"เหลิม"เจรจาโจรใต้

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ได้เผยแพร่ข้อเสนอ 5 ข้อผ่านเว็บไซต์ยูทูปอีกครั้ง ก่อนที่จะมีการเจรจาอีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 ในวันที่ 13 มิถุนายนที่จะถึงนี้ ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ คือ

1. ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องยอมรับบทบาทของรัฐบาลมาเลเซียในฐานะ“ตัวกลาง”การสนทนา

2. การสนทนาที่จะเกิดขึ้น จะจำกัดวงเฉพาะตัวแทนชาวมลายู ซึ่งนำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็น ร่วมกับคณะผู้ปกครองชาวสยาม

3. จะต้องอนุญาตให้กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน องค์การความร่วมมือแห่งศาสนาอิสลาม (โอไอซี) และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ (เอ็นจีโอ) เข้าร่วมในการสนทนาด้วย

4. ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาอย่างไม่มีเงื่อนไข และจะต้องระงับการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย

5. จะต้องยอมรับสถานะของกลุ่มบิอาร์เอ็น ในฐานะองค์กร เพื่อการปลดปล่อยปัตตานี มิใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน

ยังคงเป็น 5 ข้อเสนอเดิม ที่เจรจากันมา 2 รอบแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า เหตุการณ์ความรุนแรงยังคงเดิม หรืออาจหนักหน่วงกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

แถมการแพร่ข่าวครั้งนี้ แกนนำบีอาร์เอ็น ยังปฏิเสธว่าความรุนแรงที่ยังคงอยู่นั้น ไม่ใช่ฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่น่าจะเป็นฝีมือของฝ่ายเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเสียมากกว่า

เมื่อแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ยังคงออกมาตอกย้ำเช่นนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ก็เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อ 30 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ได้ข้อสรุปว่า ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อนั้น รับไม่ได้สักข้อเดียว แต่การเจรจารอบต่อไปในวันที่ 13 มิถุนายนนั้น ยังไม่ยกเลิก และร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นหัวหน้าคณะไปเจรจาเอง เพื่อให้นานาประเทศ และองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) รับรู้ว่า 1.ไทยไม่นิยมความรุนแรง 2.ไทยเป็นรัฐเดี่ยว และ 3. เรารับพร้อมรับฟังข้อเสนอ แต่การที่กลุ่มบีอาร์เอ็นเสนอจะให้โอไอซี และ เอ็นจีโอมาเป็นคนกลาง รวมทั้งการแบ่งแยกดินแดน ตั้งรัฐปัตตานีนั้น เป็นไปไม่ได้

ร.ต.อ.เฉลิม บอกด้วยว่า เพราะนายกรัฐมนตรีมอบอำนาจเต็มให้ดูแลในเรื่องนี้ หากการเจรจารอบนี้ ไม่มีความคืบหน้า ก็จะหาโอกาสคุยกับ ฮัสซัน ตอยิบ แบบตัวต่อตัว หากมีความผิดพลาด หรือไม่มีอะไรดีขึ้น จะแอ่นอกรับผิดชอบเอง

พูดก็พูดเถอะ ขนาดกลุ่มโจรใต้ เรียกตัวเองว่า "ตัวแทนชาวมลายู" และเรียกฝ่ายรัฐบาลว่า "คณะผู้ปกครองชาวสยาม" แถมยังกล่าวหาว่า ฝ่ายรัฐบาลไทยเป็นผู้ก่อเหตุความรุนแรง เท่ากับว่า การเจรจา 2 ครั้งที่ผ่านมานั้น ไม่มีความหมายอะไรในทางปฏิบัติเลย แล้วอย่างนี้ยังมีเหตุผลอะไร ที่จะเจรจากันอีกหรือ

ทำไมรัฐบาลยังยอมให้กลุ่มบีอาร์เอ็น ใช้เวทีเจรจาเพื่อเป็นบันไดในการยกระดับ สร้างความสำคัญให้กัลกลุ่มของตัวเอง สร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมโลก โดยที่รัฐบาลเสมือนตกเป็นเบี้ยล่าง และปัญหาในพื้นที่ก็ยังแก้ไม่ได้เหมือนเดิม

หรือว่าวงในมีกระแสข่าว "ปรับ-ปลด" ที่ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม ต้องออกแอกชั่น ขึงขังเช่นนี้ และคงต้องติดตามว่า หากผิดพลาดจะรับผิดชอบเองนั้น จะรับผิดชอบอย่างไร !