สภาฯ ปิดสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณแผ่นดินไปแล้ว ที่คาดการณ์กันว่า รัฐบาลจะเดินให้สุดซอย หรือเอาให้เต็มที่ไปเลย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับประเทศให้ได้ภายในสิ้นปี 2556 นี้ ต้องเลื่อนออกไป พิจารณากันในเดือนสิงหาคม คืออีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งก็จะยังทันเวลา
ความจริงไม่เคยมีใครห้าม พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย จะกลับวันนี้พรุ่งนี้ก็กลับได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคนไทย แต่ต้องกลับมาติดคุก และจะต้องถูกดำเนินคดีที่ค้างศาลอยู่อีกหลายคดี (อย่าได้แอคอาร์ตไป)
ทำไมไม่ไปให้ทะลุหรือสุดซอย?
ความพยายามที่จะไปให้ทะลุไปให้สุดซอย เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของ พ.ต.ท.ทักษิณตลอดเวลา ติดที่สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาอ่านว่า ไม่เอื้ออำนวยให้เดินต่อ เพราะขณะนี้ความรู้สึกของประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จับความ จับกระแสได้ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ไปแสดงปาฐกถาที่มองโกเลีย การแจ้งความดำเนินคดี ชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
การออกมาสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การออกมารับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ของคนที่ยอมรับว่าเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง การดูถูกดูแคลนประชาชนว่าเป็นขยะของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี การทำไม่รู้ไม่ชี้ของนายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ต่อกรณีที่ผู้ตรวจการรัฐสภาให้นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ ชี้แจงกรณีคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคแพงโดยที่รัฐบาลหุ่นยิ่งลักษณ์ไม่คิดจะแก้ไข นอกจากคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญและผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือปรองดองช่วย พ.ต.ท.ทักษิณผู้เป็นพี่ชาย และตอกย้ำด้วยศาลปกครองพิพากษาให้คืนตำแหน่งให้ นายถวิล เปลี่ยนสี
การเปิดโปงโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริต และสร้างความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2.6 แสนล้านบาท ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มความรู้สึกรับไม่ได้กับรัฐบาลหุ่นยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น
รอวันปะทุ รอวันแตกหักเท่านั้น
ถ้าหากรัฐบาลเติมฟืนเติมไฟให้สักนิดหน่อยก็จะปะทุขึ้นแน่นอน แทนที่จะไปให้ทะลุซอยเอากันให้สุดๆ รัฐบาลจึงต้องย่ำเท้าอยู่กับที่รอจังหวะ รอโอกาส
รัฐบาลจะจัดการอย่างไรกับการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ?
กลยุทธ์ของรัฐบาลก็คือ ใช้ความหน้าด้าน ทำเอ๋อไปเรื่อยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจ ไม่มีบทลงโทษ ไม่เหมือนศาลสถิตยุติธรรม ไม่เหมือนศาลปกครอง ไม่เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ
งั้นคดีที่ศาลปกครองให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี รัฐบาลก็ต้องคืนซิ?
ใช่ คืนให้แน่นอน แต่ต้องขออุทธรณ์ก่อน ถ้าหากอุทธรณ์ออกมาเร็วก็ต้องหน้าด้านไปก่อน เอ๋อไปก่อนจนกว่านายถวิล เปลี่ยนศรี จะเกษียณราชการซึ่งก็เชื่อว่าจะสามารถประวิงเวลาไปให้ได้ไปให้ถึง เพราะเรื่องของนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องตายของนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก็เตะออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงฯ เพื่อให้นายตำรวจที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดมานั่งแทน เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดจะได้ว่าง จะได้ให้พี่ชายอดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งก็ยังทำได้ จะประวิงเวลาเพื่อให้นายถวิล เปลี่ยนศรีเกษียณเสียก่อนทำไมจะทำไม่ได้
เรื่องอย่างนี้เพียงอาศัยความหน้าด้านเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยเท่านั้นเอง
เรื่องการรับจำนำข้าวที่ว่าขาดทุน 2 แสนกว่าล้านบาท และยังจะขาดทุนต่อไปอีก ความเสียหายจะปรากฏขึ้นอีก นั่นก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนยังอดทนได้อยู่ เช่นเดียวกับเงิน 3.5 แสนล้านบาทที่ขอออกพระราชกำหนดเอาเงินมาแก้ปัญหาน้ำท่วมจะต้องใช้เงิน จะต้องกู้ให้เสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ก็เพียงแต่ออกแรงเร่งกันหน่อย จะได้ใช้งบ จะได้ใช้เงิน และจะได้อิ่มหมีพีมัน
รอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสมัยประชุมสภาฯ ค่อยเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาก็ยังไม่สาย
เพียงแต่คดีหมิ่นประมาทที่นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ ให้ทนายไปแจ้งความเอาไว้ และตำรวจเรียก ชัย ราชวัตร ไปสอบสวนในวันที่ 5 มิถุนายนที่จะถึงนี้ หากตำรวจสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ อัยการพิจารณาแล้วเห็นสมควรฟ้องก็สนุกอีก
ชัย ราชวัตร เพียงเขียนเอาไว้ว่า โปรดทราบ กะหรี่เพียงเร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเร่ขายชาติ
เวทีของศาลเป็นเวทีหาความจริง หาความถูกต้อง เวทีศาลไม่มีจ่าประสิทธิ์ ไม่มีองครักษ์พิทักษ์ใคร มีแต่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยที่จะต้องหาความจริงกันว่า ข้อเขียนดังกล่าวของ ชัย ราชวัตร หมิ่นประมาทใครหรือเปล่า ใครเป็นกะหรี่ ใครไม่เป็นกะหรี่ ใครขายชาติ ใครไม่ขายชาติ ก็ต้องพิสูจน์กันในศาลละครับ
นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ จะทนอยู่ถึงวันขึ้นศาลหรือเปล่า หรือจะมอบอำนาจให้ใครไปแทน
ความจริงไม่เคยมีใครห้าม พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย จะกลับวันนี้พรุ่งนี้ก็กลับได้อยู่แล้ว เพราะเป็นคนไทย แต่ต้องกลับมาติดคุก และจะต้องถูกดำเนินคดีที่ค้างศาลอยู่อีกหลายคดี (อย่าได้แอคอาร์ตไป)
ทำไมไม่ไปให้ทะลุหรือสุดซอย?
ความพยายามที่จะไปให้ทะลุไปให้สุดซอย เป็นความคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ และบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของ พ.ต.ท.ทักษิณตลอดเวลา ติดที่สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาอ่านว่า ไม่เอื้ออำนวยให้เดินต่อ เพราะขณะนี้ความรู้สึกของประชาชนที่ต่อต้านระบอบทักษิณขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จับความ จับกระแสได้ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ไปแสดงปาฐกถาที่มองโกเลีย การแจ้งความดำเนินคดี ชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
การออกมาสั่งการของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การออกมารับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ของคนที่ยอมรับว่าเป็นขี้ข้า พ.ต.ท.ทักษิณอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง การดูถูกดูแคลนประชาชนว่าเป็นขยะของ นายปลอดประสพ สุรัสวดี การทำไม่รู้ไม่ชี้ของนายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ต่อกรณีที่ผู้ตรวจการรัฐสภาให้นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ ชี้แจงกรณีคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้าวของเครื่องอุปโภคบริโภคแพงโดยที่รัฐบาลหุ่นยิ่งลักษณ์ไม่คิดจะแก้ไข นอกจากคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญและผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือปรองดองช่วย พ.ต.ท.ทักษิณผู้เป็นพี่ชาย และตอกย้ำด้วยศาลปกครองพิพากษาให้คืนตำแหน่งให้ นายถวิล เปลี่ยนสี
การเปิดโปงโครงการรับจำนำข้าวที่มีการทุจริต และสร้างความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2.6 แสนล้านบาท ล้วนแล้วแต่เป็นการเพิ่มความรู้สึกรับไม่ได้กับรัฐบาลหุ่นยิ่งลักษณ์เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้น
รอวันปะทุ รอวันแตกหักเท่านั้น
ถ้าหากรัฐบาลเติมฟืนเติมไฟให้สักนิดหน่อยก็จะปะทุขึ้นแน่นอน แทนที่จะไปให้ทะลุซอยเอากันให้สุดๆ รัฐบาลจึงต้องย่ำเท้าอยู่กับที่รอจังหวะ รอโอกาส
รัฐบาลจะจัดการอย่างไรกับการที่ผู้ตรวจการแผ่นดินให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงกรณีคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณ?
กลยุทธ์ของรัฐบาลก็คือ ใช้ความหน้าด้าน ทำเอ๋อไปเรื่อยๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจ ไม่มีบทลงโทษ ไม่เหมือนศาลสถิตยุติธรรม ไม่เหมือนศาลปกครอง ไม่เหมือนศาลรัฐธรรมนูญ
งั้นคดีที่ศาลปกครองให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงให้กับนายถวิล เปลี่ยนศรี รัฐบาลก็ต้องคืนซิ?
ใช่ คืนให้แน่นอน แต่ต้องขออุทธรณ์ก่อน ถ้าหากอุทธรณ์ออกมาเร็วก็ต้องหน้าด้านไปก่อน เอ๋อไปก่อนจนกว่านายถวิล เปลี่ยนศรี จะเกษียณราชการซึ่งก็เชื่อว่าจะสามารถประวิงเวลาไปให้ได้ไปให้ถึง เพราะเรื่องของนายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องตายของนางสาวยิ่งลักษณ์ หรือเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
ก็เตะออกจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงฯ เพื่อให้นายตำรวจที่เป็นผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดมานั่งแทน เก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจสูงสุดจะได้ว่าง จะได้ให้พี่ชายอดีตภรรยาของ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งก็ยังทำได้ จะประวิงเวลาเพื่อให้นายถวิล เปลี่ยนศรีเกษียณเสียก่อนทำไมจะทำไม่ได้
เรื่องอย่างนี้เพียงอาศัยความหน้าด้านเพิ่มขึ้นมาอีกหน่อยเท่านั้นเอง
เรื่องการรับจำนำข้าวที่ว่าขาดทุน 2 แสนกว่าล้านบาท และยังจะขาดทุนต่อไปอีก ความเสียหายจะปรากฏขึ้นอีก นั่นก็ไม่เป็นไร เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนยังอดทนได้อยู่ เช่นเดียวกับเงิน 3.5 แสนล้านบาทที่ขอออกพระราชกำหนดเอาเงินมาแก้ปัญหาน้ำท่วมจะต้องใช้เงิน จะต้องกู้ให้เสร็จสิ้นในเดือนมิถุนายนนี้ ก็เพียงแต่ออกแรงเร่งกันหน่อย จะได้ใช้งบ จะได้ใช้เงิน และจะได้อิ่มหมีพีมัน
รอไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงสมัยประชุมสภาฯ ค่อยเอาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาก็ยังไม่สาย
เพียงแต่คดีหมิ่นประมาทที่นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ ให้ทนายไปแจ้งความเอาไว้ และตำรวจเรียก ชัย ราชวัตร ไปสอบสวนในวันที่ 5 มิถุนายนที่จะถึงนี้ หากตำรวจสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการ อัยการพิจารณาแล้วเห็นสมควรฟ้องก็สนุกอีก
ชัย ราชวัตร เพียงเขียนเอาไว้ว่า โปรดทราบ กะหรี่เพียงเร่ขายตัว แต่หญิงคนชั่วเร่ขายชาติ
เวทีของศาลเป็นเวทีหาความจริง หาความถูกต้อง เวทีศาลไม่มีจ่าประสิทธิ์ ไม่มีองครักษ์พิทักษ์ใคร มีแต่ทนายโจทก์ ทนายจำเลยที่จะต้องหาความจริงกันว่า ข้อเขียนดังกล่าวของ ชัย ราชวัตร หมิ่นประมาทใครหรือเปล่า ใครเป็นกะหรี่ ใครไม่เป็นกะหรี่ ใครขายชาติ ใครไม่ขายชาติ ก็ต้องพิสูจน์กันในศาลละครับ
นายกฯ หุ่นยิ่งลักษณ์ จะทนอยู่ถึงวันขึ้นศาลหรือเปล่า หรือจะมอบอำนาจให้ใครไปแทน