xs
xsm
sm
md
lg

อัด 7.1หมื่นล.4กลุ่มจว.เหนือ ปูจบทริปสัญจรเมืองกล้วยไข่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ (10 มิ.ย.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร นายภักดีหาญส์ หิมะทองคำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติวงเงิน 71,747.76 ล้านบาท จำนวน 199โครงการ ให้แก่กลุ่ม 4 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง คือ จ.กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี โดยขณะนี้ มี 22 โครงการ ที่สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติเงิน 522 ล้านบาท สำหรับการดำเนินโครงการ โดยเจ้าของโครงการจะต้องนำเสนอโครงการต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ภายใน 2 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ครม. ยังได้สนับสนุนงบประมาณ กว่า 1,491 ล้านบาท ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ให้ 4 กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ดังกล่าว ตามที่เสนอ
นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า นายกรัฐมนตรีได้แจ้งที่ประชุม รับทราบเกี่ยวกับภาพรวมการลงพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร และพิจิตร) โดยพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นพื้นที่ที่สำคัญตามแนว east west corridor ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะจุดนี้เป็นจุดที่จะมีการลงทุนตามโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยจะมีการสร้างสถานีรถไฟทั้งที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดนครสวรรค์ เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ทั้ง 4 จังหวัดมีการบูรณาการร่วมกันเพื่อรองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ได้
นอกจากนี้ยังเล็งเห็นว่าในพื้นที่ 4 จังหวัดดังกล่าวมีพืชเกษตรที่สำคัญ 3 ชนิด คือ ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่า พืชเกษตรทั้ง 3 ชนิดดังกล่าวจะมีการบริหารจัดการอย่างไร เช่น ควรจะปลูกพืชอะไรให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่สุด เพราะในแต่ละพื้นที่มีโรงงานที่ผลิตและส่งออกที่แตกต่างกันออกไป จึงขอให้มีการเน้นเรื่องการเกษตรแปรรูป
นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการพัฒนา cluster ท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง 2 เพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่มีความน่าสนใจ โดยกระทรวงวัฒนธรรมจะมีการบูรณาการร่วมกันใน 4 แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และห้วยขาแข้ง โดยจะเน้นในการพัฒนาการท่องเที่ยว 2 เรื่อง คือ การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ทั้ง 4 แห่งดังกล่าว รวมถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อม และให้จังหวัดดำเนินการผลักดันและติดตามอีทางหนึ่งด้วย
ส่วนการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำ นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะต้องมีการแก้ปัญหาน้ำอย่างเป็นระบบทั้งในบึงสีไฟและบึงบอระเพ็ด โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นเจ้าภาพในการจัด workshop ตามแผนที่ทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ได้มีการวางไว้ให้สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง ตลอดจนจัดเป็นแหล่งที่เที่ยวส่งเสริมอาชีพ และมีการจัดระเบียบการใช้พื้นที่ รวมทั้งเน้นย้ำให้กระทรวงมหาดไทยเข้าไปดำเนินการห้ามไม่ให้มีการรุกล้ำพื้นที่ทั้งในส่วนของบึงบอระเพ็ด และบึงสีไฟ
ทั้งนี้จากการที่ นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 (นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร และพิจิตร) และได้เดินทางไปยังโรงงานน้ำตาลทิพกำแพงเพชร นั้น เห็นว่าโรงงานน้ำตาลดังกล่าวเป็นโรงงานที่ไม่มีขยะจากวัตถุดิบที่นำมาผลิตน้ำตาล เพราะสามารถนำชานและกากอ้อยไปผลิตพลังงานต่อไปได้ จึงอยากให้มีการศึกษาเรื่องดังกล่าว อย่างไรก็ตามแม้จะมีโรงงานน้ำตาลและมีการปลูกอ้อยในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว แต่เกษตรกรชาวไร่อ้อยที่อยู่นอกการปลูกบริเวณของโรงงานฯ ไม่สามารถส่งกลับไปที่โรงงานน้ำตาลได้ เพราะมีปัญหาเรื่องคุณภาพความหวาน นายกรัฐมนตรี จึงมอบหมายให้นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าไปบริหารจัดการและดำเนินการที่จะพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่ดังกล่าว
ขณะเดียวกันจังหวัดกำแพงเพชรยังเป็นจังหวัดที่มีการปลูกมันสำปะหลังเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย และมีโรงงานอะยิโนะโมะโต๊ะ ที่ใช้มันสำปะหลังมากที่สุด แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้มีการซื้อมันสำปะหลังจากพื้นที่นี้ โดยมีการตรวจพบว่าปัจจุบันโรงงานแป้งมัน 8 โรง ที่จังหวัดกำแพงเพชรสู้ราคาที่จังหวัดนครราชสีมาไม่ได้และคุณภาพมันเป็นคนแบบ นายกรัฐมนตรี จึงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าไปดูแลในการที่จะบริหารจัดการอย่างไรต่อไป เพื่อยกระดับคุณภาพและสามารถส่งมันสำปะหลังให้กับโรงงานที่ต้องการใช้แป้งมันสำปะหลังได้
ในส่วนของเรื่องราคาผลไม้ตกต่ำ นั้น นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์หามาตรการที่จะช่วยเหลือ และเร่งรัดให้คณะกรรมการ OTOP โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จัดกิจกรรม OTOP เพื่อช่วยเหลือกิจการค้าขายผลไม้โดยเร็ว ซึ่งการจัดกิจกรรม OTOP ครั้งนี้ เน้นเทศกาลอาหารและผลไม้สดจากทุกจังหวัด โดยนายกรัฐมนตรี ย้ำว่าต้องการเห็นการนำอาหาร เครื่องดื่ม และผลไม้สดมาจาก 77 จังหวัด โดยไม่ซ้ำกัน รวมทั้งต้องการให้มีการรับการสั่งซื้อผลไม้ล่วงหน้า และให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งผลไม้ไปยังประชาชนเพื่อระบายผลไม้ให้กับประชาชนซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
เวลา 08.15 น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมด้วยครม.บางส่วน เข้ากราบนมัสการพระพุทธวชิรปราการ พระพุทธรูปประจำโบสถ์วัดคูยาง และกราบนมัสการพระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร วัดคูยาง เพื่อขอพรก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 10 ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร โดยพระธรรมภาณพิลาส กล่าวว่า เห็นนายกฯทำงานแล้วเหนื่อยแทน ในฐานะตัวแทนคระสงฆ์ รู้สึกดีใจที่นายกฯ นำครม. มาประชุม ครม.สัญจรที่จ.กำแพงเพชร สำหรับตัวนายกฯดังอยู่แล้วก็ขอให้ดังอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พร้อมขอให้นายกฯและรัฐมนตรี ผู้ที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาเรื่องต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อคน จ.กำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียงและขอให้สุขกาย สุขใจ มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรง สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตลอดไป โอกาสนี้พระธรรมภาณพิลาส ได้มอบพระสมเด็จนางพญา จากกรุวัดคูยาง และพระพุทธรูปพระพุทธวชิรปราการจำลอง แก่นายกฯ
นายภักดีหาญส์ กล่าวว่า ที่ประชุมครม.รับทราบการจัดทำรายงานผลการแสดงการดำเนินงานของคณะรัฐมนตรีตามแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ ปีที่ 2 ที่จะครบรอบการทำงานในวันที่ 23 ส.ค.นี้ โดยคณะกรรมการที่มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีฝ่ายเลขานุการ ประกอบด้วย สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการครม.สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้จัดประชุมหน่วยงาน เพื่อกำหนดเจ้าภาพหลัก ทำหน้าที่บูรณาการข้อมูล และชี้แจงแนวทางการจัดทำข้อมูลและส่งข้อมูลเพื่อจัดทำรายงานไปแล้ว
“การรวบรวมข้อมูลเรื่องนี้มีหลายหน่วยงานที่จะเป็นเจ้าภาพในแต่ละเรื่อง ดังนั้นฝ่ายเลขานุการฯ จึงกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องส่งรายงานผลงานภายในวันที่ 12 ก.ค. นี้ หากส่งรายงานแล้ว แต่บางกระทรวงต้องการนำข้อมูลไปบูรณาการเพิ่มเติม ก็จะต่อไปจะขยายวันส่งรายงาน วันที่สุดท้ายคือ 24 ก.ค.นี้ เพื่อให้ฝ่ายเลขานุการสรุปรายละเอียดผลการดำเนินงานของรัฐบาลและเสนอให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป”
กำลังโหลดความคิดเห็น