ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-จบจากละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายพุฒิภัทร ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ฟีเวอร์ในหมู่สาวน้อยสาวใหญ่กันอย่างเปรมปรีดิ์ ก็มาถึงละครทีเด็ดตอนที่ 4 ซึ่งใช้ชื่อว่า “คุณชายรัชชานนท์” และเชื่อว่า จะโด่งดังไม่แพ้คุณชายพุฒิภัทรเช่นกัน
เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ
หนึ่ง-ละครเรื่องนี้มีพี่อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจงเป็นผู้กำกับการแสดง เป็นพี่อ๊อฟพงษ์พัฒน์คนเดียวกับที่ประกาศบนเวทีนาฏราชครั้งที่ 1 ในปี 2552ว่า “พ่อ เป็นเสาหลักของบ้านนะครับ บ้านของผมหลังใหญ่นะครับ ใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคนนะครับ ผมเกิดมาในบ้านหลังนี้ก็สวยงามมากนะ สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้ บรรพบุรุษของพ่อ เสียเหงื่อ เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลกกว่าจะได้บ้านหลังนี้ขึ้นมานะครับ จนมาถึงวันนี้ พ่อคนนี้ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน และก็ดูแล…ความสุขของทุก ๆ คนในบ้าน ถ้ามีใครซักคน โกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ และก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกกับคน ๆ นั้นว่า ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ ผมรักในหลวงครับ และผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน”
และสอง-เนื้อหาของละครตอนนี้ที่ตรงกับเหตุการณ์ทางการเมืองของไทยในห้วงเวลานี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และถ้าจะว่าไปแล้วเนื้อหาของละครก็คือการกู้ชาติให้รอดพ้นจากคนชั่วและคนเลว
แถมชื่อ “รัชชานนท์” ยังมีความหมายว่า “ยินดีในความเป็นพระราชา” อีกต่างหาก
ไม่รู้ว่า งานนี้ช่อง 3 ของตระกูลมาลีนนท์ที่เพิ่งเผชิญกับเหตุการณ์ร้อนอย่าง “ละครเหนือเมฆ” ซึ่งได้รับคำสั่งให้จบลงอย่างดื้อๆ จนผู้คนก่นด่ากันทั้งบ้านทั้งเมืองจะเต้นเป็นเจ้าเข้าอีกหรือไม่ที่อยู่ๆ ประมาณว่า คุณชายรัชชานนท์เดินไปหยิบหน้ากาก V ซึ่งเป็นหน้ากากที่ใช้เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านระบบทักษิณมาใส่กระตุ้นจิตสำนึกคนไทยอย่างไรอย่างนั้น
ไปที่เรื่องดีๆ และกิจกรรมดีๆ กันบ้าง
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เล็กซ์ซัส กรุงเทพ จำกัด (พระราม9) นำโดย สุทธิกัญญา ไทยเพ็ชร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ได้จัดกิจกรรมดีๆ ต้อนรับเปิดเทอม ภายใต้ชื่อ “Furby Cake Baking and Decorating Workshop” เพื่อเปิดโอกาสให้น้องๆ เยาวชนจากครอบครัวเลกซัสคลับ มาใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ร่วมกับผู้ปกครอง และที่สำคัญคือการได้มาเพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่กับการเรียนรู้ทักษะภาษาอังกฤษพร้อมๆ กับการใช้จินตนาการผ่านการดีไอวายเค้กเฟอร์บี้ในสไตล์ของตนเองกับเชฟ ฐาติกานต์ ตัณฑจินนะ จากสถาบัน “เลอ กอร์ดอง เบลอ” และคุณครูภากร เสนีวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งได้รับการตอบรับจากเด็กๆ เป็นอย่างดี โดยพร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมกันเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะและความสนุกสนาน
ตามต่อด้วย เฟดเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส ร่วมกับ เซฟ คิดส์ ประเทศไทย ยกระดับพันธกิจในการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยของเด็กผู้ใช้ทางเท้า โดยการจัดนิทรรศการ ลอง ชอร์ต วอล์ก (Long Short Walk) ครั้งแรกในประเทศไทย ขึ้นที่สวนสราญรมย์ กิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของสัปดาห์แห่งความปลอดภัยบนท้องถนนของสหประชาชาติ โดยมีเรื่อง ‘ความปลอดภัยของคนเดินทางเท้า’ เป็นแนวคิดหลัก
และปิดท้ายกับนายมานิต เตชอภิโชค รองปลัดกรุงเทพมหานคร ที่เป็นประธานแถลงข่าวการรณรงค์เนื่องในวันงดสูบบุหรี่โลก ปี 2556 กิจกรรม “เด็กอนุบาล กทม.รักษ์บ้านปลอดบุหรี่” เพื่อปลูกฝังทัศนคติที่ไม่ดีของการสูบบุหรี่แก่เด็กและรณรงค์ให้บ้านเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่ โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการศึกษา ผู้บริหารสำนักอนามัย ศาสตราจารย์คลินิค (พิเศษ) แพทย์หญิงมุกดา หวังวีรวงศ์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ผู้แทนมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ผู้อำนวยการศูนย์บริการสาธารณสุข พยาบาลอนามัยโรงเรียนอาสาสมัครสาธารณสุข ครูและนักเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ร่วมงาน ณ ห้องรัตนโกสินทร์ กทม.
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ...
คอลัมน์// หนังสือน่าอ่าน
เลี้ยงลูก 3 วัย สไตล์ SML
“ผมไม่เคยคิดว่าต้องเลี้ยงลูกให้วิเศษกว่าคนอื่น คิดแต่ว่าทำอย่างไรให้ลูกมีความรู้ มีทักษะในการประกอบอาชีพและดำรงตน เขาจะต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เขาจำต้องอยู่ได้อย่างมีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเหมาะสม ไม่ต้องมากมายเกินไป คือไปอยู่ที่ไหนก็อยู่ได้และอยู่ได้ดี ผมไม่ได้มีค่านิยมว่าลูกต้องเรียนเก่ง แต่ต้องมีความรู้ และรู้จริงเพราะเรียนเก่ง สอบเก่ง ไม่ได้หมายความว่าทำงานเก่ง ลูกผมไม่มีเกียรตินิยมเลยสักคน แต่เป็นคนรักเรียนและเรียนได้เรื่อยๆ”
นั่นคือบทเริ่มต้นของหนังสือ “เลี้ยงลูก 3 วัย สไตล์ SML” ฝีมือของ “ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์” อันเป็น “แรงดึงดูด” ที่ทำให้ “ลุงอ้วน” หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่าน เนื่องจากเห็นด้วยกับข้อเขียนข้างต้นทุกประการ
ที่เห็นด้วยก็เพราะในยุคนี้สมัยนี้มีคนคิดแต่จะเลี้ยงลูกให้วิเศษวิโส เลี้ยงลูกให้เก่งกว่าคนอื่นโดยไม่ได้คำนึงถึงความเป็นมนุษย์จนทำให้โลก ตลอดรวมถึงประเทศไทยวุ่นวายดังเช่นทุกวันนี้
คุณชัยวัฒน์ถือเป็นนักบริหารที่ผ่านงานมาหลากหลายอาชีพ ทั้งนักคอมพิวเตอร์ อาจารย์ นักการตลาด ก้าวสู่ตำแหน่งผู้บริหาร คร่ำหวอดในวงการธนาคารและการเงินมาอย่างยาวนาน จนได้รับยกย่องเป็นนักการธนาคารดีเด่นแห่งปี 2551 ขณะที่ปัจจุบันก็ทำงานอย่างแข็งขันให้กับหลายองค์กร อาทิ กรรมการ กรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด(มหาชน) รองประธานกรรมการ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด ประธานกรรมการ บริษัท โรงแรมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำกัด ฯลฯ
ทว่า ตลอดชีวิตการทำงานมีอาชีพหนึ่งที่เจ้าตัวบอกว่าไม่เคยเบื่อแถมมีความสุขมากๆ ที่ได้ทำ นั่นคืออาชีพ “คุณพ่อ”
ในหนังสือเล่มนี้ คุณชัยวัฒน์ได้บอกเล่าประสบการณ์การเลี้ยงลูกของตนเอง ผสานกับการเรียนรู้จากตำรามาสู่การปฏิบัติจริงกับลูกๆ ทุกคน เพื่อใช้เป็นทางลัดหรือเป็นกรอบในการเลี้ยงลูกทุกวัย ตั้งแต่วัย S หรือวัยแรกเกิดจนถึงช่วงประมาณ วัย M หรือในช่วงมัธยมฯ และวัย L หรือวัยเรียนจบและเริ่มทำงานได้อย่างน่าสนใจ
แนะนำให้คนที่มีครอบครัวและมีลูกหาหนังสือเล่มนี้มาอ่านกันครับ
ลุงอ้วน
managerweekend@yahoo.com