ASTVผู้จัดการรายวัน - "ส.ว.คำนูณ" จวกรัฐบาลออก "พ.ร.บ.กู้ชาตินี้ ใช้หนี้ชาติหน้า" ทำลายระบบกฎหมายเกี่ยวกับการจ่ายเงินแผ่นดิน ลั่นเป็นกฎหมายที่สมควรตาย "ปู"ใช้เฟซบุ๊กร่ายยาวถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ "วราเทพ"ยันพ.ร.บ.กู้ มีรายละเอียด เตรียมส่งเอกสาร 300 หน้าให้อ่านก่อนพิจารณาวาระ 1 "ชัชชาติ"อ้างใช้หนี้ 50 ปี เป็นการประมาณการแบบมองโลกแง่ร้าย
ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมถึงเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ... (ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) ที่มีผู้ให้ฉายาว่า "ร่างพ.ร.บ.กู้ชาตินี้ ใช้หนี้ชาติหน้า" จึงอยากจะเปรียบเทียบว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ก็มีสิ่งที่ดีๆ หลายอย่าง เช่น การออก พ.ร.บ. บริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 แต่เวลาผ่านไป 8 ปี รัฐบาลชุดนี้กำลังเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า โดยการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นการล้ม พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะทั้งหมด
นอกจากนั้น ยังมีลักษณะล้มล้างระบบการจ่ายเงินแผ่นดินตามกฎหมายอีก 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.พิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และพ.ร.บ.โอนงบประมาณ ที่สำคัญที่สุด คือ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ว่าด้วยการจ่ายเงินแผ่นดิน มาตรา 170 เกี่ยวกับเงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐ และอาจจะรวมถึงมาตรา 167 ว่าด้วยเรื่องการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ด้วย ทั้งนี้ ตนคิดว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เป็นกฎหมายที่สมควรตาย
**หวั่นประเทศมีหนี้สาธารณะล้นเพดาน
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี หารือว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ตนไม่ปฏิเสธว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าประเทศกำลังก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และประเทศเพื่อนบ้านเราส่วนใหญ่ ก็มีการลงทุนด้านการคมนาคมทางรางด้วย โดยการกู้เงินครั้งนี้ มี 2 กระทรวงที่มีบทบาทมาก คือ กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ต้องใช้ระบบราง เพราะระบบดังกล่าวช่วยลดต้นทุนด้านการคมนาคม และช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งตนสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลนี้ถึงมีนโยบายให้มีโครงการประชานิยมรถคันแรก วันนี้บอกว่าจำเป็นต้องมาใช้รถราง เพราะถ้าใช้รถยนต์มันเปลืองน้ำมัน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังบอกว่า กู้ครั้งนี้ไม่เป็นไร เพราะยังไม่เกินร้อยละ 50 ของหนี้สาธารณะ ความยั่งยืนเรากำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ตนไม่เคยได้ยินจากรัฐบาลเลยว่า เมื่อกู้เงินไม่ใช้แล้วจะใช้คืนอย่างไร ทั้งนี้ ฝากไปยังนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ว่า อย่าเป็นรัฐบาลที่ดีแต่กู้เพียงอย่างเดียว แล้วไม่รู้จักการคืน ซึ่งจะทำให้ประเทศมีหนี้สาธารณะล้นเพดาน
**"ปู"แจง 2 ล้านล้าน ผ่านเฟซบุ๊ก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ ผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra และผ่านทาง www.thaigov.go.th ชี้แจง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีใจความว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และ ASEAN โดยแนวคิดรัฐบาล คือ
1.พัฒนาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่งขาดการลงทุนโครงการใหญ่มานาน
2.เชื่อมโยงแนวคิดภายใต้กรอบ Connectivity เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไทยเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์อาเซียน และเกิดฐานการเชื่อมประชากร 600 ล้านคน ในการสร้างโอกาสและรายได้ให้กับคนไทย และการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนสู่อาเซียน
3.ประเทศไทยขาดการเชื่อมเส้นทาง บก น้ำ อย่างการเชื่อมต่อให้ต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบ ผ่านไปยังแหล่งอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลางน้ำ ไปยังปลายน้ำ ก็คือการส่งออก เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง รวมถึงร่นระยะเวลาการเดินทาง ลดต้นทุนในการสูญเสีย
4.เชื่อมสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้จากเมืองต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น เชียงราย-เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน , กำแพงเพชร-สุโขทัย-ตาก-อุตรดิตถ์
5.เพิ่มทางเลือกเชื่อมเส้นทางโดยสาร โดยรถไฟความเร็วสูง จากหัวเมืองไปยังชานเมือง ลดความแออัดให้คนกรุง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้เมืองชนบทเจริญขึ้น
6.ตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลัพธ์ ที่เห็นเป็นรูปธรรมที่ได้จากค่าขนส่งที่ลดลง 2 % ในช่วงของการลงทุนมูลค่า GDP เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1% ต่อปี และการจ้างงานประมาณ 500,000 อัตรา ซึ่งจะส่งผลทั้งความแข็งแรง การหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคต
** ติวเข้มวิปฯก่อนรับมืออภิปราย28-29 มี.ค.นี้
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ได้มีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อหารือเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ที่จะมีการพิจารณาในสภาฯ วันที่ 28-29 มี.ค.นี้ โดยได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการคลัง มาชี้แจงให้วิปรัฐบาลได้รับทราบเรื่องการใช้เงินดังกล่าว เพื่อรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้าน ส่วนการกำหนดเวลาในการอภิปราย เบื้องต้นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายละ 12 ชั่วโมง 30 นาที โดยรวมเวลาในการประท้วงด้วย คาดว่าการอภิปรายจะอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. เพราะเป็นงบประมาณของกระทรวงเดียว กรมเดียว ถึงจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาถึง 7 ปี โครงการจะแล้วเสร็จ
"ผมเคยให้ข่าวไปว่า สมมุติหากบริษัทหนึ่งมีการลงทุน และไม่กู้เงินมาลงทุน บริษัทนั้นจะเติบโตได้อย่างไร ประเทศเราก็เหมือนกัน หากช้าไปอีก 10 ปี อาจจะต้องใช้เงินถึง 6 หรือ 7 ล้านล้านบาท ก็เป็นได้ โครงการนี้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ในการพัฒนาเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ ประเทศเราจะอยู่กับที่ และไม่มีโอกาสเดินหน้า จึงอยากจะฝากถึงฝ่ายค้านให้ติติงอย่างสร้างสรรค์ด้วย" ประธานวิปรัฐบาลกล่าว
** มีเอกสารรายละเอียด 300 หน้าแจก
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน จะยื่นร่าง พ.ร.บ.ตรวจสอบ คู่ขนานกับ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านของรัฐบาล ว่า ตามปกติก็ยื่นได้ แต่ถ้าเป็นร่างที่เกี่ยวกับการเงิน ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ คือ รัฐบาลต้องให้ความเห็นชอบก่อน และการยื่นของฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบนั้น รัฐบาลไม่เป็นห่วง เพราะที่ผ่านมา ก็เปิดเผยมาโดยตลอด รัฐมนตรีทั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง รวมถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ก็ไปชี้แจ้งกับคณะกรรมาธิการทุกคณะที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนที่ฝ่ายค้านติงว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ฉบับนี้ไม่มีรายละเอียด คงต้องทำความเข้าใจว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมาย ดังนั้นเวลามีการเสนอกฎหมาย ก็ต้องเป็น มาตรา เอกสารก็กำหนดในมาตรา ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้เงิน ก็อาจจะมีรายละเอียด ซึ่งรายละเอียดที่เป็นบัญชีแนบท้าย ที่เป็นแผนงานยุทธศาสตร์ต่างๆ เดี๋ยวรัฐบาลจะเสนอไป แต่เอกสารที่เป็นเอกสารประกอบตัวโครงการ แต่ละโครงการ จะตามมา ซึ่งทำให้อาจสงสัยว่า ทำไมไม่ส่งไปทีเดียว ซึ่งจะมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก วาระที่ 1 เห็นชอบในหลักการ แต่ในรายละเอียด จะอยู่ในขั้นกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ยังมีเอกสารอีก 300 กว่าหน้า ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.รัฐบาล จะได้รับก่อนพิจารณา ในวาระที่ 1
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านกลัวว่ารัฐบาลจะย้อนเกล็ด เรื่องเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็ง นายวราเทพ กล่าวว่า ถ้าพูดกันตามเหตุผล หากโครงการไทยเข้มแข็งที่ทำไว้ไม่ดีตรงไหน เราก็คงไม่ทำตามแน่ ซึ่งส่วนที่ไม่ดีของโครงการกไทยเข้มแข็ง ส.ส.อาจจะนำไปพูดกัน แต่ในส่วนของรัฐบาล ก็จะพูดตามข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
** ฟุ้งสุดคุ้ม ไม่ต้องห่วงเรื่องใช้หนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นการลงทุนระยะยาว 7 ปี เพื่ออนาคตของประเทศ ไม่ใช่กู้เงินไร้สาระ การลงทุนครั้งนี้ลงทุนเยอะ แต่สิ่งที่ได้คืนมา คุ้มค่า ส่วนเรื่องการใช้หนี้ ก็ไม่ต้องกังวล รายละเอียดของโครงการมีเอกสารแนบท้าย กว่า 300 แผ่น ซึ่งกำลังจัดเตรียมอย่างละเอียดอยู่ เพื่อให้ทุกคนเกิดความมั่นใจ ผู้ประกอบการต่างๆ ก็เตรียมด้านทรัพยากร กระทรวงศึกษาธิการเริ่มเตรียมคน นี่เป็นช่วงที่สำคัญของการพลิกโฉมประเทศ อยากจะให้ติติงในชิงสร้างสรรค์ ตนยอมรับฟังทุกอย่าง ขออย่าเอาความกลัว ทำให้พี่น้องประชาชนตื่นตะหนก
สำหรับการใช้หนี้เงินกู้จำนวนนี้ กระทรวงการคลังแจ้งว่า ต้องจ่ายคืนหนี้ 50 ปีนั้น เป็นตัวเลขสมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยม ถ้าเศรษฐกิจดี เราก็สามารถคืนได้เร็วกว่านั้น การกู้ที่ผ่านๆ มา ไม่เคยมีใครเคยพูดถึงแผนการจ่ายเงินคืน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราทำแผน เพื่อแสดงความโปร่งใส ส่วนเงินที่จ่ายไป ขอยืนยันว่าคุ้มกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม การประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการขนส่ง คำนวณออกมาแล้วว่าคุ้มกว่าค่าดอกเบี้ย 3-4% ที่เราต้องจ่าย จึงตนอยากให้พี่น้องประชาชนดูให้ครบถ้วน เพราะไม่ได้กู้ทีเดียว 2 ล้านล้าน แต่จะกู้ตามความจำเป็น ทำสิ่งที่สำคัญในชีวิตก่อน
** "ภูมิใจไทย"ร่วมอภิปรายแน่
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคได้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้ จะมีความชัดเจนว่า จะมีผู้อภิปรายกี่คน และจะอภิปรายประเด็นใดบ้าง ซึ่งขณะนี้ ส.ส.ของพรรคหลายคน สนใจที่จะอภิปราย โดยเบื้องต้นจะอภิปรายในประเด็นรายละเอียดของการกู้เงิน ที่ไม่มีความชัดเจนว่าจะนำเงินไปใช้สร้างรถไฟความเร็วสูงที่ไหน อย่างไร
"ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏรายละเอียดโครงการให้เห็นเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขนาดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะสร้างถนนเล็กๆ ยังต้องระบุตำแหน่งที่จะสร้าง ราคากลาง เพื่อพิจารณากัน แต่รถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นโครงการใหญ่ระดับชาติ แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย" นายบุญจงกล่าว
ในการประชุมวุฒิสภา เมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้หารือต่อที่ประชุมถึงเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.ให้กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง พ.ศ. ... (ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท) ที่มีผู้ให้ฉายาว่า "ร่างพ.ร.บ.กู้ชาตินี้ ใช้หนี้ชาติหน้า" จึงอยากจะเปรียบเทียบว่า ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ก็มีสิ่งที่ดีๆ หลายอย่าง เช่น การออก พ.ร.บ. บริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ.2548 แต่เวลาผ่านไป 8 ปี รัฐบาลชุดนี้กำลังเขียนด้วยมือ ลบด้วยเท้า โดยการเสนอ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงินฯ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นการล้ม พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะทั้งหมด
นอกจากนั้น ยังมีลักษณะล้มล้างระบบการจ่ายเงินแผ่นดินตามกฎหมายอีก 4 ฉบับ คือ พ.ร.บ.พิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2502 พ.ร.บ.เงินคงคลัง พ.ศ.2491 พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี และพ.ร.บ.โอนงบประมาณ ที่สำคัญที่สุด คือ ขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 169 ว่าด้วยการจ่ายเงินแผ่นดิน มาตรา 170 เกี่ยวกับเงินรายได้ของหน่วยงานของรัฐ และอาจจะรวมถึงมาตรา 167 ว่าด้วยเรื่องการนำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ด้วย ทั้งนี้ ตนคิดว่า ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เป็นกฎหมายที่สมควรตาย
**หวั่นประเทศมีหนี้สาธารณะล้นเพดาน
น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี หารือว่า การที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ตนไม่ปฏิเสธว่าการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับประเทศไทยเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าประเทศกำลังก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และประเทศเพื่อนบ้านเราส่วนใหญ่ ก็มีการลงทุนด้านการคมนาคมทางรางด้วย โดยการกู้เงินครั้งนี้ มี 2 กระทรวงที่มีบทบาทมาก คือ กระทรวงการคลัง และกระทรวงคมนาคม ต้องใช้ระบบราง เพราะระบบดังกล่าวช่วยลดต้นทุนด้านการคมนาคม และช่วยลดการใช้พลังงาน ซึ่งตนสงสัยว่า เหตุใดรัฐบาลนี้ถึงมีนโยบายให้มีโครงการประชานิยมรถคันแรก วันนี้บอกว่าจำเป็นต้องมาใช้รถราง เพราะถ้าใช้รถยนต์มันเปลืองน้ำมัน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังบอกว่า กู้ครั้งนี้ไม่เป็นไร เพราะยังไม่เกินร้อยละ 50 ของหนี้สาธารณะ ความยั่งยืนเรากำหนดไว้ไม่เกินร้อยละ 60 ตนไม่เคยได้ยินจากรัฐบาลเลยว่า เมื่อกู้เงินไม่ใช้แล้วจะใช้คืนอย่างไร ทั้งนี้ ฝากไปยังนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ว่า อย่าเป็นรัฐบาลที่ดีแต่กู้เพียงอย่างเดียว แล้วไม่รู้จักการคืน ซึ่งจะทำให้ประเทศมีหนี้สาธารณะล้นเพดาน
**"ปู"แจง 2 ล้านล้าน ผ่านเฟซบุ๊ก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ ผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra และผ่านทาง www.thaigov.go.th ชี้แจง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท มีใจความว่า การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาค ทั้งประเทศเพื่อนบ้าน และ ASEAN โดยแนวคิดรัฐบาล คือ
1.พัฒนาเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศซึ่งขาดการลงทุนโครงการใหญ่มานาน
2.เชื่อมโยงแนวคิดภายใต้กรอบ Connectivity เชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อไทยเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์อาเซียน และเกิดฐานการเชื่อมประชากร 600 ล้านคน ในการสร้างโอกาสและรายได้ให้กับคนไทย และการใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนสู่อาเซียน
3.ประเทศไทยขาดการเชื่อมเส้นทาง บก น้ำ อย่างการเชื่อมต่อให้ต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบ ผ่านไปยังแหล่งอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลางน้ำ ไปยังปลายน้ำ ก็คือการส่งออก เพื่อลดต้นทุนในการขนส่ง รวมถึงร่นระยะเวลาการเดินทาง ลดต้นทุนในการสูญเสีย
4.เชื่อมสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้จากเมืองต่างๆ เข้าด้วยกัน เช่น เชียงราย-เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน , กำแพงเพชร-สุโขทัย-ตาก-อุตรดิตถ์
5.เพิ่มทางเลือกเชื่อมเส้นทางโดยสาร โดยรถไฟความเร็วสูง จากหัวเมืองไปยังชานเมือง ลดความแออัดให้คนกรุง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้เมืองชนบทเจริญขึ้น
6.ตัวเลขเศรษฐกิจที่เป็นผลลัพธ์ ที่เห็นเป็นรูปธรรมที่ได้จากค่าขนส่งที่ลดลง 2 % ในช่วงของการลงทุนมูลค่า GDP เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยประมาณ 1% ต่อปี และการจ้างงานประมาณ 500,000 อัตรา ซึ่งจะส่งผลทั้งความแข็งแรง การหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศอย่างเข้มแข็งต่อไปในอนาคต
** ติวเข้มวิปฯก่อนรับมืออภิปราย28-29 มี.ค.นี้
นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า ได้มีการประชุมวิปรัฐบาล เพื่อหารือเรื่อง ร่าง พ.ร.บ.กู้ 2 ล้านล้าน ที่จะมีการพิจารณาในสภาฯ วันที่ 28-29 มี.ค.นี้ โดยได้เชิญตัวแทนจากกระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการคลัง มาชี้แจงให้วิปรัฐบาลได้รับทราบเรื่องการใช้เงินดังกล่าว เพื่อรับมือการอภิปรายของฝ่ายค้าน ส่วนการกำหนดเวลาในการอภิปราย เบื้องต้นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายละ 12 ชั่วโมง 30 นาที โดยรวมเวลาในการประท้วงด้วย คาดว่าการอภิปรายจะอยู่ในกรอบเวลาที่กำหนด ระหว่างวันที่ 28-29 มี.ค. เพราะเป็นงบประมาณของกระทรวงเดียว กรมเดียว ถึงจะเป็นเงินจำนวนมาก แต่ก็ต้องใช้เวลาถึง 7 ปี โครงการจะแล้วเสร็จ
"ผมเคยให้ข่าวไปว่า สมมุติหากบริษัทหนึ่งมีการลงทุน และไม่กู้เงินมาลงทุน บริษัทนั้นจะเติบโตได้อย่างไร ประเทศเราก็เหมือนกัน หากช้าไปอีก 10 ปี อาจจะต้องใช้เงินถึง 6 หรือ 7 ล้านล้านบาท ก็เป็นได้ โครงการนี้เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ในการพัฒนาเชื่อมโยงกับประเทศต่างๆ ถ้าเราไม่ทำตรงนี้ ประเทศเราจะอยู่กับที่ และไม่มีโอกาสเดินหน้า จึงอยากจะฝากถึงฝ่ายค้านให้ติติงอย่างสร้างสรรค์ด้วย" ประธานวิปรัฐบาลกล่าว
** มีเอกสารรายละเอียด 300 หน้าแจก
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้าน จะยื่นร่าง พ.ร.บ.ตรวจสอบ คู่ขนานกับ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านของรัฐบาล ว่า ตามปกติก็ยื่นได้ แต่ถ้าเป็นร่างที่เกี่ยวกับการเงิน ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ คือ รัฐบาลต้องให้ความเห็นชอบก่อน และการยื่นของฝ่ายค้านเพื่อตรวจสอบนั้น รัฐบาลไม่เป็นห่วง เพราะที่ผ่านมา ก็เปิดเผยมาโดยตลอด รัฐมนตรีทั้ง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง รวมถึง นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ก็ไปชี้แจ้งกับคณะกรรมาธิการทุกคณะที่เกี่ยวข้องแล้ว
ส่วนที่ฝ่ายค้านติงว่า ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ฉบับนี้ไม่มีรายละเอียด คงต้องทำความเข้าใจว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เป็นกฎหมาย ดังนั้นเวลามีการเสนอกฎหมาย ก็ต้องเป็น มาตรา เอกสารก็กำหนดในมาตรา ส่วนกฎหมายที่เกี่ยวกับการใช้เงิน ก็อาจจะมีรายละเอียด ซึ่งรายละเอียดที่เป็นบัญชีแนบท้าย ที่เป็นแผนงานยุทธศาสตร์ต่างๆ เดี๋ยวรัฐบาลจะเสนอไป แต่เอกสารที่เป็นเอกสารประกอบตัวโครงการ แต่ละโครงการ จะตามมา ซึ่งทำให้อาจสงสัยว่า ทำไมไม่ส่งไปทีเดียว ซึ่งจะมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนแรก วาระที่ 1 เห็นชอบในหลักการ แต่ในรายละเอียด จะอยู่ในขั้นกรรมาธิการ อย่างไรก็ตาม ยังมีเอกสารอีก 300 กว่าหน้า ซึ่ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และ ส.ส.รัฐบาล จะได้รับก่อนพิจารณา ในวาระที่ 1
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านกลัวว่ารัฐบาลจะย้อนเกล็ด เรื่องเกี่ยวกับโครงการไทยเข้มแข็ง นายวราเทพ กล่าวว่า ถ้าพูดกันตามเหตุผล หากโครงการไทยเข้มแข็งที่ทำไว้ไม่ดีตรงไหน เราก็คงไม่ทำตามแน่ ซึ่งส่วนที่ไม่ดีของโครงการกไทยเข้มแข็ง ส.ส.อาจจะนำไปพูดกัน แต่ในส่วนของรัฐบาล ก็จะพูดตามข้อเท็จจริงตาม พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท
** ฟุ้งสุดคุ้ม ไม่ต้องห่วงเรื่องใช้หนี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม กล่าวว่า พ.ร.บ. ดังกล่าว เป็นการลงทุนระยะยาว 7 ปี เพื่ออนาคตของประเทศ ไม่ใช่กู้เงินไร้สาระ การลงทุนครั้งนี้ลงทุนเยอะ แต่สิ่งที่ได้คืนมา คุ้มค่า ส่วนเรื่องการใช้หนี้ ก็ไม่ต้องกังวล รายละเอียดของโครงการมีเอกสารแนบท้าย กว่า 300 แผ่น ซึ่งกำลังจัดเตรียมอย่างละเอียดอยู่ เพื่อให้ทุกคนเกิดความมั่นใจ ผู้ประกอบการต่างๆ ก็เตรียมด้านทรัพยากร กระทรวงศึกษาธิการเริ่มเตรียมคน นี่เป็นช่วงที่สำคัญของการพลิกโฉมประเทศ อยากจะให้ติติงในชิงสร้างสรรค์ ตนยอมรับฟังทุกอย่าง ขออย่าเอาความกลัว ทำให้พี่น้องประชาชนตื่นตะหนก
สำหรับการใช้หนี้เงินกู้จำนวนนี้ กระทรวงการคลังแจ้งว่า ต้องจ่ายคืนหนี้ 50 ปีนั้น เป็นตัวเลขสมมติฐานแบบอนุรักษ์นิยม ถ้าเศรษฐกิจดี เราก็สามารถคืนได้เร็วกว่านั้น การกู้ที่ผ่านๆ มา ไม่เคยมีใครเคยพูดถึงแผนการจ่ายเงินคืน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราทำแผน เพื่อแสดงความโปร่งใส ส่วนเงินที่จ่ายไป ขอยืนยันว่าคุ้มกับผลประโยชน์ที่จะได้รับ ทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม การประหยัดเวลา ประหยัดพลังงาน ลดต้นทุนการขนส่ง คำนวณออกมาแล้วว่าคุ้มกว่าค่าดอกเบี้ย 3-4% ที่เราต้องจ่าย จึงตนอยากให้พี่น้องประชาชนดูให้ครบถ้วน เพราะไม่ได้กู้ทีเดียว 2 ล้านล้าน แต่จะกู้ตามความจำเป็น ทำสิ่งที่สำคัญในชีวิตก่อน
** "ภูมิใจไทย"ร่วมอภิปรายแน่
นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคได้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง ซึ่งวันนี้ จะมีความชัดเจนว่า จะมีผู้อภิปรายกี่คน และจะอภิปรายประเด็นใดบ้าง ซึ่งขณะนี้ ส.ส.ของพรรคหลายคน สนใจที่จะอภิปราย โดยเบื้องต้นจะอภิปรายในประเด็นรายละเอียดของการกู้เงิน ที่ไม่มีความชัดเจนว่าจะนำเงินไปใช้สร้างรถไฟความเร็วสูงที่ไหน อย่างไร
"ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏรายละเอียดโครงการให้เห็นเลย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ขนาดองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นจะสร้างถนนเล็กๆ ยังต้องระบุตำแหน่งที่จะสร้าง ราคากลาง เพื่อพิจารณากัน แต่รถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นโครงการใหญ่ระดับชาติ แต่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย" นายบุญจงกล่าว
