xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

เลียนแบบสวรรค์มัลดีฟส์Ž ส่อซ้ำรอยไนท์ซาฟารีเชียงใหม่Ž

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-กลับมาจากภารกิจเดินทางเยือน เกาะสวรรค์มัลดีฟส์ ไม่ทันข้ามวัน นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็พรรณาความดีเลิศของเกาสวรรค์ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ฟัง ให้เห็นภาพว่าเกาะมัลดีฟส์ ดีอย่างนั้นอย่างนี้

จับใจความได้ว่าเกาะสวรรค์นี้ มีการดูดทรายมาใช้ถมเพื่อพยุงในการพัฒนาเกาะ เหมือนใครบางคนคิดนโยบายช่วงเลือกตั้งให้พรรคเพื่อไทย จะถมพื้นที่บริเวณอ่าวไทย!

กลับมาที่ประชุมครม. นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี เสริมนายกฯว่า ประเทศไทยสามารถทำระบบการนำทรายมาถมเกาะได้ ถ้าไม่มีใครออกมาคัดค้าน เขายกตัวแอย่าง เกาะกูด จ.ตราด ก็เหมือนมัลดีฟส์ ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ 50,000-400,000 คน เพราะมีทั้งสนามบินบนเกาะ แม้จะมีขนาดเล็ก และที่ดินส่วนใหญ่ก็เป็นของภาคเอกชนที่เข้ามาจับจอง

"นอกจากนี้ยังมีเกาะช้าง ที่รัฐบาลมีคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) ซึ่งถูกตั้งขึ้นในรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โดยเกาะช้างมีเกาะล้อมรอบเชื่อมต่อได้อีก 40-50 เกาะ ซึ่งบางเกาะก็สวยงามหรู แต่การเดินทางลำบาก"

ส่วน นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ รมว.คมนาคม ออกมาหนุนเช่นกัน แต่อ้างว่า กระทรวงคมนาคมเคยสำรวจเส้นทางคมนาคมรอบเกาะช้างแล้ว แต่ยังติดขัดเรื่องของผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)

ถึงตรงนี้ นายกฯยิ่งลักษณ์ เลยมอบหมายให้ผู้ที่อ้างว่าตัวเองมีความรู้เรื่องนี้ อย่างนายปลอดประสพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ไปร่วมกันพิจารณาในการหาแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ

นายกฯยิ่งลักษณ์ ยังบอกด้วยว่า แหล่งท่องเที่ยวที่จะเกิดขึ้น อยากให้ดึงนักท่องเที่ยวที่เข้าท่องเที่ยวอย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือแบบลองสเตย์ โดยจะต้องพัฒนาพื้นที่และเส้นทางคมนาคมรองรับ ซึ่งถ้าเป็นเกาะ ก็ขอให้คำนึงถึงว่าให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยเรือได้สะดวก ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้รัฐบาลเป็นผู้บริหารจัดการเอง แต่ถ้าเอกชนจะเข้ามาร่วมด้วย เราก็ยินดี ทั้งนี้ ทางมัลดีฟส์พร้อมจะส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมในการดำเนินการของไทยด้วย

มติครม.เลยเป็นว่า สั่งเลียนแบบ..'มัลดีฟส์'กันเต็มที่เรื่องงบประมาณไปว่ากันที่หลัง!!!

คาดว่าจะเป็นอีก 1 โครงการเมกะโปรเจ็กต์ ของรัฐบาลนี้

ก่อนหน้านั้น นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ก็ออกมาชูมือเห็นด้วย

เขาบอกว่า ว่า ประเทศมัลดีฟส์เป็นหมู่เกาะที่มีทะเลใส น้ำสวย และปะการังที่สวยงาม จึงสามารถงดึงดดูดให้เกาะดังกล่าวเป็นสวรรค์ของคนที่ชื่นชอบทะเล

ขณะที่ประเทศไทยก็มีหมู่เกาะหลายแห่งที่มีธรรมชาติที่งดงามเช่นกัน แต่แตกต่างกันที่มัลดีฟส์เน้นเรื่องความสะอาดและการรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

ทางกระทรวงฯจะนำแนวคิดของนายกรัฐมนตรีที่ให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางทะเล ไปบูรณาการเรื่องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในลักษณะของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ซึ่งมีหลายหมู่เกาะที่ดำเนินการแล้ว เช่น หมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีเกาะพะลวยที่ได้ชื่อว่าเป็นกรีนไอส์แลนด์และเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ อีกทั้งหมู่เกาะช้าง จ.ตราด ตนจะนำแนวคิดของนายกฯ ไปประสานกับจังหวัดต่างๆที่มีเกาะอยู่ในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน

แถม นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ยังบอกว่า แนวคิดปรับปรุงเกาะในประเทศไทยให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวระดับสูงอย่างแท้จริง จะจัดเป็นโซนเฉพาะ โดยทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน รวมถึงประชาชนในเกาะต้องทำความเข้าใจว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยยกฐานะ และทำให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น

จึงจำต้องจัดทำระบบจัดการและระเบียบให้ดี ขยะต้องไม่มี ระบบน้ำจืดต้องตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ ตนเชื่อว่าประเทศไทยจะมีหมู่เกาะที่ดีกว่ามัลดีฟส์หรืออย่างน้อยก็เหมือนมัลดีฟส์

อย่างในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.พัทลุง มีเกาะจำนวนมาก เราควรจะทำเกาะให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมในฐานะกำกับดูแลพื้นที่ภาคใต้ จะทำโรดโชว์นำผู้เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัดไปดูงาน เพื่อนำกลับไปพัฒนาหมู่เกาะของเรา เชื่อว่าประเทศไทยทำได้และทำได้ดีด้วย

ดูตามเนื้อผ้าแล้ว งานนี้ไม่พ้นกระทรวงท่องเที่ยวละกีฬา กับ คณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) คงเป็นเจ้าภาพงานนี้ แต่แปลกที่นายกฯ ไม่มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าของ อุทยานแห่งชาติ ที่ส่วนใหญ่รวมไปถึงเกาะแก่งในประเทศไทยมาร่วมกันพิจารณาในการหาแหล่งท่องเที่ยวครั้งนี้เคย

แม่งาน! ก็ไม่น่าพ้น ปลอดประสพ สุรัสวดี พญาวรนุช!!!

ย้อนกลับไปในอดีต ปี 2545 สมัยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากบินกลับจากซาฟารีสิงคโปร์ ก็มีความคิดสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่เลียนแบบสิงคโปร์ เขาบอกว่าอยากมีไนท์ซาฟารีที่เชียงใหม่ ทั้งผู้ว่าฯ นายกฯอบจ. สมัยนั้นก็เด้งรับสนองนโยบายไนท์ซาฟารีปัจจุบัน

มีอธิบดีกรมป่าไม้เป็นเจ้าภาพใหญ่ ตอนนั้นชื่อ ปลอดประสพ สุรัสวดี พอดี

ใช้งบประมาณก่อสร้างตอนนั้น ราว ๆ 2,000 ล้านบาทหรือมากกว่านั้น

ต่อมาก็มีติ ครม. 16 ก.พ. 2548 มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดตั้งสวนสัตว์กลางคืน และต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็นคณะกรรมการวางแผนวางแผนและดำเนินการเกี่ยวกับการจัดตั้งสวนสัตว์กลางคืน หรือ สสค. มีนายปลอดประสพ เป็นประธาน ต่อมาถึงปัจจุบันองค์กรนี้ก็ถึงคราวล่มสลาย สัตว์ตายบ้าง คนในพื้นที่บ้างก็บอกว่ารายได้หดหายไม่มีใครไปเที่ยว องค์กรนี้ไม่มีตัวเลขรายงานหนี้สิน หรือรายได่แน่ชัด กพท.สมัยต่อๆก็ยกมาอยู่ในกำกับจนล่าสุด ถูกโยกมาอยู่ในกำกับของ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน)เมื่อเร็วๆนี้

แม้ล่าสุดก็ยังไม่สามารถแจ้งทรัพย์สินของตัวเองได้! เลยไม่รู้ว่า ไนท์ซาฟารีเจ๊งจริงๆ หรือไม่

มีเพียงรายงานล่าสุดของปี 2554 ที่ระบุว่า ปี 2554 ใช้งบประมาณจำนวน 211 ล้านบาทเศษ ส่วนปี 2555-2556 ใช้งบประมาณ 201 ล้านบาทเศษ ขณะที่ก่อนจะโอนให้สำนักงานพัฒนาพิงคนคร ของบประมาณปี 2557-2560 ผ่าน อพท.ไปจำนวน 150 ล้านบาท

กลับมาที่นโยบายเลียนแบบ..'มัลดีฟส์' ประเทศไทยมีเกาะอยู่แล้ว แต่ถ้าจะเลีบยนแบบเกาะสวรรค์ ให้มีการดูดทรายมาใช้ถมเพื่อพยุงในการพัฒนาเกาะ ตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดเอาไว้ หากจะให้ถ่มทราย ให้มีเกาะล้อมรอบเชื่อมต่อได้อีก 40-50 เกาะ คงมีคนออกมาค้านแน่!



กำลังโหลดความคิดเห็น