ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ต้นสัปดาห์ก่อน มีนักการเมืองท้องถิ่น เทศบาลเมืองบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นำชาวบ้านกว่า 2 หมื่นคน จาก 8 อำเภอ จ.นครราชสีมา เสนอ พ.ร.บ.จัดตั้งจังหวัดใหม่ต่อรัฐบาล ผลักดันยกฐานะ 8 อำเภอเป็นจังหวัดบัวใหญ่
ย้อนไปเมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา มีชาวบ้านกว่า 1,000 คน จาก 8 อำเภอ ประกอบด้วย อ.บัวใหญ่, อ.คง, อ.ประทาย, อ.โนนแดง, อ.บ้านเหลื่อม, อ.แก้งสนามนาง, อ.สีดา และ อ.บัวลาย มาร่วมประชุมหารือภายใต้ชื่อ “การประชุมใหญ่รวมพลังคนด่านนอก (เพื่อขอยกฐานะ 8 อำเภอเป็นจังหวัด)
โดยมีนายอรุณ อัครปรีดี แกนนำเป็นประธาน เพื่อปรึกษาหารือและหาแนวทางขับเคลื่อน เพื่อให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณา และยื่นเอกสารและรายชื่อของชาวบ้านทั้ง 8 อำเภอในการขออนุมัติขอยกฐานะ (8 อำเภอ) เป็นจังหวัด
นายอรุณ ถือเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลบัวใหญ่ ก่อนที่จะยกฐานะขึ้นมาเป็นเทศบาลเมือง เมื่อไม่นานมานี้
วันนั้นวงหารือสรุปว่า ภาคประชาชน 8 อำเภอใน จ.นครราชสีมา ซึ่งเดิมเป็นอำเภอเดียวกัน ร่วมกันลงรายชื่อจำนวน 20,582 คน เพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติ (ร่าง พ.ร.บ.) ตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ.2537
โดยมีการเสนอต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 หลังจากมีความพยายามผลักดันอย่างต่อเนื่องให้ อ.บัวใหญ่แยกการปกครองจากจังหวัดนครราชสีมาเพื่อตั้งเป็นจังหวัดใหม่ ทั้งนี้ในอดีตเมื่อปี พ.ศ.2498 รัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีให้ยกฐานะอำเภอบัวใหญ่เป็นจังหวัด แต่เมื่อรัฐบาลชุดนั้นถูกปฏิวัติจึงไม่มีการพิจารณาถึงเหตุผลความจำเป็นตามที่กรมการปกครองมีความเห็น จนมาเมื่อปี พ.ศ.2532 ให้แบ่งพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาตั้งเป็นจังหวัดใหม่
ต่อมาในปี พ.ศ.2537 สมาชิกสภาจังหวัดนครราชสีมา 35 คน จากทั้งหมด 36 คน รวมทั้งสภาเทศบาลตำบลบัวใหญ่ ผู้นำองค์กรเอกชน ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ส่งหนังสือขอยกฐานะอำเภอบัวใหญ่เป็นจังหวัดต่อกระทรวงมหาดไทยอีกครั้ง กระทรวงมหาดไทยจึงส่งเรื่องให้กรมการปกครองสอบถามมายังจังหวัด แต่เรื่องเงียบหายไป
ขณะที่ นายโกศล ปัทมะ ส.ส.นครราชสีมา เขต 5 ซึ่งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ ระบุว่า การเคลื่อนไหวเรียกร้องแยกตัว 8 อำเภอเป็นจังหวัดมีมานานแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวส่วนใหญ่จะเป็นพ่อค้าและคหบดี ได้รับความเดือดร้อนจากระบบการคมนาคมที่ไม่สะดวก ในอดีตทั้ง 8 อำเภอนี้เคยเป็นอำเภอเดียวกันคือ อ.บัวใหญ่ หลังจากตั้งแต่ปี พ.ศ.2490 เป็นต้นมาได้แตกเป็นอำเภอต่างๆ อีก 7 อำเภอดังกล่าว จึงทำให้หลายคนรู้สึกว่าหากนำเอา 7 อำเภอที่แยกตัวมารวมกันสามารถยกฐานะเป็นจังหวัดได้
"เท่าที่ทราบเรื่องนี้ได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ตั้งจังหวัดบัวใหญ่ พ.ศ.2537 ต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา แต่เนื่องจากเป็น พ.ร.บ.ทางด้านการเงิน จึงได้ส่งเรื่องไปให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ลงนาม"
พอมีกระแสข่าวเกิดขึ้น รองมาดูความเห็นของข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน คหบดี ต่อเรื่องนี้บ้าง
เริ่มจาก นายวินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าฯนครราชสีมา ให้ความเห็นว่า กรณีนี้คงต้องรับฟังเสียงของประชาชนทุกภาคส่วนว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยไม่ เพราะการแยกตัวออกไป จะต้องมาศึกษารายละเอียดในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ ศักยภาพ และความพร้อม ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
ดังนั้นส่วนตัวเห็นว่าการเคลื่อนไหวมีมานานแล้ว แต่ทุกครั้งก็ล้มเหลวเพราะคนส่วนใหญ่ยังอยากให้อยู่กับจังหวัดนครราชสีมา และไม่อยากให้แยกหลานย่าโมออกจากกัน
นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ รองประธานหอการค้าภาคอีสาน บอกว่า ส่วนตัวคิดว่าการที่จะแยกตัวออกเป็นจังหวัดจะมีปัจจัยอยู่ทั้งหมด 2 ด้าน ประกอบด้วยด้านภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ คิดว่าทั้ง 8 อำเภอในเรื่องของด้านภูมิศาสตร์ได้ผ่านองค์ประกอบทุกอย่าง แต่ในด้านของประวัติศาสตร์คิดว่าไม่ผ่าน เนื่องจากหากจะมีการแยกออกเป็นจังหวัด เปรียบเสมอกับมีการแบ่งท้าวสุรนารี (คุณย่าโม) ออกจาก จ.นครราชสีมา จะทำให้เกิดความรู้สึกลึกๆ ในใจที่ไม่สามารถระบายออกมาเป็นคำพูดได้ จนทำให้ฝ่ายปกครองต้องมีการสร้างรูปปั้นเหมือนย่าโมให้ประดิษฐานในแต่ละอำเภอ
คิดว่าเรื่องของการยกฐานะ 8 อำเภอเป็นจังหวัดใหม่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว หากสามารถที่จะยกฐานะเป็นจังหวัดได้แล้วจะส่งผลกระทบต่อ จ.นครราชสีมา ในเรื่องของด้านเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก จนทำให้จีพีดีใน จ.นครราชสีมาลดต่ำลง เนื่องจาก 8 อำเภอล้วนแต่เป็นอำเภอที่มีขนาดใหญ่และเป็นพื้นที่ที่มีการทำการเกษตรเป็นจำนวนมาก แต่หากมองในเรื่องการรองรับ เป็นเรื่องของราคาที่ดินในพื้นที่ 8 อำเภอที่จะมีการปรับตัวที่สูงขึ้นและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่จะต้องมองดูตัวแปรในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งภายในชุมชน และเรื่องของผลประโยชน์ที่จะมีผู้ที่ได้รับเมื่อมีการยกฐานะเป็นจังหวัด
ขณะที่ นายสมพงษ์ วิริยะจารุ วัฒนธรรมจังหวัดนครราชสีมา ให้ความเห็นว่า ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาวจังหวัดนครราชสีมา ที่เรียกกันติดปากว่า ชาวโคราชมีความผูกพันกันมานานนับร้อยปี โดยเฉพาะวีรกรรมของท่านท้าวสุรนารี หรือย่าโม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนให้ความเคารพนับถือ หล่อหลอมให้ชาวโคราช รู้รักสามัคคี กันมาจนถึงทุกวันนี้ อยู่ในที่หนใดใน จ.นครราชสีมา ก็ถือเป็น "ลูกหลานย่าโม" เหมือนกัน เมื่อถึงเทศกาลงานประจำปี ในช่วงปลายเดือนมี.ค. ชาวบ้าน ในเขต 8 อำเภอ ก็เหมารถชักชวนกันเดินทางมาร่วมกิจกรรมสม่ำเสมอทุกปี
"ชาวบัวใหญ่ มีสำเนียงภาษาพูดลักษณะ ไทยโคราช หรือ ไทยเบิ้ง ไทยเดิ้ง ซึ่งมีลักษณะภาษาไทย ปนภาษาลาวเล็กน้อย สามารถสื่อสารกับคนในอำเภออื่นๆ รู้เรื่อง จากเอกสารประวัติศาสตร์ ไทยโคราชเป็นชุมชนไทยที่อยู่อาศัยมานานอย่างน้อยตั้งแต่ครั้งสมัยอยุธยาราวพุทธศตวรรษที่ 22-23 มีเอกลักษณ์ ในประเพณีความเชื่อ ภูมิปัญญา สังคม สถาปัตยกรรมและผลงานทางวัฒนธรรม ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะชุมชน ลักษณะผสมผสานกัน เพราะฉะนั้น ชาวบ้านทั้ง 8 อำเภอ จะมีโครงสร้างทางวัฒนธรรมเหมือนกับคนอำเภออื่นค่อนข้างชัดเจน "
ด้านนายประเทศ อุตตมบูรณ อดีตข้าราชการบำนาญ โดยรับราชการในตำแหน่งฝ่ายปกครองนาน 36 ปี แสดงความคิดเห็นว่า ประสบการณ์ที่รับราชการในตำแหน่งปลัดอำเภอ และนายอำเภอ ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มากกว่า 7 แห่ง และเคยปฏิบัติหน้าที่ปลัดอำเภอบัวใหญ่ ในปี พ.ศ 2511 ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม แต่ละพื้นที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกันมาก จนแยกไม่ออก ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวโคราช ที่ไม่เหมือนใคร
"การมีศาลากลางจังหวัดเพิ่มขึ้น ใครได้ผลประโยชน์ ชาวบ้านได้อะไร โดยเฉพาะพ่อค้าวาณิช กลุ่มนายทุน ผู้รับเหมา จะได้ใกล้ชิดพ่อเมือง หรือมีตำแหน่งทางราชการเพิ่มขึ้น การแยกอำเภอให้มากขึ้น จะได้ประโยชน์เป็นรูปธรรมชัดเจน เนื่องจากเป็นสถานที่ให้ชาวบ้าน ได้ติดต่อราชการง่ายขึ้น จึงขอให้ทบทวนถึงการแยกจังหวัดด้วย" อดีตข้าราชการบำนาญกล่าว
อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้าง จะเห็นว่า ความเห็นหลาย ๆฝ่ายข้างต้น เชื่อว่าคงยังไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในไวๆนี้ เพราะหากดูจาก จ.บึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของประเทศ ต้องใช้เวลามากกว่าสิบๆปี
ความเห็นที่อยากจะแยก จ.นครราชสีมา จริงๆแล้วหากไล่เลียงมาตั้งแต่อดีตเคยมีการเสนอมาแล้วมากกว่า 57 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2498 สมัยรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม อดีตนายกฯได้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีให้ยกฐานะอำเภอบัวใหญ่เป็นจังหวัด
แต่ก็ยังแยกไม่ได้ด้วยหลาย ๆประการ ทั้งถูกปฏิวัติ หรือเรื่องเงียบหายไปเองตามภาวะการเมืองในยุคต่าง ๆ
ขณะที่ล่าสุดเรื่องนี้ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ก็ออกมาให้ข่าวตอกย้ำว่า ที่จริงในส่วนของฝ่ายปกครองมีแนวคิดในการแยกพื้นที่ จ.นครราชสีมาออกเป็น 4 จังหวัด เพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการต่าง ๆ
โดย ฝ่ายปกครองอยากให้แยกมานานแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เพราะประชาชนในพื้นที่ยังคงมีความเชื่อ ความศรัทธาในการเป็นลูกหลานย่าโมอยู่ จึงไม่ยอมให้มีการแบ่งแยกพื้นที่ดังกล่าว นอกจากเข้าองค์ประกอบทุกอย่างแล้ว ก็จะต้องมีการทำประชาพิจารณ์ เมื่อมาถึงจุดนั้นแล้ว ก็จะเกิดความเห็นออกเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย
พูดออกมาเต็มปากเลยว่า “ฝ่ายปกครอง อยากจะะแบ่งโคราช ออกเป็น 4 จังหวัด”
สอดคล้องกับกลุ่มที่ออกมาสนับสนุนให้มีการแยก เป็นจังหวัดบัวใหญ่ ที่คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้งในเร็วๆนี้
ขณะที่มีกลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้น เช่น ในเฟซบุ๊คมีการตั้งแฟนเพจที่ชื่อว่า “ลูกหลานย่าโมไม่ต้องการแยกจังหวัด เราอยากเป็นคนโคราชไปจนวันตาย” https://www.facebook.com/NotBuaYaiProvince
มีคนมากดไลท์ 1,289 คนถูกใจ • 99 คนกำลังพูดถึงสิ่งนี้