เวทีคาสบา ชี้จุดเปลี่ยนวงการทีวีไทย ดิจิตอลทีวีมาแรง ส่งปี57 มีช่องรายการร่วม 782 ช่องรวมในทุกแพลทฟอร์ม ดันเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีทะลุ 1 แสนล้านบาทใน 4 ปีข้างหน้า นักโฆษณาต้องทำงานหนักมากขึ้นสู้เทคโนโลยีเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลาย ส่วนเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมสิ้นปีลุ้นโฆษณา 1.2 หมื่นล้านบาท
วานนี้ (30 พ.ค.) สมาคมผู้ประกอบการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ คาสบา (CASBAA) ได้จัดงานสัมมนาขึ้น ในชื่องาน การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอล (Thailand in View : Changing the Digital Landscape) โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้หลายราย ในหลายหัวข้อ
**ทีวีดิจิตอลศึกใหญ่แข่งดุ เม็ดเงินโฆษณาพุ่ง**
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวในหัวข้อ The Neighborhood is Getting Crowded - Digital
Terrestrial Licensing and its effects on the CabSat Ecosystem ว่า จากการเปลี่ยนแปลงของทีวีดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อ
ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ยอดขายของกลุ่มทีวีตกลงถึง 30% ซึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจและไม่แน่ใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
จึงมีการชะลอการซื้อโทรทัศน์ออกไปก่อน เพราะกลัวว่าถ้าซื้อมาแล้วจะรับสัญญาณระบบดิจิตอลได้หรือไม่
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การเข้าสู่ทีวีดิจิตอลของไทย จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของแต่ละช่อง และสิ่งที่ได้มาในที่สุดคือ
เรื่องของคุณภาพรายการและการแพร่ภาพ ดังนั้นการเตรียมตัวของเจ้าของช่องรายการทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม คือ คอนเท้นท์ที่มีความเข้มข้นของเนื้อหา และความหลากหลายของรายการอันจะนำไปสู่การจัด
ช่วงไพร์มไทม์ของแต่ละช่องที่สามารถทำได้แตกต่างกันไป เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงไพร์มไทม์ของทางฟรีทีวี
สอดคล้องกับคำกล่าวของ นายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) ที่กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาในการดูโทรทัศน์วันละ 5 ช.ม. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 3 ช.ม. โดยกว่า 2-3 ช.ม.นั้นจะ
เป็นการดูรายการละครช่วงไพร์มไทม์จากทางฟรีทีวี รวมถึงละครจากเคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียมในช่วงเวลาไพร์มไทม์ของช่องรายการนั้นๆ ดังนั้นจึงเชื่อว่า เม็ดเงินโฆษณาบนแพลทฟอร์มเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจะ
แปรผันตามเรตติ้งรายการ และการเข้าถึงผู้ชมที่มากขึ้น
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการมีทีวีดิจิตอลเข้ามาในอุตสาหกรรมทีวี มองว่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีจาก 60,000-70,000 ล้านบาท จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ในฟรีทีวีจะถูกกระจายไปสู่แพลทฟอร์มอื่นๆ และยิ่งเข้าสู่
ประคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี มั่นใจว่า งบโฆษณาในสื่อทีวีจะเพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาทได้แน่นอน
***เทคโนโลยีเปลี่ยน โฆษณาต้องปรับตัว***
นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย และประธานบริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส กล่าวเสริมในหัวข้อ It’s about the Money, Money, Money
- Advertising on CabSat TV in Thailand ว่า ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาบนสื่อทีวีที่คาดว่าจะสูงถึง100,000 ล้านบาทนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก และจะเห็นได้ภายใน 4ปีข้าง
หน้า หากงบโฆษณาในสื่อทีวีเติบโตปีละ 10% ขึ้นไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในสื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเองไม่มีการแย่งมาจากสื่ออื่น
โดยต้องขึ้นอยู่กับการเข้าถึงผู้บริโภคและรูปแบบรายการที่มีคุณภาพด้วย ส่วนเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีจะยังคงสัดส่วนที่ 54% ของงบโฆษณารวม
นายสินธุ์ เภตรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ มีเดียลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทนีลเส็น ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเข้าถึงการรับชมได้หลายช่องทางและหลายแพลทฟอร์ม ใน
ส่วนของธุรกิจโฆษณาถือเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาก เพราะต้องคิดหาช่องทางการโฆษณาให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ดูมากหรือเจาะจงจนเกินไป และให้ความรู้สึกของโฆษณาที่เข้าถึงมิติของ
อารมณ์ผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น
***นีลเส็นชี้ปีนี้โฆษณาบนเคเบิลทีวีทะลุ 1.2 หมื่นล.***
นอกจากนี้นายสินธุ์ ยังได้กล่าวในหัวข้อ Thai Pay TV Market Overview ว่า ปัจจุบันจำนวนครัวเรือนไทยทั่วประเทศอยู่ที่ 22 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็น 64.6 ล้านคน โดยสื่อโทรทัศน์
ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก ถือเป็นสื่อหลักที่ผู้ชมไทยเข้าถึงและรับชม แบ่งเป็นกรุงเทพฯ จำนวน 9.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนประชากร และพื้นที่ในเขตเมือง จำนวน 14.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน
22.1%ของจำนวนประชากร และพื้นที่ชนบท จำนวน 40.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 62.9% ของจำนวนประชากร
โดยในปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มการรับชมผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมเข้าถึงครัวเรือนไทยทั่วประเทศกว่า 64% แบ่งเป็นทรูวิชั่นส์ 2 ล้านราย และเคเบิลท้องถิ่น 2.4 ล้านราย และจานรับสัญญาณดาวเทียม 7.5ล้านราย
และยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าผู้ชมเลือกดูช่องฟรีทีวีอนาล็อกเป็นสัดส่วนหลักในแพลตฟอร์มทรูวิชั่นส์ แบ่งเป็นการดูฟรีทีวี 57.3% ดูทรูวิชั่นส์ 42.7% ส่วนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีท้องถิ่น ดูฟรีทีวี 57.4% ดู
ช่องเคเบิลทีวี 42.6%
ขณะที่แพลตฟอร์มจานดาวเทียม ดูฟรีทีวี 64.6% ดูทีวีดาวเทียม 25.4% และยังพบอีกว่าผู้ชมไทยมีอัตราการรับชมทีวีผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ประกอบด้วย 1.ทรูวิชั่นส์ 149 นาที/วัน 2.ช่องเคเบิลทีวีท้องถิ่น 139
นาที/วัน และ3.ทีวีดาวเทียม105 นาที/วัน ส่งผลให้การใช้งบโฆษณาผ่านฟรีทีวีในปีนี้มีโอกาสเติบโตที่ 14.4% หรือมีมูลค่า 77,000ล้านบาท เช่นเดียวกับการมใช้งบโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมปีนี้ที่คาด
เติบโต 26.6% หรือมูลค่า 12,000 ล้านบาท
นายสินธุ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในปี 2557 เชื่อว่าประเทศไทยจะมีจำนวนช่องรายการโทรทัศน์ในทุกแพลทฟอร์มรวมกันไม่ต่ำกว่า 782 ช่อง เช่น 1.กลุ่มช่องรายการจากทีวีดิจิตอลและฟรีทีวีภาคพื้นดินรวม 30 ช่อง 2.
Terrestrial Business TV รวม 30 ช่อง 3. Terrestrial Service TV 18 ช่อง และ4.ทีวีดาวเทียมรวม 388 ช่อง เป็นต้น
วานนี้ (30 พ.ค.) สมาคมผู้ประกอบการโทรทัศน์แบบบอกรับเป็นสมาชิก และโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแห่งภูมิภาคเอเชีย หรือ คาสบา (CASBAA) ได้จัดงานสัมมนาขึ้น ในชื่องาน การเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิตอล (Thailand in View : Changing the Digital Landscape) โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้หลายราย ในหลายหัวข้อ
**ทีวีดิจิตอลศึกใหญ่แข่งดุ เม็ดเงินโฆษณาพุ่ง**
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวในหัวข้อ The Neighborhood is Getting Crowded - Digital
Terrestrial Licensing and its effects on the CabSat Ecosystem ว่า จากการเปลี่ยนแปลงของทีวีดิจิตอลที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อ
ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะในส่วนของแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้า ทำให้ไตรมาสหนึ่งที่ผ่านมา ยอดขายของกลุ่มทีวีตกลงถึง 30% ซึ่งเกิดจากความไม่เข้าใจและไม่แน่ใจของผู้บริโภคเกี่ยวกับทีวีดิจิตอลว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
จึงมีการชะลอการซื้อโทรทัศน์ออกไปก่อน เพราะกลัวว่าถ้าซื้อมาแล้วจะรับสัญญาณระบบดิจิตอลได้หรือไม่
ด้านนางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า การเข้าสู่ทีวีดิจิตอลของไทย จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นของแต่ละช่อง และสิ่งที่ได้มาในที่สุดคือ
เรื่องของคุณภาพรายการและการแพร่ภาพ ดังนั้นการเตรียมตัวของเจ้าของช่องรายการทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม คือ คอนเท้นท์ที่มีความเข้มข้นของเนื้อหา และความหลากหลายของรายการอันจะนำไปสู่การจัด
ช่วงไพร์มไทม์ของแต่ละช่องที่สามารถทำได้แตกต่างกันไป เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงไพร์มไทม์ของทางฟรีทีวี
สอดคล้องกับคำกล่าวของ นายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) ที่กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยใช้เวลาในการดูโทรทัศน์วันละ 5 ช.ม. เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 3 ช.ม. โดยกว่า 2-3 ช.ม.นั้นจะ
เป็นการดูรายการละครช่วงไพร์มไทม์จากทางฟรีทีวี รวมถึงละครจากเคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียมในช่วงเวลาไพร์มไทม์ของช่องรายการนั้นๆ ดังนั้นจึงเชื่อว่า เม็ดเงินโฆษณาบนแพลทฟอร์มเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจะ
แปรผันตามเรตติ้งรายการ และการเข้าถึงผู้ชมที่มากขึ้น
นายอดิศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการมีทีวีดิจิตอลเข้ามาในอุตสาหกรรมทีวี มองว่าเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีจาก 60,000-70,000 ล้านบาท จากเดิมที่กระจุกตัวอยู่ในฟรีทีวีจะถูกกระจายไปสู่แพลทฟอร์มอื่นๆ และยิ่งเข้าสู่
ประคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี มั่นใจว่า งบโฆษณาในสื่อทีวีจะเพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาทได้แน่นอน
***เทคโนโลยีเปลี่ยน โฆษณาต้องปรับตัว***
นางวรรณี รัตนพล นายกสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย และประธานบริหาร ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส กล่าวเสริมในหัวข้อ It’s about the Money, Money, Money
- Advertising on CabSat TV in Thailand ว่า ตัวเลขเม็ดเงินโฆษณาบนสื่อทีวีที่คาดว่าจะสูงถึง100,000 ล้านบาทนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก และจะเห็นได้ภายใน 4ปีข้าง
หน้า หากงบโฆษณาในสื่อทีวีเติบโตปีละ 10% ขึ้นไป แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจของประเทศไทยด้วย ขณะที่เม็ดเงินโฆษณาในสื่อเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจะเติบโตขึ้นด้วยตัวเองไม่มีการแย่งมาจากสื่ออื่น
โดยต้องขึ้นอยู่กับการเข้าถึงผู้บริโภคและรูปแบบรายการที่มีคุณภาพด้วย ส่วนเม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีจะยังคงสัดส่วนที่ 54% ของงบโฆษณารวม
นายสินธุ์ เภตรารัตน์ กรรมการผู้จัดการ มีเดียลูกค้าสัมพันธ์ บริษัทนีลเส็น ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจากเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคเข้าถึงการรับชมได้หลายช่องทางและหลายแพลทฟอร์ม ใน
ส่วนของธุรกิจโฆษณาถือเป็นช่วงเวลาที่ตื่นเต้นมาก เพราะต้องคิดหาช่องทางการโฆษณาให้เข้าถึงผู้บริโภคให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่ดูมากหรือเจาะจงจนเกินไป และให้ความรู้สึกของโฆษณาที่เข้าถึงมิติของ
อารมณ์ผู้ชมได้ดียิ่งขึ้น
***นีลเส็นชี้ปีนี้โฆษณาบนเคเบิลทีวีทะลุ 1.2 หมื่นล.***
นอกจากนี้นายสินธุ์ ยังได้กล่าวในหัวข้อ Thai Pay TV Market Overview ว่า ปัจจุบันจำนวนครัวเรือนไทยทั่วประเทศอยู่ที่ 22 ล้านครัวเรือน หรือคิดเป็น 64.6 ล้านคน โดยสื่อโทรทัศน์
ภาคพื้นดินระบบอนาล็อก ถือเป็นสื่อหลักที่ผู้ชมไทยเข้าถึงและรับชม แบ่งเป็นกรุงเทพฯ จำนวน 9.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 15% ของจำนวนประชากร และพื้นที่ในเขตเมือง จำนวน 14.2 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน
22.1%ของจำนวนประชากร และพื้นที่ชนบท จำนวน 40.7 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 62.9% ของจำนวนประชากร
โดยในปีที่ผ่านมาแพลตฟอร์มการรับชมผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมเข้าถึงครัวเรือนไทยทั่วประเทศกว่า 64% แบ่งเป็นทรูวิชั่นส์ 2 ล้านราย และเคเบิลท้องถิ่น 2.4 ล้านราย และจานรับสัญญาณดาวเทียม 7.5ล้านราย
และยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าผู้ชมเลือกดูช่องฟรีทีวีอนาล็อกเป็นสัดส่วนหลักในแพลตฟอร์มทรูวิชั่นส์ แบ่งเป็นการดูฟรีทีวี 57.3% ดูทรูวิชั่นส์ 42.7% ส่วนแพลตฟอร์มเคเบิลทีวีท้องถิ่น ดูฟรีทีวี 57.4% ดู
ช่องเคเบิลทีวี 42.6%
ขณะที่แพลตฟอร์มจานดาวเทียม ดูฟรีทีวี 64.6% ดูทีวีดาวเทียม 25.4% และยังพบอีกว่าผู้ชมไทยมีอัตราการรับชมทีวีผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ประกอบด้วย 1.ทรูวิชั่นส์ 149 นาที/วัน 2.ช่องเคเบิลทีวีท้องถิ่น 139
นาที/วัน และ3.ทีวีดาวเทียม105 นาที/วัน ส่งผลให้การใช้งบโฆษณาผ่านฟรีทีวีในปีนี้มีโอกาสเติบโตที่ 14.4% หรือมีมูลค่า 77,000ล้านบาท เช่นเดียวกับการมใช้งบโฆษณาผ่านเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมปีนี้ที่คาด
เติบโต 26.6% หรือมูลค่า 12,000 ล้านบาท
นายสินธุ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในปี 2557 เชื่อว่าประเทศไทยจะมีจำนวนช่องรายการโทรทัศน์ในทุกแพลทฟอร์มรวมกันไม่ต่ำกว่า 782 ช่อง เช่น 1.กลุ่มช่องรายการจากทีวีดิจิตอลและฟรีทีวีภาคพื้นดินรวม 30 ช่อง 2.
Terrestrial Business TV รวม 30 ช่อง 3. Terrestrial Service TV 18 ช่อง และ4.ทีวีดาวเทียมรวม 388 ช่อง เป็นต้น