ASTVผู้จัดการรายวัน - แกนนำพท.เร่งปรับครม. ดอดบินพบ"แม้ว"ขอเก้าอี้ ชี้พาณิชย์ มหาดไทยเปลี่ยนตัวแน่ บุญทรงอาจปิ๋วเซ่นจำนำข้าวเน่า 8คาด “โต้ง” มานั่งแทน “วราเทพ”ลุ้นคลัง ส่วน”พฤณท์”มีสิทธิ์นั่งกลาโหม "ปลอด-วรวัจน์" ส่อหลุด "เหลิม"โวมีคนให้ตั๋วบินไปฮ่องกง
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับ ครม. หลังจากรัฐบาลกำลังเจอวิกฤติขาลง จากปัญหาจำนำข้าว ทั้งเรื่องการทุจริต และต้องปรับลดราคาจำนำลงเหลือตันละ 12,000 บาท มีรายงานว่า บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้หารือกันว่า ควรรีบปรับ ครม.ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ ไม่ต้องรอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 และ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเสร็จสิ้น โดยแกนนำในพรรคจะนำปัญหา รวมถึงข้อเสนอแนะในการปรับ ครม.ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขณะนี้พำนักอยู่ที่ฮ่องกง ทราบภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับเป้าหมายหลักที่ต้องการให้ปรับ คือ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากปัญหาจำนำข้าว สำหรับกระทรวงมหาดไทย ก็อยากให้มีการปรับเปลี่ยนยกกระทรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีนักการเมือง 2 กลุ่มใหญ่ที่อยู่ในข่ายแคนดิเดตรัฐมนตรี และรัฐมนตรีปัจจุบัน ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อวิ่งเต้นหาตำแหน่ง และต่อรองยื้อตำแหน่ง โดยการวิ่งเต้นพูดคุยทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 26 มิ.ย. และ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางออกจากฮ่องกง ในวันที่ 27 มิ.ย.
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเทศ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เรียกตัวแคนดิเดตที่จะได้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบางราย เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสัมภาษณ์เบื้องต้นประกอบการพิจารณา ซึ่งมีข่าวว่า จะมีการปรับ ครม.มากกว่า 10 ตำแหน่ง อาทิ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่มีปัญหาจากโครงการรับจำนำข้าว จะถูกปรับออก แต่ยังได้รับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นการปลอบใจ และอาจจะให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีนั่งควบเก้าอี้รมว. พาณิชย์
ส่วนนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ จะให้ไปนั่งรมว.การคลัง ขณะที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ถูกปรับไปเป็นรองนายกฯ และปรับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ออก เช่นเดียวกับ 2 รมช.มหาดไทย ทั้งพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายประชา ประสพดี ที่มีสิทธิ์ถูกปรับออกด้วย โดยมีชื่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้ามารับตำแหน่งแทน และยังมีชื่อของพลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต มานั่ง เก้าอี้ รมว.กลาโหมด้วย และมีชื่อของนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี จะมานั่งเป็นรมว.คมนาคมแทนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วย
ส่วนนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ ก็อยู่ในข่ายถูกปรับออก และมีนายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ มานั่งแทน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ถูกปรับออกจาก รมว.วิทยาศาสตร์ฯเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีความพยายามจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่จะขอเข้าร่วมรัฐบาลในรอบนี้ โดยขอโควต้าดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ได้นัด ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ราว 10 คน มาร่วมรับประทานอาหารที่โรงแรมปริ้นเซส ถนนหลานหลวง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ว่า มาถามตนไม่ได้ ต้องถามนายกฯ ตนจะเอาตัวรอดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เมื่อถามว่าได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สิงคโปร์ เหมือนกับคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ได้ไป พอดีมีคนให้ตั๋วผมไปฮ่องกง แต่ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า”
** "ชูวิทย์"วิพากษ์"ครม.ปู"เรียงตัว
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I?m No.5" ประกอบภาพถ่าย ครม.ยิ่งลักษณ์ พร้อมข้อความว่า "ยิ่งอยู่ ยิ่งเละ" และได้วิพากษ์ถึงรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน รัฐมนตรีโลกลืม ที่สมควรปรับออก ดังนี้
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ "จำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยทำอะไร?” น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักฯ "เป็นโฆษกก็ดีอยู่แล้ว" พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม "บุญคุณต้องทดแทน ไม่รู้พอหรือยัง?” นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม "ฟิ้ว ฟึบ ปี๊บๆ" ผลงานท่านเร็วจริงๆ ผมดูไม่ทัน
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมต.พลังเงิน "เอ้ย ใช่หรือเปล่าเนี่ย? หรือผมจำผิด ? พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย "น่าจะพอแล้วนะท่าน" นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย "เงียบไปเลยนะพวก?” นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมต.สาธารณสุข "ชักงงๆ" นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมต.อุสาหกรรม "ยัง งงๆ อยู่ ยังไม่หาย งง"
ส่วนที่ "ฉุดรั้ง ซ้ำเติม" ให้สถานการณ์ "ย่ำแย่" ประชาชน "อนาจใจ" ไม่ต้องถามซ้ำ นายบุญทรง และนายณัฐวุฒิ "เบียดกันเข้าเส้น" กระทบต่อม "ความพึงพอใจ" ของประชาชนให้ "ลดน้อยถอยลง" อย่างแรง จน "นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์" ชักออกอาการ "เป๋ๆ" เปิด "สคริปค์" แทบไม่ทัน ดันใช้ "เฉลิม" จับ "โกงข้าว" แทนที่จะให้ไปจับ "บ่อน" เพราะท่านรู้ดีกว่าใคร อย่างนี้เรียก "ใช้คนผิดงาน" อีกตามเคย
นอกนั้นส่ออาการ "ดันทุรัง" ไม่รู้ "ทนอยู่" หรือ "อยู่ทน" ยิ่งนานวัน ยิ่งอันตราย เพราะ ตอนนี้พวก "ม็อบหน้ากากขาว" ทดลองงาน "ซ้อมย่อย" ไปก่อน เร็วๆนี้คงได้ "ซ้อมใหญ่" หาก นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ปรับ ครม. งานนี้คงได้เห็น "แสดงจริง" อย่างที่ผมบอก นักการเมืองเหมือน "ผ้าอ้อม" ยิ่งใช้นาน ยิ่ง "เลอะเทอะ"
***หวังขับเคลื่อนรถไฟฟ้า-ไฮสปีดเทรนต่อ
แหล่งข่าวจากหน่วยงานภาครัฐ ระบุว่า กระทรวงคมนาคม ต้องถือเป็นกระทรวงหลักที่มีความสำคัญ เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่จะต้องเดินหน้าตามนโยบายที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ ซึ่งมีทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง “ไฮสปีดเทรน” และรถไฟฟ้า 10 สาย ซึ่งมีการวางตัวให้นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบรางและรถไฟฟ้าเข้ามากำกับดูแลโดยตรง แต่ผลงานกลับยังไม่เข้าตา
" จริงๆแล้ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จะว่าไปรัฐบาลสามารถดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินกู้ปกติได้ เพราะใช้เม็ดเงินลงทุนเฉลี่ยปีละ 3 แสนล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องโหมกู้ในทันที แต่กลับนำไปอยู่ภายใต้พรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นการลากรัฐบาลไปขึ้นเขียง นอกเหนือไปจากโครงการจำนำข้าว รถคันแรก บ้านหลังแรกที่รัฐบาลเสียคะแนนไปแล้ว "
แหล่งข่าวกล่าวยอมรับว่า การตัดสินใจในระดับนโยบายหรือระดับกระทรวงที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงยังคงไร้ทิศ เห็นได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนเหนือ (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่ทำคนกรุงขวัญผวาเหล็กหล่นใส่รถประชาชน หรือแม้แต่การประมูลจัดหางานระบบรถไฟฟ้าและสัมปทานบริหารโครงการ ไปตั้งแต่ต้นปี 54 โดยได้ผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ บริษัทบีเอ็มซีแอล จำกัด (มหาชน) แต่กว่า 2 ปีเข้าไปแล้ว กระทรวงคมนาคมก็ยังไม่ตัดสินใจชี้ขาดใดๆ ลงไป
เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียว (ลาดพร้าว-สะพานใหม่-คูคต) และ สายสีชมพูที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมกว่า 6 เดือนแล้วก็ยังไม่มีการ นำเสนอแผนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)
" การประมูลบางรายการแม้จะมูลค่าไม่มาก เช่น จัดหาที่ปรึกษาโครงการวางระบบตั๋วร่วม มูลค่า 300 ล้านที่นัยว่า มีรายการ “ผูกปิ่นโต” ให้บริษัทเกาหลีที่มีความสัมพันธ์กับคนในกระทรว หรือกรณีประมูลจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันเศษของขสมก.ที่นัยว่าผู้ใกล้ชิด เดินสายล็อกสเปกให้บริษัทรถยนต์ในเครือข่ายและอู่ต่อรถรายใหญ่เครือข่ายทางการเมืองภาคอีสานไปแล้วเรียบร้อย รอแต่ ครม." .
ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการปรับ ครม. หลังจากรัฐบาลกำลังเจอวิกฤติขาลง จากปัญหาจำนำข้าว ทั้งเรื่องการทุจริต และต้องปรับลดราคาจำนำลงเหลือตันละ 12,000 บาท มีรายงานว่า บรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้หารือกันว่า ควรรีบปรับ ครม.ช่วงปลายเดือน มิ.ย.นี้ ไม่ต้องรอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 และ การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเสร็จสิ้น โดยแกนนำในพรรคจะนำปัญหา รวมถึงข้อเสนอแนะในการปรับ ครม.ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ขณะนี้พำนักอยู่ที่ฮ่องกง ทราบภายใน 1-2 วันนี้
สำหรับเป้าหมายหลักที่ต้องการให้ปรับ คือ กระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากปัญหาจำนำข้าว สำหรับกระทรวงมหาดไทย ก็อยากให้มีการปรับเปลี่ยนยกกระทรวง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีนักการเมือง 2 กลุ่มใหญ่ที่อยู่ในข่ายแคนดิเดตรัฐมนตรี และรัฐมนตรีปัจจุบัน ได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อวิ่งเต้นหาตำแหน่ง และต่อรองยื้อตำแหน่ง โดยการวิ่งเต้นพูดคุยทั้งหมด คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 26 มิ.ย. และ พ.ต.ท.ทักษิณ จะเดินทางออกจากฮ่องกง ในวันที่ 27 มิ.ย.
ส่วนความเคลื่อนไหวในประเทศ มีรายงานว่า นายกรัฐมนตรี ได้เรียกตัวแคนดิเดตที่จะได้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีบางราย เข้าพบที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อสัมภาษณ์เบื้องต้นประกอบการพิจารณา ซึ่งมีข่าวว่า จะมีการปรับ ครม.มากกว่า 10 ตำแหน่ง อาทิ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ที่มีปัญหาจากโครงการรับจำนำข้าว จะถูกปรับออก แต่ยังได้รับตำแหน่ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นการปลอบใจ และอาจจะให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีนั่งควบเก้าอี้รมว. พาณิชย์
ส่วนนายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ จะให้ไปนั่งรมว.การคลัง ขณะที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ถูกปรับไปเป็นรองนายกฯ และปรับ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ออก เช่นเดียวกับ 2 รมช.มหาดไทย ทั้งพล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก และนายประชา ประสพดี ที่มีสิทธิ์ถูกปรับออกด้วย โดยมีชื่อ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย และนายจตุพร พรหมพันธุ์ เข้ามารับตำแหน่งแทน และยังมีชื่อของพลเอกพฤณท์ สุวรรณทัต มานั่ง เก้าอี้ รมว.กลาโหมด้วย และมีชื่อของนายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี จะมานั่งเป็นรมว.คมนาคมแทนนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ด้วย
ส่วนนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ ก็อยู่ในข่ายถูกปรับออก และมีนายวิสาร เตชะธีระวัฒน์ มานั่งแทน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ถูกปรับออกจาก รมว.วิทยาศาสตร์ฯเช่นกัน อย่างไรก็ตามมีความพยายามจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่จะขอเข้าร่วมรัฐบาลในรอบนี้ โดยขอโควต้าดูแลกระทรวงอุตสาหกรรมอีกด้วย
ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม และนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ ได้นัด ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ราว 10 คน มาร่วมรับประทานอาหารที่โรงแรมปริ้นเซส ถนนหลานหลวง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวปรับนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ออกจากตำแหน่ง เพื่อแสดงความรับผิดชอบโครงการรับจำนำข้าวหรือไม่ว่า มาถามตนไม่ได้ ต้องถามนายกฯ ตนจะเอาตัวรอดหรือเปล่ายังไม่รู้เลย เมื่อถามว่าได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สิงคโปร์ เหมือนกับคนอื่นๆ ในพรรคเพื่อไทย หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ได้ไป พอดีมีคนให้ตั๋วผมไปฮ่องกง แต่ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า”
** "ชูวิทย์"วิพากษ์"ครม.ปู"เรียงตัว
ด้านนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก "ชูวิทย์ I?m No.5" ประกอบภาพถ่าย ครม.ยิ่งลักษณ์ พร้อมข้อความว่า "ยิ่งอยู่ ยิ่งเละ" และได้วิพากษ์ถึงรัฐมนตรีที่ไม่มีผลงาน รัฐมนตรีโลกลืม ที่สมควรปรับออก ดังนี้
นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ "จำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยทำอะไร?” น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักฯ "เป็นโฆษกก็ดีอยู่แล้ว" พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม "บุญคุณต้องทดแทน ไม่รู้พอหรือยัง?” นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมช.คมนาคม "ฟิ้ว ฟึบ ปี๊บๆ" ผลงานท่านเร็วจริงๆ ผมดูไม่ทัน
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมต.พลังเงิน "เอ้ย ใช่หรือเปล่าเนี่ย? หรือผมจำผิด ? พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย "น่าจะพอแล้วนะท่าน" นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย "เงียบไปเลยนะพวก?” นายประดิษฐ สินธวณรงค์ รมต.สาธารณสุข "ชักงงๆ" นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมต.อุสาหกรรม "ยัง งงๆ อยู่ ยังไม่หาย งง"
ส่วนที่ "ฉุดรั้ง ซ้ำเติม" ให้สถานการณ์ "ย่ำแย่" ประชาชน "อนาจใจ" ไม่ต้องถามซ้ำ นายบุญทรง และนายณัฐวุฒิ "เบียดกันเข้าเส้น" กระทบต่อม "ความพึงพอใจ" ของประชาชนให้ "ลดน้อยถอยลง" อย่างแรง จน "นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์" ชักออกอาการ "เป๋ๆ" เปิด "สคริปค์" แทบไม่ทัน ดันใช้ "เฉลิม" จับ "โกงข้าว" แทนที่จะให้ไปจับ "บ่อน" เพราะท่านรู้ดีกว่าใคร อย่างนี้เรียก "ใช้คนผิดงาน" อีกตามเคย
นอกนั้นส่ออาการ "ดันทุรัง" ไม่รู้ "ทนอยู่" หรือ "อยู่ทน" ยิ่งนานวัน ยิ่งอันตราย เพราะ ตอนนี้พวก "ม็อบหน้ากากขาว" ทดลองงาน "ซ้อมย่อย" ไปก่อน เร็วๆนี้คงได้ "ซ้อมใหญ่" หาก นายกฯยิ่งลักษณ์ไม่ปรับ ครม. งานนี้คงได้เห็น "แสดงจริง" อย่างที่ผมบอก นักการเมืองเหมือน "ผ้าอ้อม" ยิ่งใช้นาน ยิ่ง "เลอะเทอะ"
***หวังขับเคลื่อนรถไฟฟ้า-ไฮสปีดเทรนต่อ
แหล่งข่าวจากหน่วยงานภาครัฐ ระบุว่า กระทรวงคมนาคม ต้องถือเป็นกระทรวงหลักที่มีความสำคัญ เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการที่จะต้องเดินหน้าตามนโยบายที่รัฐบาลได้หาเสียงไว้ ซึ่งมีทั้งการพัฒนารถไฟความเร็วสูง “ไฮสปีดเทรน” และรถไฟฟ้า 10 สาย ซึ่งมีการวางตัวให้นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระบบรางและรถไฟฟ้าเข้ามากำกับดูแลโดยตรง แต่ผลงานกลับยังไม่เข้าตา
" จริงๆแล้ว การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ จะว่าไปรัฐบาลสามารถดำเนินการภายใต้กรอบวงเงินกู้ปกติได้ เพราะใช้เม็ดเงินลงทุนเฉลี่ยปีละ 3 แสนล้านบาท โดยไม่จำเป็นต้องโหมกู้ในทันที แต่กลับนำไปอยู่ภายใต้พรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท เป็นการลากรัฐบาลไปขึ้นเขียง นอกเหนือไปจากโครงการจำนำข้าว รถคันแรก บ้านหลังแรกที่รัฐบาลเสียคะแนนไปแล้ว "
แหล่งข่าวกล่าวยอมรับว่า การตัดสินใจในระดับนโยบายหรือระดับกระทรวงที่จำเป็นต่อการขับเคลื่อนรถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูงยังคงไร้ทิศ เห็นได้จากโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ส่วนเหนือ (บางซื่อ-บางใหญ่) ที่ทำคนกรุงขวัญผวาเหล็กหล่นใส่รถประชาชน หรือแม้แต่การประมูลจัดหางานระบบรถไฟฟ้าและสัมปทานบริหารโครงการ ไปตั้งแต่ต้นปี 54 โดยได้ผู้เสนอราคาต่ำสุดคือ บริษัทบีเอ็มซีแอล จำกัด (มหาชน) แต่กว่า 2 ปีเข้าไปแล้ว กระทรวงคมนาคมก็ยังไม่ตัดสินใจชี้ขาดใดๆ ลงไป
เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สายสีเขียว (ลาดพร้าว-สะพานใหม่-คูคต) และ สายสีชมพูที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบเสนอเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคมกว่า 6 เดือนแล้วก็ยังไม่มีการ นำเสนอแผนต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)
" การประมูลบางรายการแม้จะมูลค่าไม่มาก เช่น จัดหาที่ปรึกษาโครงการวางระบบตั๋วร่วม มูลค่า 300 ล้านที่นัยว่า มีรายการ “ผูกปิ่นโต” ให้บริษัทเกาหลีที่มีความสัมพันธ์กับคนในกระทรว หรือกรณีประมูลจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 4,000 คันเศษของขสมก.ที่นัยว่าผู้ใกล้ชิด เดินสายล็อกสเปกให้บริษัทรถยนต์ในเครือข่ายและอู่ต่อรถรายใหญ่เครือข่ายทางการเมืองภาคอีสานไปแล้วเรียบร้อย รอแต่ ครม." .
