xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.ยันจำนำข้าวเจ๊งแน่ๆ 2 แสนล้าน ไม่ควรดันทุรังทำต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายเมธี ครองแก้ว (แฟ้มภาพ)
“เมธี” ฟันธง “จำนำข้าว” เจ๊ง 2 แสนล้านตามรายงาน “สุภา” โต้เป็นไปไม่ได้ขาดทุนหลักหมื่นล้าน จวกโครงการทำประเทศฉิบหายไม่สมควรทำต่อ เล็งงัด กม.เรียกเอกสาร ขู่ใครขวางมีสิทธิ์ติดคุก

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายเมธี ครองแก้ว ประธานอนุกรรมการมาตรการป้องกันการทุจริตและความเสียหายของทางราชการ ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า หากเทียบจากจำนวนการผลิตข้าวในประเทศ การใช้ภายในประเทศ และปริมาณที่เสียหาย ที่มีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ทั้งจากนักวิชาการ หรือแม้แต่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ (ทีดีอาร์ไอ) ถือว่าไม่คลาดเคลื่อนกับตัวเลขที่อนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานออกมาเปิดเผย

นายเมธีกล่าวด้วยว่า ตัวเลขขาดทุนมีถึง 2 แสนล้านบาทแน่นอนอยู่แล้ว การมาบอกว่าขาดทุนแค่หลักหมื่นล้านบาทนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐขายข้าวไม่ออก ส่วนที่รัฐบาลอ้างว่ายังไม่สามารถบอกตัวเลขขาดทุนได้เพราะยังมีข้าวอยู่ในสต๊อกนั้น พูดอย่างนี้ก็ถูก แต่ปัญหาคือ คุณสามารถขายข้าวในวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่ และการที่มีของที่ขายแล้วต้องขาดทุนแน่ๆ คนขายจะต้องรู้สึกมีความกังวลอยู่เหมือนกันว่าหากจะขายขาดทุนแล้วมีอำนาจขายขาดทุนได้เท่าไร ตนคิดว่าคงมีความกังวลเรื่องนี้กันอยู่

“หากเป็นเอกชน เจ้าของหรือเถ้าแก่คงไม่ว่า เพราะเขาจะรับผิดชอบไป แต่แบบนี้ใครรับผิดชอบ หากคุณเป็นข้าราชการประจำและมีหน้าที่รับผิดชอบ ถามว่าไม่กังวลหรือ มีของหลวงอยู่และขายไปในราคาถูก หากไม่มีอำนาจที่จะขายขาดทุนได้คุณกล้าขายหรือไม่ ฉะนั้นเรื่องนี้คงไม่ง่ายกับของที่มีอยู่ที่จะขายออกไป” นายเมธีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า โครงการรับจำนำข้าวจะเดินหน้าไปได้อีกนานแค่ไหน นายเมธีกล่าวว่า ไม่ควรจะคิดว่าไปได้นานเท่าไร แต่ในหลักวิชาการแล้วโครงการลักษณะนี้ไม่ควรจะมี แค่นี้ก็นานเกินไปแล้ว และวิธีช่วยชาวนามมีเยอะแยะที่ไม่ใช่วิธีนี้ แต่เมื่อเขาเลือกเดินก็เป็นความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย หากเขาสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยอยู่รอดปลอดภัยทางการเมือง เราคงทำอะไรไม่ได้

“ในทฤษฎีการที่รัฐจะหาเงินเข้ามาระดับแสนล้านบาท หรือ 5 แสนล้านบาท ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ สมมติว่ารัฐบาลจะใช้เงินปีละ 5 แสนล้านบาท จะทำอีก 5 ปียังสามารถทำได้ เงินในประเทศมีเยอะ ซึ่งทำได้ในกรณีที่ไม่มีใครสนใจ แต่ถามว่าในความเป็นจริงแล้วมีใครจะยอมทนให้เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นอีก ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครอดทนได้ขนาดนั้น คงจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก่อน” นายเมธีกล่าว

นายเมธีกล่าวถึงกรณีที่นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.และอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ออกมาระบุว่าหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวไม่ให้ความร่วมมือเรื่องเอกสารว่าในความเป็นจริง ป.ป.ช.มีกฎหมายเรียกเอกสารและหลักฐาน ตามอำนาจใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยป้องกันแลปราบปรามการทุจริต ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวที่ถูกร้องขอจะต้องให้ข้อมูล หากไม่ให้ ป.ป.ช.มีอำนาจที่จะฟ้องร้องได้ เพราะเป็นความผิดทางอาญา โทษถึงติดคุก แต่ที่ ป.ป.ช.ยังไม่ใช่อำนาจในมาตราดังกล่าว เพราะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่ค่อยชอบใช้อำนาจบาทใหญ่กับใคร แต่จะใช้วิจารณญาณ

“กฎหมาย ป.ป.ช.ให้อำนาจเข้าถึงข้อมูลต่างๆ แต่ตั้งแต่มีกฎหมายนี้ ป.ป.ช.ยังไม่เคยใช้มาตรานี้กับหน่วยงานไหน เพราะส่วนใหญ่เวลาขอไปมักจะได้ เพราะถ้าเกิดขอไป แล้วต่อมามีข้อมูลอยู่แล้วเจ้าของมูลซึ่งจะต้องให้แต่ไม่ให้ หากมีการพิสูจน์ได้เช่นนั้นไม่คุ้มกันเลย ยิ่งเป็นข้าราชการประจำถือว่าเสียอนาคตเลยเพราะโทษแรงมาก” นายเมธีกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น