ASTVผู้จัดการรายวัน-ศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง "เรืองไกร" กล่าวหาพรรคการเมือง วุฒิสภา ส่งส.ส. ส.ว. เป็นกมธ. แก้รัฐธรรมนูญ เข้าข่ายล้มการปกครอง ส่วนอีก 4 คำร้อง ระงับมาตรา 68 ยังไม่กำหนดกระบวนการพิจารณา ต้องรอผู้ถูกร้องชี้แจงก่อน ด้านคำร้องพันธมิตรฯ ส.ส.ปชป. รอเข้าพิจารณา แดง กวป. กดดัน ให้ยกคำร้องแก้มาตรา 68 ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นจะยุประชาชนให้แจ้งจับตุลาการทั้งคณะ ล่าสุด “เล็กบ้านดอน” สละเรือแล้ว
วานนี้ (29 พ.ค.) ศาลรัฐุธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวผลการประชุมว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่า การที่แต่ละพรรคการเมืองและวุฒิสภาส่ง ส.ส.และส.ว.รวม 36คน เข้าเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 68 และ มาตรา237 ตามสัดส่วน รวมถึงร่วมอภิปราย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง รับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตราดังกล่าว เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าการร่วมเป็นกรรมาธิการ ร่วมเป็นองค์ประชุมและใช้สิทธิอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้น ยังไม่ได้ มีการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงมูลกรณีว่าผู้ถูกร้องกระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงไม่เข้าลักษณะการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา68 วรรค 1 จึงมีคำสั่งไม่รับวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ใช้อาคารศาลรัฐธรรมนูญเดิมย่านพาหุรัด เป็นสถานที่ประชุมตามที่ตุลาการได้เคยตกลงไว้ว่าจะมาประชุมเดือนละครั้ง
ทั้งนี้ ในการประชุมไม่มีวาระการพิจารณาเรื่องการกำหนดกระบวนการวิธีพิจารณา 4 คำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา237 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอผู้ถูกร้อง คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ในคำร้องของนายวรินทร์ เทียมจรัส ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาการยื่นหนังสือชี้แจงในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุญาต ให้นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษและนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้ถูกร้องในคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมาภายในวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่ร้องขอว่าเพิ่งได้รับหนังสือแจ้งจากศาลเมื่อวันที่ 20 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม ในส่วนคำร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา237 และให้ยุบ6 พรรคการเมือง ที่เสนอชื่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะตุลาการ ยังอยู่ในชั้นการตรวจคำร้องของสำนักงาน คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมครั้งต่อไป
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าไปตื่นเต้น ฟันธงว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ตัดสินอะไร เมื่อมีคนมาร้องก็รับ เรื่องใหญ่จะต้องพิจารณา ไม่รับก็ไม่ได้ รับไว้เมื่อวานจะตัดสินวันนี้ไม่มีหรอก ตนฟันธง และเรื่องนี้สุดท้ายจบ จะดีต่อประเทศไทย ศาลท่านมีดุลยพินิจ มีความรู้ แต่ใครก็ตามถ้าไม่กดดันได้จะดี
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เพื่อติดตามผลการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา68 ที่บริเวณลานเสาธงหน้าศูนย์ราชการฯ 1 อาคารศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ ตลอดทั้งวันมีมวลชนเข้าร่วมชุมนุมไม่มากนัก โดยนายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป.พร้อมแกนนำกลุ่ม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญการยกคำร้องทั้งหมดที่ให้ตีความเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ทุกกรณี มิเช่นนั้นจะดำเนินการให้ประชาชนทั่วประเทศแจ้งความจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะในข้อหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการเคลื่อนไหวชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงการเดินสายประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านอำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั่วประเทศของ กวป. ไม่ปรากฏว่า มีนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมหาชนคนไทยหัวใจเดียวกัน ในฐานะประธานกวป. ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญ เข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วย
วานนี้ (29 พ.ค.) ศาลรัฐุธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวผลการประชุมว่า ที่ประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ว่า การที่แต่ละพรรคการเมืองและวุฒิสภาส่ง ส.ส.และส.ว.รวม 36คน เข้าเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 68 และ มาตรา237 ตามสัดส่วน รวมถึงร่วมอภิปราย หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง รับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 มาตราดังกล่าว เข้าข่ายการล้มล้างการปกครองหรือไม่ ไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าการร่วมเป็นกรรมาธิการ ร่วมเป็นองค์ประชุมและใช้สิทธิอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานั้น ยังไม่ได้ มีการกระทำที่แสดงให้เห็นถึงมูลกรณีว่าผู้ถูกร้องกระทำการอันเป็นการล้มล้างการปกครอง จึงไม่เข้าลักษณะการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนหรือต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา68 วรรค 1 จึงมีคำสั่งไม่รับวินิจฉัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมครั้งนี้ใช้อาคารศาลรัฐธรรมนูญเดิมย่านพาหุรัด เป็นสถานที่ประชุมตามที่ตุลาการได้เคยตกลงไว้ว่าจะมาประชุมเดือนละครั้ง
ทั้งนี้ ในการประชุมไม่มีวาระการพิจารณาเรื่องการกำหนดกระบวนการวิธีพิจารณา 4 คำร้องที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา237 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ เนื่องจากยังต้องรอผู้ถูกร้อง คือ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภา ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน ในคำร้องของนายวรินทร์ เทียมจรัส ซึ่งจะครบกำหนดระยะเวลาการยื่นหนังสือชี้แจงในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้อนุญาต ให้นายจิตติพจน์ วิริยะโรจน์ ส.ว.ศรีสะเกษและนายทวีศักดิ์ คิดบรรจง ส.ว.บุรีรัมย์ ผู้ถูกร้องในคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมาภายในวันที่ 13 มิ.ย. ตามที่ร้องขอว่าเพิ่งได้รับหนังสือแจ้งจากศาลเมื่อวันที่ 20 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม ในส่วนคำร้องของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และคำร้องของนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และ มาตรา237 และให้ยุบ6 พรรคการเมือง ที่เสนอชื่อในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะตุลาการ ยังอยู่ในชั้นการตรวจคำร้องของสำนักงาน คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุมครั้งต่อไป
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้อย่าไปตื่นเต้น ฟันธงว่าวันนี้ศาลรัฐธรรมนูญจะยังไม่ตัดสินอะไร เมื่อมีคนมาร้องก็รับ เรื่องใหญ่จะต้องพิจารณา ไม่รับก็ไม่ได้ รับไว้เมื่อวานจะตัดสินวันนี้ไม่มีหรอก ตนฟันธง และเรื่องนี้สุดท้ายจบ จะดีต่อประเทศไทย ศาลท่านมีดุลยพินิจ มีความรู้ แต่ใครก็ตามถ้าไม่กดดันได้จะดี
ส่วนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) เพื่อติดตามผลการพิจารณาวินิจฉัยคำร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา68 ที่บริเวณลานเสาธงหน้าศูนย์ราชการฯ 1 อาคารศาลรัฐธรรมนูญ ถ.แจ้งวัฒนะ ตลอดทั้งวันมีมวลชนเข้าร่วมชุมนุมไม่มากนัก โดยนายศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป.พร้อมแกนนำกลุ่ม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญการยกคำร้องทั้งหมดที่ให้ตีความเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ทุกกรณี มิเช่นนั้นจะดำเนินการให้ประชาชนทั่วประเทศแจ้งความจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะในข้อหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการเคลื่อนไหวชุมนุมครั้งนี้ รวมถึงการเดินสายประกาศอารยะขัดขืนต่อต้านอำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั่วประเทศของ กวป. ไม่ปรากฏว่า มีนายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือ เล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมหาชนคนไทยหัวใจเดียวกัน ในฐานะประธานกวป. ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญ เข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วย
