แตกแล้วจ้า! “เล็ก บ้านดอน” ประกาศขอยุติบทบาทม็อบแดง กวป. อ้างยุทธศาสตร์ต่างกัน ไม่ต้องการเด่นดัง ด้านการชุมนุมเป็นไปอย่างหงอยเหงา ตำรวจ 1 กองร้อยนั่งตบยุง แกนนำที่เหลือออกแถลงการณ์จี้ยกคำร้องตีความแก้ ม.68 ทุกกรณี อ้างเป็นอุปสรรคประเทศ
วันนี้ (29 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในนามกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อติดตามการพิจารณาคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งระงับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 237 ของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตลอดทั้งวันมีมวลชนเข้าร่วมชุมนุมไม่มากนัก แต่การชุมนุมก็เป็นไปอย่างสงบ โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยหันหลังให้กับอาคารศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อประกาศไม่ยอมรับอำนาจคตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนครบาล ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งกองร้อยปราบจลาจลจำนวน 1 กองร้อยเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัย
โดยนายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือศรรักษ์ มาลัยทอง โฆษก กวป.พร้อมแกนนำกลุ่ม ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญการยกคำร้องทั้งหมดที่ให้ตีความเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ทุกกรณี มิเช่นนั้นจะดำเนินการให้ประชาชนทั่วประเทศแจ้งความจับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะในข้อหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย หากว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาแล้ว ทำให้ทำให้เกิดผลต่อฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ มีผลผูกพันต่อองค์ทุกองค์กรไปในทิศทางที่เป็นอุปสรรคต่อการบริหารประเทศ
โดยกลุ่ม กวป.ขอเรียกร้องให้ประชาชนออกมาขับไล่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยความชอบธรรม โทษฐานล้มล้างการปกครองแผ่นดิน หากผลวินิจฉัยของตุลาการเป็นผลลบต่อฝ่ายบริหาร แต่หากมีการเลื่อนการวินิจฉัยออกไป ก็ถือว่าคณะตุลาการไม่มีความชอบธรรมในการวินิจฉัย จึงจะขอให้คณะตุลาการยุติบทบาททันที ทั้งนี้ ในเวลา 13.00 น.ของวันนี้ตนจะเดินทางไปที่ศาลอาญาเพื่อฟ้องดำเนินการเอาผิดต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ดำเนินการรับคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 โดยอ้างว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการรับคำร้อง
อย่างไรก็ตาม การชุมนุมครั้งนี้ไม่พบว่านายพงษ์พิสิษฐ์ คงเสนา หรือเล็ก บ้านดอน ผู้อำนวยการสถานีวิทยุมหาชนคนไทยหัวใจเดียวกัน ในฐานะประธาน กวป. ซึ่งเป็นแกนนำคนสำคัญเข้าร่วมเคลื่อนไหวด้วย โดยนายพงษ์พิสิษฐ์ให้สัมภาษณ์โดยกล่าวว่า ตนขอยุติบทบาทไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของ กวป.อีกต่อไป เนื่องจากตนอยากเคลื่อนไหวแบบเป็นเอกภาพ ไม่ต้องการความเด่นดัง ต้องการจุดยืนที่เป็นภาคประชาชนโดยแท้ เพื่อประชาชน ซึ่งแม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน แต่ยุทธศาสตร์ต่างกัน จึงขอยุติบทบาทดังกล่าว