้คนเก่า ชีวิตเศร้าจริงๆ จะรอดไหมเนี่ย ? เรื่องโกงข้าว งานเข้าตั้งแต่เริ่ม”
6. นายยรรยง พวงราช เป็น รมช.พาณิชย์ "คนนี้รับประกันได้ ไม่ทำ MVโชว์สวยเหมือนณัฐวุฒิ เป็นข้าราชการเก่าระดับ 'ปลัดกระทรวง' ประสานงานดี ข้อมูลแน่น ไว้ช่วยยันเรื่อง 'ข้าวเน่า' เพราะบ้านเกิดอยู่ 'ยางชุมน้อย' จ.ศรีสะเกษ มีประสบการณ์มาก เรื่อง'หอมแดงเน่า' มาก่อน"
7.นางเบญจา หลุยเจริญ เป็น รมช.คลัง "คนนี้รุ่นพี่ผมที่ธรรมศาสตร์ แต่ได้ข่าว 'คำนวณ' ไม่ค่อยเก่ง ตกวิชา'ภาษี' ในตลาดหลักทรัพย์"
8. นายชัยเกษม นิติสิริ เป็น รมว.ยุติธรรม "นี่ก็เรียน ปปร. รุ่นเดียวกับผม เป็นคน 'ตรงไปตรงมา' แต่ 'ปั่นไซด์ก้อย' เก่ง โค้งเข้าประตู ถูกใจ'ผู้จัดการทีม' "
9. นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.ศึกษาธิการ "หมดเคราะห์หมดโศก ออกจากบ้านเลขที่ 111 โรงเรียนคงได้เพิ่มหลักสูตร วิชาประวัติศาสตร์ ว่าด้วยเรื่อง 'แดงทั้งแผ่นดิน' "
10. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.แรงงาน "เหลิมมาแล้ว หวังว่าค่าแรงคงเกิน 300 บาท เพราะตอนคุม 'ตำรวจ' แกดูแลตำรวจดี มีรายได้เสริม ร่ำรวยกันถ้วนหน้า"
11. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี เป็น รมช.คมนาคม "เห็นอยู่ปตท. หยกๆ วิ่งมาคมนาคมเสียแล้ว อย่างนี้ 'ยูเซน โบลต์'นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก ยังสู้ไม่ได้ อายแกไปเลย"
12. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม " 'เจ๊แดง' ส่งเข้าทดแทน โควต้า 'ก๊วนเหนือ' คนเก่า ที่ทำ 'ข้าวเน่า' ไปเรียบร้อย"
13.นางปวีณา หงสกุล เป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ "อย่างนี้สิ เรียกว่า 'ใช้คนถูกงาน' เจ๊ปิ๊ก เขาถนัดงานกระทรวงนี้ ตัดเวลา 'เรียนรู้งาน' ไปแยะ เข้างานตอนเช้า สายๆ สั่งงานได้แล้ว"
ครม. ยิ่งลักษณ์ 5 รับตำแหน่งแล้ว ทำงานได้เลย เพราะเป็นประเภท "วัวเคยค้า ม้าเคยขี่" กันทั้งนั้น บางท่านตั้งแต่สมัยยังรับราชการ คนจัดโผเก่งเหลือหลาย ชอบดู "หนังจีนกำลังภายใน" ประเภทวิทยายุทธ์สูงล้ำ กตัญญูรู้คุณ มี "สุภาษิตประจำใจ" แปะไว้ข้างฝาบ้านว่า "บุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ"
**เชื่อผบ.เหล่าทัพรับได้รมว.กลาโหมหญิง
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับครม.ที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมานั่งควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ตามข่าว และไม่ได้โทรศัพท์เช็คใคร เป็นอำนาจของนายกฯ จะว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีสัญญาณอะไรมาถึงตน และก็จะไม่ไปหาสัญญาณด้วย ตนยังอยู่แบบนี้ ถ้ามีคำสั่งมาก็ไป หากยังไม่มีคำสั่ง ก็อยู่ต่อเมื่อถามว่าการที่จะมีการเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งมาถามคำแบบนี้ เพราะจะทำให้เกิดความสับสน ถ้าตนไม่เปลี่ยน แล้วจะเป็นอย่างไร มันจะทำให้เสียเวลา อย่าเพิ่งไปพูด ถ้าเปลี่ยนแล้วขอให้เป็นข่าวทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคาดเดาต่างๆ เพราะมันจะผิดพลาด ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานด้านความมั่นคง ตนอยากถามว่าจะกระทบตรงไหน หากมีการเปลี่ยนรมว.กลาโหม แม้ว่าจะเปลี่ยนตัว ก็สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง การวิ่งผลัดเร็วกว่าวิ่งคนเดียว เพราะขึ้นอยู่กับการส่งไม้ให้ดีเท่านั้น อย่าไปมองในภาพที่ไม่ดี
เมื่อถามว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะยอมรับได้หรือไม่ กับการที่มีผู้หญิงมานั่งในตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวย้อนว่า " ผู้สื่อข่าวผู้หญิงยังรับได้เลย เพราะไม่เกี่ยวกัน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการทำงาน ไม่เกี่ยวว่าเป็นผู้หญิง รมว.กลาโหม ของชาติต่างๆ ก็มีที่เป็นผู้หญิง เช่นประเทศสเปน ที่มีรมว.กลาโหมเป็นผู้หญิง และตั้งครรภ์ด้วย”รมว.กลาโหม กล่าว
** จำใจไปอยู่ก.แรงงาน ตามคำสั่ง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าวว่า ถูกโยกไปเป็นรมว.แรงงานว่า ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ จึงยังไม่อยากแสดงความเห็นจนกว่าจะมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ลงมา และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความเสียใจ หากนายกฯ เห็นว่าเหมาะสมก็แสดงว่าได้พิจารณาดีแล้ว ตนไม่ยึดติด จะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่นายกฯจะมอบหมาย
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นขุนพล แล้วศึกเสร็จแล้วหรือ ยังไม่เสร็จเลย อย่างไรก็ตามรายชื่อ ครม. ตามที่สื่อรายงาน อาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ คิดว่านายกฯ คงใช้ความรอบคอบอย่างถี่ถ้วนแล้วในการปรับ ครม.
เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากงาน เช่น งานภาคใต้ ถึงรองนายกฯ คนใหม่ที่จะมาแทนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่กล้าฝาก เพราะอยู่ 6 เดือน ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเรื่องยาก ที่ผ่านมามักบอกว่า ตนอวดรู้ แต่ขอย้ำว่าปัญหาภาคใต้ แก้ไม่ง่าย และยิ่งการเจรจาเป็นข่าวตลอด ก็เท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น มากกว่า ทั้งนี้ การไปเจรจาอะไร ถือเป็นสิทธิของผู้ไปพูดคุย เมื่อกลับมาต้องนำมาสู่ ศปก.กปต. เพื่อสรุปรายงานต่อนายกฯ แล้วจึงค่อยประชาสัมพันธ์ออกไป
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ คงไม่ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้แล้ว โดยได้แจ้งยกเลิกในพื้นที่ไปหมดแล้ว เนื่องจากนายกฯ ยังงดภารกิจประชุมภาคใต้ และถ้าถูกย้ายไปกระทรวงแรงงานจริง ก็คงคิดถึงนักข่าว ขณะนี้อยากให้ชัดเจนก่อนว่าจะไปตำแหน่งอะไร ตนจะนัดนักข่าวรับประทานอาหาร และวิเคราะห์การเมืองให้ฟัง เพราะอยู่มา 2 ปี ยังไม่เคยกินข้าวกันเลย
สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกฯ แทนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พล.ต.อ.ประชาดี แต่เรื่องฝีไม้ลายมือต้องให้ผู้สื่อข่าวตัดสิน เพราะตนตัดสินไม่ได้ ส่วนตนนั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็สนุกกับงาน ส่วนข้อสังเกตการนำผู้ที่มียศ พล.ต.อ.มาแทน ร.ต.อ. อาจจะทำให้งานดีกว่าเดิมนั้น ขอบอกว่าการทำงานอย่าไปดูที่ยศ อย่างไรก็ตาม หากถูกย้ายคงไม่กระทบกับการปราบปรามยาเสพติด คงเดินหน้าต่อไป ไม่สะดุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้ต่อสายคุยพูดคุยกับ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน เพื่อเคลียร์ใจกันแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่ได้เคลียร์ใจ จะไปเคลียร์อย่างไร ก็ตนไม่ได้อยากไป ขอฝากบอกไปถึงนายเผดิมชัยว่า ตนไม่ได้วิ่งเต้นเพื่อให้ได้ตำแหน่ง เพราะถ้าเป็นไปได้ คงหยุดรถพระอาทิตย์แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ความหมายหยุดรถพระอาทิตย์ คืออะไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “หมายความว่าถ้าหยุดเวลาได้ ก็ให้ผมอยู่ต่อ”
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ถูกย้ายเพราะไปพูดถึงกลุ่มทุนที่จ้องล้มรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงเพื่อความเหมาะสมมากกว่า เพราะว่าที่ตนพูดนั้น เป็นการช่วยรัฐบาล ซึ่งเป็นผลดีกับรัฐบาล เรื่องนี้กลุ่มทุน บริษัทน้ำเมา หรือบริษัทขายไก่ คงไม่ใช่สาเหตุนี้ที่ปรับตนออกแน่นอน เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะไม่ใช่งานของตนโดยตรง
** ยังไม่เลิกคิดพาทักษิณกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โทรมาคุยเองเรื่องให้ย้ายออกจากตำแหน่ง จริงหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่าไม่จริง ไม่เคยโทรคุย การให้ตนไป แรงงาน อาจให้ไปปราบแรงงานเถื่อน หรือพวกค้ามนุษย์ มาเฟียต่างๆ หรือพวกที่จะตั้งเมืองใหม่ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร เพราะบ้านตนอยู่ใกล้
เมื่อถามว่าถ้าถูกย้ายจริงในฐานะที่เป็นขุนพลของรัฐบาล ต่อสู้เพื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาโดยตลอด น้อยใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนถามว่า ใครตั้งตนเป็นขุนพล มีแต่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีต นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งให้ตนมาเป็นขุนศึก ซึ่งการเมืองจะมาน้อยใจไม่ได้ สถานการณ์หนึ่งเราอาจเหมาะสม แต่อีกสถานการณ์หนึ่งอาจไม่เหมาะสม
เมื่อถามถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ปรองดองที่ได้รับการบรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯแล้ว จะยังเดินหน้าเหมือนเดิมหรือไม่ หากถูกโยกย้าย ร.ต.อ.กล่าวว่า กฎหมายนี้อยู่ในสภาฯแล้ว ก็เป็นเรื่องของสภา
เมื่อถามย้ำว่าถึงวันนี้จะยังคงพูดได้หรือไม่ว่า จะยังคงพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านภายในปีนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า “เวลาเปลี่ยน หัวใจเฉลิมไม่เปลี่ยน ที่ผ่านมาพูดบ่อย เลยทำให้ทักษิณ ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เรื่องพาทักษิณ กลับบ้าน เมื่อกฎหมายผ่าน ทุกอย่างก็จบ”
เมื่อถามว่า ต่อไปถ้ารัฐบาลไม่มีกันชนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าจะมีคนอื่นมาทำหน้าที่แทนได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คิดว่านายกฯ ได้พิจารณาดีแล้ว คนที่มาทำหน้าที่แทนตน ต้องเก่งกว่าตน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ ค่อนข้างไม่ปกติ
** ปัดไม่เคยใช้วิธีดักฟังโทรศัพท์
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯระบุว่า มีการจัดซื้อเครื่องมือดักฟังโทรศัพท์ด้วยว่า ที่นายสนธิออกรายการบอกว่า ตนไปซื้อเครื่องมือดักฟังโทรศัพท์ เป็นรุ่นพิเศษ และดักฟังโทรศัพท์ของทุกคนได้ ตนขอสาบานต่อหน้าองค์พระแก้วมรกต ถ้าผมทำอย่างที่นายสนธิพูด ขอให้ตนและครอบครอบครัววิบัติ แต่ถ้าผมไม่ได้ทำขอให้มีความเจริญรุ่งเรือง และที่ผ่านมาตนวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองใกล้เคียง เพราะตนอยู่การเมืองมานานตนรู้จักกลุ่มคน ความเชื่อมโยงจึงทำให้การวิเคราะห์ใกล้เคียง ไม่ใช่ได้ข้อมูลจากการดักฟังโทรศัพท์
เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ หมายความว่าอย่างไร ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เสาร์อาทิตย์ หน้ากากขาวก็มา ประชาธิปัตย์เปลี่ยนรูปแบบแล้วอีก 4 ครั้งจะมาจัดเวทีผ่าความจริงใน กทม. แล้วอย่างนี้จะปกติหรือ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องมีผลกระทบต่อรัฐบาลบ้าง ก็ต้องรอดูต่อไป
ผู้สื่อข่าถามว่า หน้าตาว่าที่ ครม.ชุดใหม่เป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็หล่อกว่าตน และเชื่อว่านายกฯ มั่นใจว่าจะช่วยแก้สถานการณ์ได้ ส่วนบุคคลที่ตนสนับสนุนอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ไม่ได้ตำแหน่ง จึงยังไม่ขอกล่าวถึง
“ในพรรคเพื่อไทยพรรคพวกผมเยอะ เว้นแต่ว่าผมไปทะเลาะกับท่านทักษิณ ก็จะเหลือแค่ 2คน คือผมกับเงา เราต้องรู้ตัวเองว่า เราไม่ใช่นายทุนพรรค ไม่ได้ให้เงินพรรค เหนื่อยแค่ไปปราศรัยหาเสียงให้ ถ้าพรรคเห็นว่าแบบไหนเหมาะ ก็ตามนั้น จะไปแสดงความเห็นพอใจ หรือไม่พอใจไม่ได้ การเมืองต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
** ยันยังไม่ได้เก็บของจากท้องทำงาน
ส่วนที่เห็นเก็บของลงมาจากห้องทำงาน ก็เป็นของใหม่ ที่ทางบริษัทนำมาให้ดู แต่ตนไม่ชอบ ก็ให้ขนกลับ ส่วนของเก่ายังไม่ขนออก ส่วนที่มีข่าวที่ให้ทีมงานไปชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม ที่โรงอาหาร ถือเป็นความรู้ใหม่ว่า ชำระเงินกันทุกวันศุกร์
“เจ้าหน้าที่มันคิดอะไร คนอย่างเฉลิมต้องใช้หนี้ก่อนหรือ เมื่อไรก็กลับมาใช้คืนได้ นักข่าวเลยเอาไปเป็นเคล็ดเลยว่า ย้ายแน่ เพราะปกติจ่ายทุกวันศุกร์ แล้วนี่มาจ่ายวันพุธ แหม...เศรษฐีบ้านริมคลอง จะมาโกงแม่ค้าร้านข้าวแกงได้อย่างไร” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากย้ายไปอยู่กระทรวงแรงงานแล้วจะมาให้ความเห็นเรื่องการเมืองได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ถ้าไปจริงคงจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ สื่อกำลังทำให้ผมต้องร้องเพลงขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนได้ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ลงมาจากห้องทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า สิ่งของภายในห้องทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม มีจำนวน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โซฟาราคาแพงหลายชิ้น รวมทั้งภาพวาดขนาดใหญ่ ทำให้ต้องมีการนำรถบรรทุกขนาดเล็กมาขนออกไปหลายเที่ยว ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้ขนย้ายไปยังบริษัท ยังไม่ได้นำไปที่กระทรวงใด
** เชื่อ"จาตุรนต์"สานต่องานที่ศธ.ได้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ แทนตนเอง ว่าไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง ทุกคนก็จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เพราะตั้งแต่สมัย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น รมว.ศึกษาธิการ จนกระทั่งมาถึงตนเอง งานอะไรที่เริ่มดำเนินการไว้แล้วตนก็มาสานงานต่อ ส่วนอะไรที่ยังไม่ได้ดำเนินการตนก็มาริเริ่ม ซึ่งไม่มีปัญหาใดเพราะทุกคนมาจากรัฐบาลเดียวกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนไหนมาทำหน้าที่ นโยบายยังดำเนินการเหมือนเดิม ส่วนกรณีการสอบสวนการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยที่ยังดำเนินการอยู่จะหยุดชะงักหรือไม่นั้น เรื่องการทุจริตถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างไรก็ต้องดำเนินการต่อเชื่อว่าไม่มีหยุดชะงักแน่นอน
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า นายจาตุรนต์ นั้นเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาฯ มาแล้ว และน่าจะเป็นคนแรกที่กลับมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ ในสมัยที่ 2 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้น่าจะมีผลดีต่อศธ. ในแง่ของความเข้าใจและการสานต่องานด้านการศึกษาต่าง ๆ เพราะขณะที่นายจาตุรนต์ เป็นรมว.ศึกษาธิการสมัยแรก ก็คงจะได้เห็นว่ามีงานหลายจุดที่ยังค้าง และยังไม่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเดียวกันช่วงที่เว้นวรรคไปคาดว่า นายจาตุรนต์ คงจะติดตามปัญหาต่าง ๆ ด้วยและเมื่อกลับคราวนี้ นายจาตุรนต์ คงมีอะไรอยู่ในใจค่อนข้างเยอะว่าจะต้องมาดำเนินการอะไรบ้าง
“นายจาตุรนต์เองก็อยู่ในกระบวนการปฏิรูปการศึกษามาตลอด และเป็นผู้ที่เข้าใจเจตนารมณ์การปฏิรูปการศึกษาอย่างลึกซึ้ง จะได้เข้ามาจับจุดตรงนี้ได้ทันที”นายชินภัทร กล่าว
**"ยรรยง"ว่าที่รมช.พาณิชย์ โผล่ทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า นายยรรยง พวงราช บอร์ด ธ.ก.ส. และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่มีรายงานข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายยรรยงได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาประชุมเรื่องข้าวร่วมกับนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่งรมช.พาณิชย์ จริงหรือไม่ นายยรรยง ไม่ได้ตอบคำถามแต่ยิ้ม พยักหน้า และพูดคุยอย่างเป็นการกันเองกับผู้สื่อข่าวถึงปัญหาในโครงการรับจำนำข้าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้กระเซ้าแหย่เรียกนายยรรยงว่า “ท่านรัฐมนตรี” นายยรรยงได้หันมายิ้มแสดงสีหน้าอย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่ช่างภาพพยายามกรูเข้าไปถ่ายภาพ นายยรรยง ได้รีบขึ้นรถยนต์ส่วนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาลไปทันที
** "มัชฌิมา"ยังต้องร้องเพลงรอ
นายอนุชา นาคาศัย กล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามตนให้ไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ในครม.“ยิ่งลักษณ์ 5”ว่า หลายคนได้โทรมาสอบถามเรื่องดังกล่าวกับตน ตั้งแต่เมื่อคืน วันที่ 26 มิ.ย. โดยตนขอยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง และไม่มีใครมาทาบทามให้ไปนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีเลย และในกลุ่มมัชฌิมาเอง ก็คงไม่มีชื่อใครปรากฏว่าได้เข้าร่วมรัฐบาลในการปรับครม.ครั้งนี้ เ พราะเท่าที่ทราบตอนนี้โผครม.เริ่มนิ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีการทาบทามเข้ามาจริง ตนเชื่อว่าคนที่เป็นนักการเมืองทุกคน พร้อมอยู่แล้วที่จะทำทุกหน้าที่ แต่ถึงนาทีนี้ ก็ยังไม่มีการทาบทามเลย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย สมาชิกกลุ่มมัชฌิมา จะได้รับรับตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าไม่ทราบเรื่อง แต่หากจะเข้าร่วมจริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ที่จะพิจารณาเเต่งตั้งใคร
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ทางนิตินัย กลุ่มมัชฌิมา ยังเป็นสมาชิกของพรรคภูมิใจไทย แต่ทางพฤตินัย ถือว่าไม่ใช่ เพราะเห็นได้จากการลงคะแนนออกเสียง ในการประชุมสภาหลายครั้ง ที่กลุ่มมัชฌิมา เทเสียงให้กับรัฐบาล
“ หากนายกฯไม่แคร์ส.ส. หรือคนในพรรค ก็ทำได้ หากมีการแต่งตั้งจริง แล้วค่อยมาดูกันว่า พรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น”นายบุญจง กล่าว
**โผครม.ยิ่งลักษณ์ 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการยื่นรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ "ครม.ยิ่งลักษณ์5" ผ่านสำนักราชเลขาธิการ เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว โดยมีรายชื่อ 19 ตำแหน่ง ดังนี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็น รมช.กลาโหม, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรองนายกรัฐมนตรี ,พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรองนายกรัฐมนตรี ,นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์, นายยรรยง พวงราช เป็น รมช.พาณิชย์
นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร เป็น รมช.คลัง, นายชัยเกษม นิติสิริ เป็น รมว.ยุติธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายวราเทพ รัตนากร เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ , นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เป็นรมช.มหาดไทย,ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.แรงงาน, นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.ศึกษาธิการ,นางปวีณา หงสกุล เป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายพ้อง ชีวานันท์ เป็น รมช.คมนาคม, นายวิเชษฐ เกษมทองศรี เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายสรวงศ์ เทียนทอง เป็น รมช.สาธารณสุข
สำหรับรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากรองนายกฯ ,นายชลน่าน ศรีแก้ว พ้นจาก รมช.สาธารณสุข ,พล.ต.ท. กุลดิลก พ้นจาก รมช.มหาดไทย, นายฐานิสร์ เทียนทอง พ้นจาก รมช.อุตสาหกรรม , นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย พ้นจากรมช.คลัง, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ พ้นจากรมว.พาณิชย์ , ,พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พ้นจาก รมว.ยุติธรรม , นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข พ้นจาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พ้นจากรมว.แรงงาน ,นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา พ้นจาก รมว.ศึกษาธิการ , นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร พ้นจากรมช.เกษตรและสหกรณ์ ,นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล พ้นจากรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ พ้นจากรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสันติ พร้อมพัฒน์ พ้นจาก รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พ้นจาก รมว.ทรวงกลาโหม
ขณะที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ยังนั่ง มท.1 ตำแหน่งเดิม และ นายประชา ประสพดี ยังคงเป็น รมช.มหาดไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับ ครม. ของรัฐบาลว่า ตัวบุคคลที่เปลี่ยนแปลงไม่มีความสำคัญเท่ากับคนมาใหม่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ เช่น กระทรวงพาณิชย์ จะมีการเปิดเผยข้อมูลให้มีความโปร่งใสหรือไม่ สะสางการทุจริตไหม สิ่งเหล่านี้สำคัญกว่าชื่อรัฐมนตรี เช่นเดียวกับปัญหาภาคใต้คือ จะสะสางเรื่องการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น อย่างไร ไม่ให้ความรุนแรงในพื้นที่เพิ่มขึ้น เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรี แต่คนบงการยังเหมือนเดิม ก็ไม่ช่วยอะไรกับการบริหารประเทศ ความสำคัญจึงอยู่ที่ว่าคนเข้ามาทำงานจะเปลี่ยแปลงอะไรได้หรือไม่ ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ปรับรัฐมนตรีไปก็เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่ากับตอนนี้การปรับครม. และการบริหารประเทศอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ มีความรับผิดชอบตามรัฐธรรมนูญ ต้องสำนึกว่า ตำแหน่งทีได้มามีความรับผิดชอบอะไร ไม่ควรให้ใครมาบงการ อย่างไรก็ตาม ตลอดการบริหารของรัฐบาลยังไม่มีอะไรนอกจากวนไปเวียนมา ไม่แก้ปัญหาประเทศ ปัญหาประชาชน จ้องผลักดันวาระที่เป็นประโยชน์ส่วนตัวของพรรคพวกมากกว่า ส่วนที่รัฐบาลหวังว่าการปรับครม. จะช่วยยืดอายุรัฐบาลออกไปได้นั้น
" ผมเห็นว่ารัฐบาลนี้อยู่ได้ครบเทอม หากตั้งใจทำงาน และรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม แต่ถ้าทำเรื่องยุ่งๆ จะปรับยังไงก็อยู่ยาก ปรับยังไงก็มีปัญหา ทำให้อยู่ลำบาก ซึ่งเริ่มต้นนายกฯ ต้องทำตัวเป็นนายกฯตัวจริงเสียก่อน หากยังปล่อยให้เป็นอย่างนี้ การบริหารก็ไม่เดิน มีความตึงเครียดตลอดเวลา อยากให้บ้านเมืองหลุดพ้นจากสภาพแบบนี้ จึงอยากให้รัฐบาลเดินหน้า ทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำงานอย่างจริงจัง ปลดล็อกความขัดแย้งทางการเมือง ก็หมดเรื่อง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปรับครม.ว่ารายชื่อครม.ชุดใหม่ ที่ปรากฏตามสื่อ เหมือนการเปลี่ยนครีมหน้าเค้กมากกว่าการเปลี่ยนเนื้อเค๊ก คือการสลับคน เปลี่ยนหน้าที่ แต่คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังยังเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นสังคมไทยคงไม่สามารถหวังผลได้ว่าการปรับครม.จะช่วยทำให้การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการทุจริตจากโครงการจำนำข้าว และการทุจริตอื่น ไม่ว่าจะเป็นการส่อทุจริตโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5แสนล้าน และการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท รวมทั้งไม่สามารถทำให้ประสิทธิภาพในการบริหารดีขึ้น เนื่องจากผู้กำหนดแนวทางบริหารงานยังเหมือนเดิม การปรับครม.จึงเป็นแค่การแก้ปัญหาของรัฐบาลมากกว่าแก้ปัญหาของประชาชน และประเทศชาติบ้านเมือง
"หวังว่ายังมีเวลาก่อนที่ ครม.ใหม่จะคลอดออกมา นายกฯ มีเวลาที่จะทำให้การปรับ ครม.ปู5 สร้างความหวัง ความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่ารัฐบาลจะสามารถฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคแก้ปัญหาประชาชนและประเทศชาติอย่างจริงจัง อยู่ที่นายกฯจะแสดงภาวะผู้นำ ความเป็นนายกฯเพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ หากทำได้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการบริหารประเทศต่อไปอีก 2 ปีข้างหน้า" นายองอาจ กล่าว
** ครม.ปู 5"บุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ"
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้วิจารณ์ถึงการปรับครม.ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทางเฟซบุ๊กของเขา ว่า เมื่อวันก่อนเพิ่ง "วิพากษ์" ครม.ไปหยกๆ นายกฯยิ่งลักษณ์ทำงานรวดเร็วทันใจวันนี้ข่าวออกโผ ครม. เปลี่ยนโฉมใหม่ "โฟกัส" หน้าตาแล้ว ขอให้ความเห็น ดังนี้
1. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบรมว.กลาโหม "แบบนี้ต้องมี 2 สคริปท์ จะอ่านทันหรือ ? สับสนตายทุกภาคส่วน"
2. พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นรมช.กลาโหม "หน้าที่หลักคงยื่นสคริปท์ ให้นายกฯอ่าน"
3.นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็น รองนายกรัฐมนตรี "อ้าว เห็นเป็นรมว.ศึกษาฯอยู่หยกๆ ยังเซ็นชื่อไม่ครบทุกแฟ้มเลยเปลี่ยนอีกแล้ว"
4. พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรองนายกรัฐมนตรี (คุมตำรวจ) “พวกบ่อนต้องเริ่มทำโพยใหม่"
5.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็นรมว.พาณิชย์ "เหยื่อรายใหม่ ต้องมาเช็ดขี้ให้คนเก่า ชีวิตเศร้าจริงๆ จะรอดไหมเนี่ย ? เรื่องโกงข้าว งานเข้าตั้งแต่เริ่ม”
6. นายยรรยง พวงราช เป็น รมช.พาณิชย์ "คนนี้รับประกันได้ ไม่ทำ MVโชว์สวยเหมือนณัฐวุฒิ เป็นข้าราชการเก่าระดับ 'ปลัดกระทรวง' ประสานงานดี ข้อมูลแน่น ไว้ช่วยยันเรื่อง 'ข้าวเน่า' เพราะบ้านเกิดอยู่ 'ยางชุมน้อย' จ.ศรีสะเกษ มีประสบการณ์มาก เรื่อง'หอมแดงเน่า' มาก่อน"
7.นางเบญจา หลุยเจริญ เป็น รมช.คลัง "คนนี้รุ่นพี่ผมที่ธรรมศาสตร์ แต่ได้ข่าว 'คำนวณ' ไม่ค่อยเก่ง ตกวิชา'ภาษี' ในตลาดหลักทรัพย์"
8. นายชัยเกษม นิติสิริ เป็น รมว.ยุติธรรม "นี่ก็เรียน ปปร. รุ่นเดียวกับผม เป็นคน 'ตรงไปตรงมา' แต่ 'ปั่นไซด์ก้อย' เก่ง โค้งเข้าประตู ถูกใจ'ผู้จัดการทีม' "
9. นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.ศึกษาธิการ "หมดเคราะห์หมดโศก ออกจากบ้านเลขที่ 111 โรงเรียนคงได้เพิ่มหลักสูตร วิชาประวัติศาสตร์ ว่าด้วยเรื่อง 'แดงทั้งแผ่นดิน' "
10. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.แรงงาน "เหลิมมาแล้ว หวังว่าค่าแรงคงเกิน 300 บาท เพราะตอนคุม 'ตำรวจ' แกดูแลตำรวจดี มีรายได้เสริม ร่ำรวยกันถ้วนหน้า"
11. นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี เป็น รมช.คมนาคม "เห็นอยู่ปตท. หยกๆ วิ่งมาคมนาคมเสียแล้ว อย่างนี้ 'ยูเซน โบลต์'นักวิ่งเหรียญทองโอลิมปิก ยังสู้ไม่ได้ อายแกไปเลย"
12. นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม " 'เจ๊แดง' ส่งเข้าทดแทน โควต้า 'ก๊วนเหนือ' คนเก่า ที่ทำ 'ข้าวเน่า' ไปเรียบร้อย"
13.นางปวีณา หงสกุล เป็น รมว.พัฒนาสังคมฯ "อย่างนี้สิ เรียกว่า 'ใช้คนถูกงาน' เจ๊ปิ๊ก เขาถนัดงานกระทรวงนี้ ตัดเวลา 'เรียนรู้งาน' ไปแยะ เข้างานตอนเช้า สายๆ สั่งงานได้แล้ว"
ครม. ยิ่งลักษณ์ 5 รับตำแหน่งแล้ว ทำงานได้เลย เพราะเป็นประเภท "วัวเคยค้า ม้าเคยขี่" กันทั้งนั้น บางท่านตั้งแต่สมัยยังรับราชการ คนจัดโผเก่งเหลือหลาย ชอบดู "หนังจีนกำลังภายใน" ประเภทวิทยายุทธ์สูงล้ำ กตัญญูรู้คุณ มี "สุภาษิตประจำใจ" แปะไว้ข้างฝาบ้านว่า "บุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ"
**เชื่อผบ.เหล่าทัพรับได้รมว.กลาโหมหญิง
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการปรับครม.ที่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะมานั่งควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม ว่า ไม่ทราบ ไม่ได้ตามข่าว และไม่ได้โทรศัพท์เช็คใคร เป็นอำนาจของนายกฯ จะว่าอย่างไรก็อย่างนั้น ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีสัญญาณอะไรมาถึงตน และก็จะไม่ไปหาสัญญาณด้วย ตนยังอยู่แบบนี้ ถ้ามีคำสั่งมาก็ไป หากยังไม่มีคำสั่ง ก็อยู่ต่อเมื่อถามว่าการที่จะมีการเปลี่ยนตัว รมว.กลาโหม ที่ดูแลงานด้านความมั่นคง จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่เกิดขึ้น อย่าเพิ่งมาถามคำแบบนี้ เพราะจะทำให้เกิดความสับสน ถ้าตนไม่เปลี่ยน แล้วจะเป็นอย่างไร มันจะทำให้เสียเวลา อย่าเพิ่งไปพูด ถ้าเปลี่ยนแล้วขอให้เป็นข่าวทีหลังก็แล้วกัน ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคาดเดาต่างๆ เพราะมันจะผิดพลาด ทั้งนี้เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานด้านความมั่นคง ตนอยากถามว่าจะกระทบตรงไหน หากมีการเปลี่ยนรมว.กลาโหม แม้ว่าจะเปลี่ยนตัว ก็สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง การวิ่งผลัดเร็วกว่าวิ่งคนเดียว เพราะขึ้นอยู่กับการส่งไม้ให้ดีเท่านั้น อย่าไปมองในภาพที่ไม่ดี
เมื่อถามว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะยอมรับได้หรือไม่ กับการที่มีผู้หญิงมานั่งในตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวย้อนว่า " ผู้สื่อข่าวผู้หญิงยังรับได้เลย เพราะไม่เกี่ยวกัน เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการทำงาน ไม่เกี่ยวว่าเป็นผู้หญิง รมว.กลาโหม ของชาติต่างๆ ก็มีที่เป็นผู้หญิง เช่นประเทศสเปน ที่มีรมว.กลาโหมเป็นผู้หญิง และตั้งครรภ์ด้วย”รมว.กลาโหม กล่าว
** จำใจไปอยู่ก.แรงงาน ตามคำสั่ง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีกระแสข่าวว่า ถูกโยกไปเป็นรมว.แรงงานว่า ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ จึงยังไม่อยากแสดงความเห็นจนกว่าจะมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ลงมา และเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความเสียใจ หากนายกฯ เห็นว่าเหมาะสมก็แสดงว่าได้พิจารณาดีแล้ว ตนไม่ยึดติด จะอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่นายกฯจะมอบหมาย
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ได้เป็นขุนพล แล้วศึกเสร็จแล้วหรือ ยังไม่เสร็จเลย อย่างไรก็ตามรายชื่อ ครม. ตามที่สื่อรายงาน อาจไม่เป็นแบบนั้นก็ได้ คิดว่านายกฯ คงใช้ความรอบคอบอย่างถี่ถ้วนแล้วในการปรับ ครม.
เมื่อถามว่ามีอะไรจะฝากงาน เช่น งานภาคใต้ ถึงรองนายกฯ คนใหม่ที่จะมาแทนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่กล้าฝาก เพราะอยู่ 6 เดือน ยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย การแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เป็นเรื่องยาก ที่ผ่านมามักบอกว่า ตนอวดรู้ แต่ขอย้ำว่าปัญหาภาคใต้ แก้ไม่ง่าย และยิ่งการเจรจาเป็นข่าวตลอด ก็เท่ากับเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น มากกว่า ทั้งนี้ การไปเจรจาอะไร ถือเป็นสิทธิของผู้ไปพูดคุย เมื่อกลับมาต้องนำมาสู่ ศปก.กปต. เพื่อสรุปรายงานต่อนายกฯ แล้วจึงค่อยประชาสัมพันธ์ออกไป
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ คงไม่ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้แล้ว โดยได้แจ้งยกเลิกในพื้นที่ไปหมดแล้ว เนื่องจากนายกฯ ยังงดภารกิจประชุมภาคใต้ และถ้าถูกย้ายไปกระทรวงแรงงานจริง ก็คงคิดถึงนักข่าว ขณะนี้อยากให้ชัดเจนก่อนว่าจะไปตำแหน่งอะไร ตนจะนัดนักข่าวรับประทานอาหาร และวิเคราะห์การเมืองให้ฟัง เพราะอยู่มา 2 ปี ยังไม่เคยกินข้าวกันเลย
สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม จะมาดำรงตำแหน่งรองนายกฯ แทนนั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนตัวรู้จักกับ พล.ต.อ.ประชาดี แต่เรื่องฝีไม้ลายมือต้องให้ผู้สื่อข่าวตัดสิน เพราะตนตัดสินไม่ได้ ส่วนตนนั้นไม่ว่าอยู่ที่ไหน ก็สนุกกับงาน ส่วนข้อสังเกตการนำผู้ที่มียศ พล.ต.อ.มาแทน ร.ต.อ. อาจจะทำให้งานดีกว่าเดิมนั้น ขอบอกว่าการทำงานอย่าไปดูที่ยศ อย่างไรก็ตาม หากถูกย้ายคงไม่กระทบกับการปราบปรามยาเสพติด คงเดินหน้าต่อไป ไม่สะดุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าวว่าได้ต่อสายคุยพูดคุยกับ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน เพื่อเคลียร์ใจกันแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่าไม่ได้เคลียร์ใจ จะไปเคลียร์อย่างไร ก็ตนไม่ได้อยากไป ขอฝากบอกไปถึงนายเผดิมชัยว่า ตนไม่ได้วิ่งเต้นเพื่อให้ได้ตำแหน่ง เพราะถ้าเป็นไปได้ คงหยุดรถพระอาทิตย์แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ความหมายหยุดรถพระอาทิตย์ คืออะไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “หมายความว่าถ้าหยุดเวลาได้ ก็ให้ผมอยู่ต่อ”
เมื่อถามว่า สาเหตุที่ถูกย้ายเพราะไปพูดถึงกลุ่มทุนที่จ้องล้มรัฐบาลหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงเพื่อความเหมาะสมมากกว่า เพราะว่าที่ตนพูดนั้น เป็นการช่วยรัฐบาล ซึ่งเป็นผลดีกับรัฐบาล เรื่องนี้กลุ่มทุน บริษัทน้ำเมา หรือบริษัทขายไก่ คงไม่ใช่สาเหตุนี้ที่ปรับตนออกแน่นอน เช่นเดียวกับการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะไม่ใช่งานของตนโดยตรง
** ยังไม่เลิกคิดพาทักษิณกลับบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีกระแสข่าออกมาระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ โทรมาคุยเองเรื่องให้ย้ายออกจากตำแหน่ง จริงหรือไม่ ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่าไม่จริง ไม่เคยโทรคุย การให้ตนไป แรงงาน อาจให้ไปปราบแรงงานเถื่อน หรือพวกค้ามนุษย์ มาเฟียต่างๆ หรือพวกที่จะตั้งเมืองใหม่ที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร เพราะบ้านตนอยู่ใกล้
เมื่อถามว่าถ้าถูกย้ายจริงในฐานะที่เป็นขุนพลของรัฐบาล ต่อสู้เพื่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์มาโดยตลอด น้อยใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม ย้อนถามว่า ใครตั้งตนเป็นขุนพล มีแต่ นายสมัคร สุนทรเวช อดีต นายกรัฐมนตรี ที่ตั้งให้ตนมาเป็นขุนศึก ซึ่งการเมืองจะมาน้อยใจไม่ได้ สถานการณ์หนึ่งเราอาจเหมาะสม แต่อีกสถานการณ์หนึ่งอาจไม่เหมาะสม
เมื่อถามถึงการผลักดันร่าง พ.ร.บ. ปรองดองที่ได้รับการบรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯแล้ว จะยังเดินหน้าเหมือนเดิมหรือไม่ หากถูกโยกย้าย ร.ต.อ.กล่าวว่า กฎหมายนี้อยู่ในสภาฯแล้ว ก็เป็นเรื่องของสภา
เมื่อถามย้ำว่าถึงวันนี้จะยังคงพูดได้หรือไม่ว่า จะยังคงพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านภายในปีนี้ รองนายกฯ กล่าวว่า “เวลาเปลี่ยน หัวใจเฉลิมไม่เปลี่ยน ที่ผ่านมาพูดบ่อย เลยทำให้ทักษิณ ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เรื่องพาทักษิณ กลับบ้าน เมื่อกฎหมายผ่าน ทุกอย่างก็จบ”
เมื่อถามว่า ต่อไปถ้ารัฐบาลไม่มีกันชนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม คิดว่าจะมีคนอื่นมาทำหน้าที่แทนได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คิดว่านายกฯ ได้พิจารณาดีแล้ว คนที่มาทำหน้าที่แทนตน ต้องเก่งกว่าตน เพราะสถานการณ์ทางการเมืองวันนี้ ค่อนข้างไม่ปกติ
** ปัดไม่เคยใช้วิธีดักฟังโทรศัพท์
ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯระบุว่า มีการจัดซื้อเครื่องมือดักฟังโทรศัพท์ด้วยว่า ที่นายสนธิออกรายการบอกว่า ตนไปซื้อเครื่องมือดักฟังโทรศัพท์ เป็นรุ่นพิเศษ และดักฟังโทรศัพท์ของทุกคนได้ ตนขอสาบานต่อหน้าองค์พระแก้วมรกต ถ้าผมทำอย่างที่นายสนธิพูด ขอให้ตนและครอบครอบครัววิบัติ แต่ถ้าผมไม่ได้ทำขอให้มีความเจริญรุ่งเรือง และที่ผ่านมาตนวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองใกล้เคียง เพราะตนอยู่การเมืองมานานตนรู้จักกลุ่มคน ความเชื่อมโยงจึงทำให้การวิเคราะห์ใกล้เคียง ไม่ใช่ได้ข้อมูลจากการดักฟังโทรศัพท์
เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์การเมืองไม่ปกติ หมายความว่าอย่างไร ร.ต.อ. เฉลิม กล่าวว่า เสาร์อาทิตย์ หน้ากากขาวก็มา ประชาธิปัตย์เปลี่ยนรูปแบบแล้วอีก 4 ครั้งจะมาจัดเวทีผ่าความจริงใน กทม. แล้วอย่างนี้จะปกติหรือ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องมีผลกระทบต่อรัฐบาลบ้าง ก็ต้องรอดูต่อไป
ผู้สื่อข่าถามว่า หน้าตาว่าที่ ครม.ชุดใหม่เป็นอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็หล่อกว่าตน และเชื่อว่านายกฯ มั่นใจว่าจะช่วยแก้สถานการณ์ได้ ส่วนบุคคลที่ตนสนับสนุนอย่าง นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ไม่ได้ตำแหน่ง จึงยังไม่ขอกล่าวถึง
“ในพรรคเพื่อไทยพรรคพวกผมเยอะ เว้นแต่ว่าผมไปทะเลาะกับท่านทักษิณ ก็จะเหลือแค่ 2คน คือผมกับเงา เราต้องรู้ตัวเองว่า เราไม่ใช่นายทุนพรรค ไม่ได้ให้เงินพรรค เหนื่อยแค่ไปปราศรัยหาเสียงให้ ถ้าพรรคเห็นว่าแบบไหนเหมาะ ก็ตามนั้น จะไปแสดงความเห็นพอใจ หรือไม่พอใจไม่ได้ การเมืองต้องยอมรับสภาพความเป็นจริง”ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
** ยันยังไม่ได้เก็บของจากท้องทำงาน
ส่วนที่เห็นเก็บของลงมาจากห้องทำงาน ก็เป็นของใหม่ ที่ทางบริษัทนำมาให้ดู แต่ตนไม่ชอบ ก็ให้ขนกลับ ส่วนของเก่ายังไม่ขนออก ส่วนที่มีข่าวที่ให้ทีมงานไปชำระค่าอาหาร เครื่องดื่ม ที่โรงอาหาร ถือเป็นความรู้ใหม่ว่า ชำระเงินกันทุกวันศุกร์
“เจ้าหน้าที่มันคิดอะไร คนอย่างเฉลิมต้องใช้หนี้ก่อนหรือ เมื่อไรก็กลับมาใช้คืนได้ นักข่าวเลยเอาไปเป็นเคล็ดเลยว่า ย้ายแน่ เพราะปกติจ่ายทุกวันศุกร์ แล้วนี่มาจ่ายวันพุธ แหม...เศรษฐีบ้านริมคลอง จะมาโกงแม่ค้าร้านข้าวแกงได้อย่างไร” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากย้ายไปอยู่กระทรวงแรงงานแล้วจะมาให้ความเห็นเรื่องการเมืองได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ถ้าไปจริงคงจะมาพูดแบบนี้ไม่ได้ สื่อกำลังทำให้ผมต้องร้องเพลงขาดฉันแล้วเธอจะรู้สึก ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ ร.ต.อ.เฉลิม เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ทางเจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนได้ขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ ลงมาจากห้องทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม ที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า สิ่งของภายในห้องทำงานของ ร.ต.อ.เฉลิม มีจำนวน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ โซฟาราคาแพงหลายชิ้น รวมทั้งภาพวาดขนาดใหญ่ ทำให้ต้องมีการนำรถบรรทุกขนาดเล็กมาขนออกไปหลายเที่ยว ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ เปิดเผยว่า มีคำสั่งให้ขนย้ายไปยังบริษัท ยังไม่ได้นำไปที่กระทรวงใด
** เชื่อ"จาตุรนต์"สานต่องานที่ศธ.ได้
นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงกระแสข่าวว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง จะมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ แทนตนเอง ว่าไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง ทุกคนก็จะต้องดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล เพราะตั้งแต่สมัย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล และ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช เป็น รมว.ศึกษาธิการ จนกระทั่งมาถึงตนเอง งานอะไรที่เริ่มดำเนินการไว้แล้วตนก็มาสานงานต่อ ส่วนอะไรที่ยังไม่ได้ดำเนินการตนก็มาริเริ่ม ซึ่งไม่มีปัญหาใดเพราะทุกคนมาจากรัฐบาลเดียวกัน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีคนไหนมาทำหน้าที่ นโยบายยังดำเนินการเหมือนเดิม ส่วนกรณีการสอบสวนการทุจริตการสอบครูผู้ช่วยที่ยังดำเนินการอยู่จะหยุดชะงักหรือไม่นั้น เรื่องการทุจริตถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างไรก็ต้องดำเนินการต่อเชื่อว่าไม่มีหยุดชะงักแน่นอน
ด้าน นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) กล่าวว่า นายจาตุรนต์ นั้นเป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งรมว.ศึกษาฯ มาแล้ว และน่าจะเป็นคนแรกที่กลับมาเป็น รมว.ศึกษาธิการ ในสมัยที่ 2 ซึ่งการกลับมาครั้งนี้น่าจะมีผลดีต่อศธ. ในแง่ของความเข้าใจและการสานต่องานด้านการศึกษาต่าง ๆ เพราะขณะที่นายจาตุรนต์ เป็นรมว.ศึกษาธิการสมัยแรก ก็คงจะได้เห็นว่ามีงานหลายจุดที่ยังค้าง และยังไม่ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเดียวกันช่วงที่เว้นวรรคไปคาดว่า นายจาตุรนต์ คงจะติดตามปัญหาต่าง ๆ ด้วยและเมื่อกลับคราวนี้ นายจาตุรนต์ คงมีอะไรอยู่ในใจค่อนข้างเยอะว่าจะต้องมาดำเนินการอะไรบ้าง
“นายจาตุรนต์เองก็อยู่ในกระบวนการปฏิรูปการศึกษามาตลอด และเป็นผู้ที่เข้าใจเจตนารมณ์การปฏิรูปการศึกษาอย่างลึกซึ้ง จะได้เข้ามาจับจุดตรงนี้ได้ทันที”นายชินภัทร กล่าว
**"ยรรยง"ว่าที่รมช.พาณิชย์ โผล่ทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในการประชุมแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ปรากฏว่า นายยรรยง พวงราช บอร์ด ธ.ก.ส. และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่มีรายงานข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย โดยภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายยรรยงได้เดินลงจากตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า มาประชุมเรื่องข้าวร่วมกับนายกฯ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจะมาดำรงตำแหน่งรมช.พาณิชย์ จริงหรือไม่ นายยรรยง ไม่ได้ตอบคำถามแต่ยิ้ม พยักหน้า และพูดคุยอย่างเป็นการกันเองกับผู้สื่อข่าวถึงปัญหาในโครงการรับจำนำข้าว ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้กระเซ้าแหย่เรียกนายยรรยงว่า “ท่านรัฐมนตรี” นายยรรยงได้หันมายิ้มแสดงสีหน้าอย่างอารมณ์ดี แต่ทันทีที่ช่างภาพพยายามกรูเข้าไปถ่ายภาพ นายยรรยง ได้รีบขึ้นรถยนต์ส่วนตัวออกจากทำเนียบรัฐบาลไปทันที
** "มัชฌิมา"ยังต้องร้องเพลงรอ
นายอนุชา นาคาศัย กล่าวถึงกระแสข่าวการทาบทามตนให้ไปนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ในครม.“ยิ่งลักษณ์ 5”ว่า หลายคนได้โทรมาสอบถามเรื่องดังกล่าวกับตน ตั้งแต่เมื่อคืน วันที่ 26 มิ.ย. โดยตนขอยืนยันว่ายังไม่ทราบเรื่อง และไม่มีใครมาทาบทามให้ไปนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีเลย และในกลุ่มมัชฌิมาเอง ก็คงไม่มีชื่อใครปรากฏว่าได้เข้าร่วมรัฐบาลในการปรับครม.ครั้งนี้ เ พราะเท่าที่ทราบตอนนี้โผครม.เริ่มนิ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีการทาบทามเข้ามาจริง ตนเชื่อว่าคนที่เป็นนักการเมืองทุกคน พร้อมอยู่แล้วที่จะทำทุกหน้าที่ แต่ถึงนาทีนี้ ก็ยังไม่มีการทาบทามเลย
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายอนุชา นาคาศัย สมาชิกกลุ่มมัชฌิมา จะได้รับรับตำแหน่งรัฐมนตรี ว่าไม่ทราบเรื่อง แต่หากจะเข้าร่วมจริง ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะเป็นดุลยพินิจของนายกรัฐมนตรี ที่จะพิจารณาเเต่งตั้งใคร
อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ทางนิตินัย กลุ่มมัชฌิมา ยังเป็นสมาชิกของพรรคภูมิใจไทย แต่ทางพฤตินัย ถือว่าไม่ใช่ เพราะเห็นได้จากการลงคะแนนออกเสียง ในการประชุมสภาหลายครั้ง ที่กลุ่มมัชฌิมา เทเสียงให้กับรัฐบาล
“ หากนายกฯไม่แคร์ส.ส. หรือคนในพรรค ก็ทำได้ หากมีการแต่งตั้งจริง แล้วค่อยมาดูกันว่า พรรคจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะขณะนี้เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น”นายบุญจง กล่าว
**โผครม.ยิ่งลักษณ์ 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีการยื่นรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ "ครม.ยิ่งลักษณ์5" ผ่านสำนักราชเลขาธิการ เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว โดยมีรายชื่อ 19 ตำแหน่ง ดังนี้
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม, พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็น รมช.กลาโหม, นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา เป็นรองนายกรัฐมนตรี ,พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นรองนายกรัฐมนตรี ,นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล เป็น รมว.พาณิชย์, นายยรรยง พวงราช เป็น รมช.พาณิชย์
นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตอธิบดีกรมศุลกากร เป็น รมช.คลัง, นายชัยเกษม นิติสิริ เป็น รมว.ยุติธรรม, นายสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกฯ, นายวราเทพ รัตนากร เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ , นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ เป็นรมช.มหาดไทย,ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.แรงงาน, นายจาตุรนต์ ฉายแสง เป็น รมว.ศึกษาธิการ,นางปวีณา หงสกุล เป็น รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายพ้อง ชีวานันท์ เป็น รมช.คมนาคม, นายวิเชษฐ เกษมทองศรี เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายสรวงศ์ เทียนทอง เป็น รมช.สาธารณสุข
สำหรับรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ประกอบด้วย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พ้นจากรองนายกฯ ,นายชลน่าน ศรีแก้ว พ้นจาก รมช.สาธารณสุข ,พล.ต.ท. กุลดิลก พ้นจาก รมช.มหาดไทย, นายฐานิสร์ เทียนทอง พ้นจาก รมช.อุตสาหกรรม , นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย พ้นจากรมช.คลัง, นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ พ้นจากรมว.พาณิชย์ , ,พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก พ้นจาก รมว.ยุติธรรม , นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข พ้นจาก รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม , นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พ้นจากรมว.แรงงาน ,นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา พ้นจาก รมว.ศึกษาธิการ , นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร พ้นจากรมช.เกษตรและสหกรณ์ ,นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล พ้นจากรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ,นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ พ้นจากรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายสันติ พร้อมพัฒน์ พ้นจาก รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต พ้นจาก รมว.ทรวงกลาโหม
ขณะที่ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ยังนั่ง มท.1 ตำแหน่งเดิม และ นายประชา ประสพดี ยังคงเป็น รมช.มหาดไทย