ASTVผู้จัดการรายวัน - ธอส.ยกเลิกแคมเปญดอกเบี้ยบ้าน 0% นาน 6 เดือนเป็นการทั่วไปหวังสกัดการเก็งกำไรคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า ระบุให้เฉพาะลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศยจริงประสานโครงการที่ไว้ใจได้ตั้งเป้าปล่อยแค่ 3-4 พันล้าน ส่งผล2เดือนสินเชื่อชะลอตัวลงชัดเจน
แหล่งข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ยกเลิกแคมแปญสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ขอความร่วมมือสถาบันการเงินต่างๆ ให้เลิกแข่งขันทำแคมเปญ 0% เพื่อลดความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ขณะธอส.ยังนี้มีแคมเปญ 0% นาน 8 เดือนที่ธนาคารจะพิจารณาให้เฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้อโครงการอสังหาฯเพื่ออยู่อาศัยจริง
ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อในแคมเปญดังกล่าวร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ทำโครงการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้ออยู่อาศัยจริงเช่น โครงการของลุมพินี หรือแอลพีเอ็น ที่อยู่ตามชายเมือง ซึ่งจะมีราคาไม่แพงหลักแสนหรือล้านบาทต้นๆ โดยส่วนนี้ธนาคารจะมีวงเงินปล่อยสินเชื่อประมาณ 3-4 พันล้านบาทเท่านั้น
“ตอนนี้แคมเปญ 0%นาน 6 เดือนที่ให้เป็นการทั่วไปได้ยกเลิกไปแล้ว จึงมีเพียงให้แคมเปญที่ให้เฉพาะกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เพราะธอส.ก็มองเห็นถึงสัญญาณการซื้อโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อเก็งกำไรบ้างแล้ว โดยเฉพาะคอนโดขนาดเล็กมากๆตามแนวรถไฟฟ้าที่ดูแล้วไม่น่าจะอยู่อาศัยได้จริง นอกจากซื้อทิ้งไว้เพื่อเก็งกำไรหรือให้เช่า ทำให้ธนาคารจะระมัดระวังการปล่อยกู้ให้โครงการประเภทนี้มากขึ้น เพราะไม่ยากเป็นตัวการที่ทำให้เกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับแคมเปญที่ใช้ในการให้สินเชื่อขณะนี้คืออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี โดยปีแรกคิดที่ 3.5% และปีที่ 2 คิดที่ 4.5% โดยให้สิทธิยื่นกู้ได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้นและต้องทำนิติกรรมภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งให้กับบุคคลากรภาครัฐและรายย่อยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาว ที่ขณะที่อัตราดอกเบี้ยปกติคิดที่เอ็มอาร์อาร์ ลบ 2% คงที่ 2 ปี หรืออยู่ที่ 5.125% ปีที่ 3 ลบ 1% ปีที่ 4 ลบ 0.5% ไปจนตลอดอายุสัญญา ขณะที่ลูกค้าสวัสดิการได้สิทธิพิเศษเอ็มอาร์อาร์ลบ3.25% วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าสินเชื่อของธนาคารเริ่มชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาสแรกที่สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 34,116 บัญชี เป็นเงิน 27,821 ล้านบาท โดยล่าสุดเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดือนเม.ย.ต่อเนื่องพ.ค.เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวขอสินเชื่อชัดเจนขึ้น ขณะที่เป้าหมายสินเชื่อทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.2 แสนล้านบาทนั้นอาจจะค่อนข้างเหนื่อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปัญหาที่ระบบงานภายในที่ล่าช้า และลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อเนื่องจากรอแคมเปญที่ดีกว่าหรือรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะอยู่ในช่วงขาลง.
แหล่งข่าวจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เปิดเผยว่า ธนาคารได้ยกเลิกแคมแปญสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือนมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ขอความร่วมมือสถาบันการเงินต่างๆ ให้เลิกแข่งขันทำแคมเปญ 0% เพื่อลดความร้อนแรงของภาคอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะการซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่ขณะธอส.ยังนี้มีแคมเปญ 0% นาน 8 เดือนที่ธนาคารจะพิจารณาให้เฉพาะลูกค้ากลุ่มที่ต้องการซื้อโครงการอสังหาฯเพื่ออยู่อาศัยจริง
ทั้งนี้ ธนาคารจะพิจารณาให้สินเชื่อในแคมเปญดังกล่าวร่วมกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่ทำโครงการขายเพื่อให้ลูกค้าซื้ออยู่อาศัยจริงเช่น โครงการของลุมพินี หรือแอลพีเอ็น ที่อยู่ตามชายเมือง ซึ่งจะมีราคาไม่แพงหลักแสนหรือล้านบาทต้นๆ โดยส่วนนี้ธนาคารจะมีวงเงินปล่อยสินเชื่อประมาณ 3-4 พันล้านบาทเท่านั้น
“ตอนนี้แคมเปญ 0%นาน 6 เดือนที่ให้เป็นการทั่วไปได้ยกเลิกไปแล้ว จึงมีเพียงให้แคมเปญที่ให้เฉพาะกลุ่มที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริง เพราะธอส.ก็มองเห็นถึงสัญญาณการซื้อโครงการคอนโดมิเนียมเพื่อเก็งกำไรบ้างแล้ว โดยเฉพาะคอนโดขนาดเล็กมากๆตามแนวรถไฟฟ้าที่ดูแล้วไม่น่าจะอยู่อาศัยได้จริง นอกจากซื้อทิ้งไว้เพื่อเก็งกำไรหรือให้เช่า ทำให้ธนาคารจะระมัดระวังการปล่อยกู้ให้โครงการประเภทนี้มากขึ้น เพราะไม่ยากเป็นตัวการที่ทำให้เกิดฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์” แหล่งข่าวกล่าว
สำหรับแคมเปญที่ใช้ในการให้สินเชื่อขณะนี้คืออัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี โดยปีแรกคิดที่ 3.5% และปีที่ 2 คิดที่ 4.5% โดยให้สิทธิยื่นกู้ได้ถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้นและต้องทำนิติกรรมภายในสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งให้กับบุคคลากรภาครัฐและรายย่อยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาว ที่ขณะที่อัตราดอกเบี้ยปกติคิดที่เอ็มอาร์อาร์ ลบ 2% คงที่ 2 ปี หรืออยู่ที่ 5.125% ปีที่ 3 ลบ 1% ปีที่ 4 ลบ 0.5% ไปจนตลอดอายุสัญญา ขณะที่ลูกค้าสวัสดิการได้สิทธิพิเศษเอ็มอาร์อาร์ลบ3.25% วงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พบว่าสินเชื่อของธนาคารเริ่มชะลอตัวลงจากช่วงไตรมาสแรกที่สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 34,116 บัญชี เป็นเงิน 27,821 ล้านบาท โดยล่าสุดเพิ่มขึ้นมาเป็น 3.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดือนเม.ย.ต่อเนื่องพ.ค.เริ่มเห็นสัญญาณการชะลอตัวขอสินเชื่อชัดเจนขึ้น ขณะที่เป้าหมายสินเชื่อทั้งปีที่ตั้งไว้ 1.2 แสนล้านบาทนั้นอาจจะค่อนข้างเหนื่อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปัญหาที่ระบบงานภายในที่ล่าช้า และลูกค้าอาจจะชะลอการตัดสินใจซื้อเนื่องจากรอแคมเปญที่ดีกว่าหรือรอดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่น่าจะอยู่ในช่วงขาลง.