ASTVผู้จัดการรายวัน - “บอร์ด อสมท” ซื้อเวลาพรีเมียร์ลีก ตั้งคณะทำงานศึกษาเจรจาต่อรอง ชี้มี 2 แนวทาง ทั้งแบบเดิมจ่ายเหมาหมด กับ โมเดลใหม่ จ่ายสิทธิ์ 70 ล้านบทาต่อปี และแบ่งรายได้จากโฆษณา พร้อมเลือกคู่บอลถ่ายทอดได้ ก่อนเคาะวันที่ 4 เดือนหน้านี้
นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อสมท หรือบอร์ด อสมท กล่าวภายหลังจากการประชุมบอร์ด อสมท เมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุมบอร์ดได้มีการพิจารณาเรื่อง การที่ อสมท จะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จากทาง บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) มูลค่า 480 ล้านบาท รวม 3 ปี ปีละ 17 แมทช์ ว่า
ที่ประชุมได้สรุปแนวทางการดำเนินงานไว้โดยให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา รวม 4 คน ประกอบด้วย นายจักรพนธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ , นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ กรมการ ,นายยงยุทธ ชัยรหมประสิทธิ์ กรรมการ และนายธนะชัย วงศทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ทั้งนี้คณะทำงานดังกล่าวจะต้องทำการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า อสมท ควรจะเลือกคู่แข่งอย่างไร และสิ่งที่ อสมท จะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างไรบ้าง โดยหลังจากศึกษาเสร็จแล้ว จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.30 น.
อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางเบื้องต้นไว้ 2 แนวทางในการดำเนินการเรื่องซื้อลิขสิทธิ์ดังกล่าว คือ แนวทางที่ 1. จะใช้ทางเลือกเดิมที่เจรจากันมาตั้งแต่เริ่มแรกคือ ให้ อสมท ซื้อลิขสิทธิ์ฝ่ายเดียว มูลค่า 495 ล้านาท รวม 3 ปี รวม 17 แมทช์ต่อปี แต่ให้จ่ายปีละ 165 ล้านบาท แล้ว อสมท สามารถหาโฆษณาเองได้และรายทั้งหมดเป็นของ อสมท
แนวทางที่ 2. จะใช้วิธีการแบบที่เรียกว่า เรฟเวนิวแชร์ริ่ง หรือการแบ่งรายได้ ( Revenue Sharing) โดยที่ ทาง อสมท จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี สามารถถ่ายทอดสดได้ 17 คู่ต่อปีเหมือนเดิม ส่วนการหาโฆษณานั้น ให้ทาง อสมท รับผิดชอบ และแบ่งรายได้กัน สัดส่วน อสมท 65% และซีทีเอช 35% โดย อสมท ได้รับสิทธิถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี ช่อง 9 รวม17 แมทช์ ต่อฤดูกาล และสิทธิการถ่ายทอดสดทางวิทยุเพื่อจัดกิจกรรมทั่วประเทศ
นอกจากนี้คณะทำงาจะต้องไปทำการเจรจาต่อรองกับซีทีเอช เพื่อที่จะพิจารณาเลือกถ่ายทอดสดคู่ใดบ้าง อีกทั้งยังต้องไปเปรียบเทียบโอกาสการทำรายได้ ระหว่างผังรายการเดิม และการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกฯในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยว่ามีโอกาสในการสร้างรายได้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
นายสุธรรม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีความสนใจแนวทางที่ 2 เพราะจะทำให้ การจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถูกลง อีกทั้ง ทำให้เราสามารถเลือกคู่ถ่ายทอดสดได้ด้วย เพราะอย่างน้อยเป็นแบบแบ่งรายได้ เพราะฉะนั้นทางซีทีเอชก็ต้องมีส่วนได้ส่วนเสียเหมือนกัน รวมทั้งยังลดแรงกดดันจาก สหภาพแรงงานของอสมท ได้ด้วยระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่า การประชุมในวันที่ 4 เดือนหน้าน่าจะได้ข้อสรุป เพื่อที่จะได้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์จากซีทีเอชภายในเดือนกรกฎาคมทันที
สำหรับการทดลองขายโฆษณาในช่วงก่อนหน้านี้ หรือพรีเซลของ อสมท พบว่า มีสปอนเซอร์ให้ความสนใจพอสมควร และสามารถทำรายได้แล้วประมาณ 248 ล้านบาท คิดเป็นกำไรประมาณ 30-40 ล้านบาท จากต้นทุนที่ซื้อต่อปี ทั้งนี้สปอนเซอร์ที่สนใจจะซื้อถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้จ่ายงบโฆษณากับ อสมท อยู่แล้ว และมั่นใจว่า ในฤดูกาลที่ 2 และ 3 ต่อจากนี้ น่าจะทำรายได้มากขึ้น เพราะมีช่วงเวลาขายโฆษณามากกว่า
นายสุธรรม แสงประทุม ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อสมท หรือบอร์ด อสมท กล่าวภายหลังจากการประชุมบอร์ด อสมท เมื่อวานนี้ว่า ที่ประชุมบอร์ดได้มีการพิจารณาเรื่อง การที่ อสมท จะซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จากทาง บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) มูลค่า 480 ล้านบาท รวม 3 ปี ปีละ 17 แมทช์ ว่า
ที่ประชุมได้สรุปแนวทางการดำเนินงานไว้โดยให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา รวม 4 คน ประกอบด้วย นายจักรพนธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ , นายสุรชัย โฆษิตเสรีวงศ์ กรมการ ,นายยงยุทธ ชัยรหมประสิทธิ์ กรรมการ และนายธนะชัย วงศทองศรี รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ทั้งนี้คณะทำงานดังกล่าวจะต้องทำการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า อสมท ควรจะเลือกคู่แข่งอย่างไร และสิ่งที่ อสมท จะได้รับประโยชน์สูงสุดอย่างไรบ้าง โดยหลังจากศึกษาเสร็จแล้ว จะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เวลา 16.30 น.
อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้มีการพิจารณาแนวทางเบื้องต้นไว้ 2 แนวทางในการดำเนินการเรื่องซื้อลิขสิทธิ์ดังกล่าว คือ แนวทางที่ 1. จะใช้ทางเลือกเดิมที่เจรจากันมาตั้งแต่เริ่มแรกคือ ให้ อสมท ซื้อลิขสิทธิ์ฝ่ายเดียว มูลค่า 495 ล้านาท รวม 3 ปี รวม 17 แมทช์ต่อปี แต่ให้จ่ายปีละ 165 ล้านบาท แล้ว อสมท สามารถหาโฆษณาเองได้และรายทั้งหมดเป็นของ อสมท
แนวทางที่ 2. จะใช้วิธีการแบบที่เรียกว่า เรฟเวนิวแชร์ริ่ง หรือการแบ่งรายได้ ( Revenue Sharing) โดยที่ ทาง อสมท จะต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ ประมาณ 70 ล้านบาทต่อปี สามารถถ่ายทอดสดได้ 17 คู่ต่อปีเหมือนเดิม ส่วนการหาโฆษณานั้น ให้ทาง อสมท รับผิดชอบ และแบ่งรายได้กัน สัดส่วน อสมท 65% และซีทีเอช 35% โดย อสมท ได้รับสิทธิถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี ช่อง 9 รวม17 แมทช์ ต่อฤดูกาล และสิทธิการถ่ายทอดสดทางวิทยุเพื่อจัดกิจกรรมทั่วประเทศ
นอกจากนี้คณะทำงาจะต้องไปทำการเจรจาต่อรองกับซีทีเอช เพื่อที่จะพิจารณาเลือกถ่ายทอดสดคู่ใดบ้าง อีกทั้งยังต้องไปเปรียบเทียบโอกาสการทำรายได้ ระหว่างผังรายการเดิม และการถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกฯในช่วงเวลาดังกล่าว ด้วยว่ามีโอกาสในการสร้างรายได้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง
นายสุธรรม กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีความสนใจแนวทางที่ 2 เพราะจะทำให้ การจ่ายค่าลิขสิทธิ์ถูกลง อีกทั้ง ทำให้เราสามารถเลือกคู่ถ่ายทอดสดได้ด้วย เพราะอย่างน้อยเป็นแบบแบ่งรายได้ เพราะฉะนั้นทางซีทีเอชก็ต้องมีส่วนได้ส่วนเสียเหมือนกัน รวมทั้งยังลดแรงกดดันจาก สหภาพแรงงานของอสมท ได้ด้วยระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่า การประชุมในวันที่ 4 เดือนหน้าน่าจะได้ข้อสรุป เพื่อที่จะได้เซ็นสัญญาซื้อลิขสิทธิ์จากซีทีเอชภายในเดือนกรกฎาคมทันที
สำหรับการทดลองขายโฆษณาในช่วงก่อนหน้านี้ หรือพรีเซลของ อสมท พบว่า มีสปอนเซอร์ให้ความสนใจพอสมควร และสามารถทำรายได้แล้วประมาณ 248 ล้านบาท คิดเป็นกำไรประมาณ 30-40 ล้านบาท จากต้นทุนที่ซื้อต่อปี ทั้งนี้สปอนเซอร์ที่สนใจจะซื้อถือว่าเป็นลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งหมด ไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเดิมที่ใช้จ่ายงบโฆษณากับ อสมท อยู่แล้ว และมั่นใจว่า ในฤดูกาลที่ 2 และ 3 ต่อจากนี้ น่าจะทำรายได้มากขึ้น เพราะมีช่วงเวลาขายโฆษณามากกว่า