xs
xsm
sm
md
lg

“ปู”ลอยตัวชิ่งบอร์ดกขช.-พณ.โบ้ยคลังคำนวณข้าวเจ๊ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - “ปู”ชิ่งเวที กขช. ตามคาด! “บุญทรง” ยอมรับตัวเลข “สุภา” แต่ปัดเจ๊ง 2.6 แสนล้าน ยันที่ขาดทุนสูง เหตุคลังใช้ราคาตลาดต่ำสุดมาคำนวณ ทำให้ 2 ปี ขาดทุน 1.36 แสนล้าน ยังอ้างประเมินขาดทุนแค่ 3.4 หมื่นล้าน โยน!ดูตัวเลขให้ชัด ก่อนนัดประชุม กขช. 17 มิ.ย.นี้ “โต้ง”แย้มจ่อลดราคาจำนำข้าว ด้านทีดีอาร์ไอหนุนรบ.ใส่เกียร์ถอย “มาร์ค”จวกปู ชิ่งหนีรับผิดชอบ

วานนี้ (13 มิ.ย.) นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) แทนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ)นานกขช.โดยตำแหน่ง ที่อ้างติดภารกิจว่า ที่ประชุมได้พิจารณารายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรของกระทรวงการคลังที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ซึ่งน.ส.สุภาได้ยืนยันต่อ กขช. ว่า ตัวเลขการขาดทุนจำนำสูงถึง 2.6แสนล้านบาทนั้น เป็นตัวเลขที่คาดเคลื่อน ไม่ถูกต้อง ไม่ปรากฎอยู่ในเอกสารรายงานฉบับที่ได้จัดทำขึ้นมา

“กขช. ได้มีมติรับทราบรายงานฉบับนี้เป็นทางการ แต่ยังมีหลายส่วนที่ไม่สามารถสรุปได้ ขอให้คณะอนุกรรมการปิดบัญชีนำกลับไปศึกษา โดยเฉพาะการลงบัญชีสินค้าคงเหลือ ที่สามารถลงได้ 2 ลักษณะ คือ ใช้ราคาตลาดต่ำสุดกับใช้ราคาต้นทุนที่รับจำนำมา ซึ่งคลังได้ใช้ตัวเลขแรก และเป็นตัวเลขที่ขาดทุนสูงสุด”

อย่างไรก็ตาม กขช. ยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า การที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ได้ใช้ราคาตลาดต่ำสุดในการคำนวณการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว เพราะต้องทำการปิดบัญชี เพื่อนำเสนอตัวเลขต่อสำนักงบประมาณ เพื่อตั้งงบประมาณชดเชย จึงต้องประเมินให้แย่สุดไว้ก่อน

ทั้งนี้ กขช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ นำข้อมูลของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีไปศึกษาในรายละเอียด และให้พิจารณาตัวเลขของแต่ละหน่วยงานประกอบ เพื่อให้ได้ข้อยุติว่าจะใช้ตัวเลขใดในการทำการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว โดยให้ได้ข้อสรุปเพื่อนำเสนอให้ กขช. พิจารณาอีกครั้งในวันที่ 17 มิ.ย.2556

บุญทรงกล่าวว่า สำหรับรายละเอียดของการปิดบัญชี โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี 2554/55 ของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ พบว่า มีรายได้ 34,197.36 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 77,160.49 ล้านบาท ขาดทุน 42,963.13 ล้านบาท นาปรัง 2555 มีรายได้ 24,943.96 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 118,877.62 ล้านบาท ขาดทุน 93,933.67 ซึ่งรวมเฉพาะปี 2554/55 ทั้งนาปี นาปรัง มีรายได้รวม 59,141.32 ล้านบาท มีค่าใช้จ่ายรวม 196,038.11 ล้านบาท โดยขาดทุน 136,896.80 ล้านบาทไม่ได้ขาดทุนปีแรกสูงถึง 2.6 แสนล้านบาทตามทื่ถูกกล่าวหาจากพรรคฝ่ายค้าน

ส่วนตัวเลขของปี 2555/56 ยังไม่สามารถสรุปโครงการได้ เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินโครงการ ซึ่งจะต้องรอรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง

ทั้งนี้ การคำนวณกำไรขาดทุนของกระทรวงพาณิชย์ ข้าวเปลือกนาปี 2554/55 มีรายได้ 29,511 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 47,685.60 ล้านบาท ขาดทุน 18,174.60 ล้านบาท ข้าวเปลือกนาปรัง 2555 มีรายได้ 20,401 ล้านบาท ค่าใช้จ่าย 37,071.44 ล้านบาท ขาดทุน 16,670.44 ล้านบาท หรือรวมทั้งปี มีรายได้ 49,912 ล้านบาท มีค่าใช้จ่าย 84,757.04 ล้านบาท หรือขาดทุนเพียง 34,845.04 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ตัวเลขการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ได้สรุปโครงการรับจำนำข้าว 3 ปี คือ ปี 2554/55 ขาดทุน 4.2 หมื่นล้านบาท ปี 2555 ขาดทุน 9 หมื่นล้าน และปี 2555/56 ขาดทุน 8.4 หมื่นล้าน รวมขาดทุนประมาณ 2.16 แสนล้านบาท และเมื่อสรุปตัวเลขดังกล่าวออกมาแล้ว ได้ถูกพรรคฝ่ายค้านนำไปโจมตีว่ารัฐบาลขาดทุนจำนำข้าวปีเดียวสูงถึง 2.6 แสนล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นตัวเลขการขาดทุนรวม 3 ปี และบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ เข้าไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ในการประชุม กขช.)ได้มีการนำตัวเลขสรุปโครงการรับจำนำเพียง 2 ปี คือ ปี 2554/55 และปี 2555 จึงเหลือยอดขาดทุนเพียง 1.36 แสนล้านบาท โดยไม่ได้รวมคาดการณ์การขาดทุนของปี 2555/56 ที่ประเมินไว้ว่าจะขาดทุน 8.4 หมื่นล้านบาทเข้าไปด้วย ซึ่งหากนำเข้าไปรวม ก็จะทำให้ยอดขาดทุนสูงกว่า 2 แสนล้านบาทเหมือนเดิม

**บุญทรง'บินแอฟริกาใต้ จีบซื้อข้าว

นางพิรมล เจริญเผ่า อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า นายบุญจะเป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ไทย-แอฟริกาใต้ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 18 มิ.ย.2556 ที่เมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ เพื่อหาลู่ทางในการขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันให้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน จะผลักดันให้แอฟริกาใต้ซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้น เช่น ข้าว เป็นต้น

**โต้งแย้มอาจปรับรูปแบบรับจำนำข้าว

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ กขช. จะปรับเปลี่ยนราคาหรือรูปแบบในการรับจำนำข้าวเพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์ตลาดโลก เนื่องจากสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงไปทั้งจากปัจจัยด้านผลผลิตและอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อดอกเบี้ยยังสามารถปรับได้ การเปลี่ยนแปลงโครงการก็ทำได้ เพื่อให้เป็นไปตามสถานการณ์ การรับจำนำในราคาระดับปัจจุบันนี้ เป็นสิ่งที่เราเชื่อว่าทำได้ แต่เมื่อตลาดโลกเปลี่ยนแปลงไป มีผลผลิตมากขึ้น รัฐบาลก็จำเป็นจะต้องใช้ข้อมูลให้รอบด้าน

**ทีดีอาร์ไอหนุนรบ.ใส่เกียร์ถอย

นายสมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัยด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า เห็นด้วยที่รัฐบาลจะทบทวนโครงการรับจำนำข้าว เพราะในขณะนี้เกิดความเสียหายเป็นวงเงินสูงมาก โดยควรจะหันมาใช้วิธีการประกันราคา หรือใช้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้ามาเป็นกลไกในการดูแลตลาดข้าวจะดีกว่า วิธีการทบทวน ต้องลดทั้งวงเงินจำนำข้าวที่ 1.5 หมื่นบาท/ตัน และจำกัดปริมาณข้าวที่เข้าร่วมโครบการของแต่ละครัวเรือน

ขณะที่ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลต้องทบทวนโครงการรับจำนำข้าว แต่ไม่ขอระบุว่าทบทวนอย่างไร เพราะหากยังจำนำข้าวต่อไปจะเสียหายเพิ่มขึ้นอีก แต่หากรัฐบาลจะใช้วิธีลดวงเงินจำนำ จาก 1.5. หมื่นบาท/ตัน ก็จะเป็นการลดการช่วยเหลือเกษตรเท่านั้น แต่ผลเสียด้านอื่นยังมีอีกมาก เพราะหากคำนวณวงเงินจำนำข้าวอยู่ที่ 2 แสนล้านบาท ก็จะพบว่าเงินที่ตกอยู่ที่ชาวไร่จะมีเพียง 8 หมื่นล้านบาท เท่านั้น ที่เหลือ 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นเงินเบี้ยใบ้รายทาง เงินค่าเสื่อม ค่าดอกเบี้ย

"เมื่อมูดีส์ออกมาเตือนแล้วจะดื้อจำนำข้าวต่อทำไม ควรจะทบทวน โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นกระทรวงการคลังรายงานว่า ในช่วง 1 ปีแรกที่ทำโครงการขาดทุน 1.36 แสนล้านบาท จำนวนข้าวจำนำ 21 ล้านตัน คาดว่าจะขายได้ หมด 4 ปีข้างหน้า เมื่อคำนวณดอกเบี้ยโครงการเพียง 4% ต่อปี รวมกับค่าเก็บ/ค่าเสื่อม 10% แล้วจะมีภาระ 2 หมื่นล้านบาท/ปี รวม 4 ปี จะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท"

**ปชป.จวกปู ชิ่งกขช.หนีรับผิดชอบ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นายกฯไม่เข้าร่วมประชุมเท่ากับเป็นความพยายามที่จะหลีกหนีความรับผิดชอบ ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ แต่นายกฯกลับไม่จัดลำดับความสำคัญ ซึ่งตัวเลขการขาดทุนโครงการรับจำนำข้าวไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่รัฐบาลไม่ยอมเชื่อตัวเลขของหน่วยงานราชการ แล้วก็พยายามที่จะหาเหตุผลมาหักล้าง สิ่งที่สังคมต้องการเห็นคือ ใช้เงินไปแล้วเท่าไหร่ ขายข้าวไปได้เท่าไหร่ มีข้าวอยู่ในสต็อคเท่าไหร่ ซึ่งนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและประธาน กขช. กลับไม่มองว่าตัวเองจะต้องเข้ามารับรู้ รับทราบ แก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง ซึ่งน่าเป็นห่วง

**'โพลนิด้า'ระบุคนเชื่อข้าวเจ๊ง

ศูนย์สำรวจความคิดเห็น "นิด้าโพล" สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง"โครงการรับจำนำข้าว กับการขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท" พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 92.95 เห็นว่า รัฐบาลควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าว เพราะต้องการทราบถึงการดำเนินโครงการ ทั้งนี้ จากกระแสข่าวที่ระบุว่า รัฐบาลขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว 2.6 แสนล้านบาทนั้น พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 37.71 เชื่อว่าขาดทุน 2.6 แสนล้านบาทจริง
กำลังโหลดความคิดเห็น