ASTVผู้จัดกาารายวัน -ทรูฯสนใจตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งทีมงานขอข้อมูลก.ล.ต. หวังระดมทุนผ่านค่าเช่าเสาส่งสัญญาณโครงข่าย ด้านSPGC ก็สนส่งโชลาร์ฟาร์มเข้ากองทุน เช่นเดียวกับอีกหลายรัฐวิสาหกิจ
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRUE) สนใจศึกษาแผนระดมทุนภายใต้รูปแบบการออกขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือ Infrastructure Fund เช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมามีทั้งทีมที่ปรึกษาทางการเงินและ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เข้ามาปรึกษาถึงแนวทางการจัดตั้งกองทุนแล้ว ซึ่งเบื้องต้นสามารถจัดทำได้เช่นเดียวกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยนำรายได้ในอนาคตที่คาดว่าจะได้รับมาเพื่อใช้ในการลงทุนซึ่ง บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เองก็มีรายได้ที่มากจากค่าเช่าเสาส่งสัญญาณโครงข่าย เป็นต้น
สำหรับขนาดของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านโทรคมนาคมของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นสนใจจะออกมีความใกล้เคียงกับทาง บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTSGIF) คือใช้ระดมทุนงบประมาณ 6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น น่าจะสามารถดำเนินการยื่นไฟลิ่งออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีบริษัทเอกชนหลายรายสนใจออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่หลายกอง เช่น ธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่า ฟาร์ม ,โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน และโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล(แก็สขี้หมูจากฟาร์ม)เป็นต้น ซึ่งใช้งบลงทุนในการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับชุมชน ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยเฉลี่ย 4-5 กิโลวัตต์ โดยใช้งบประมาณเฉลี่ยต่อโรงที่ 500 ล้านบาท กระจายในชุมชนต่างๆทั่วประเทศที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรและผ่านการสำรวจประชามติจากชุมชนที่อยู่รอบๆเรียบร้อยแล้ว คาดว่าส่วนหนึ่งจะช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ และชุมชนเองก็จะมีรายได้ที่เกิดขึ้นจากการจ้างงานและขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าอีกด้วย เช่น บมจ.เอสพีซีจี (SPCG)ซึ่งดำเนินธุรกิจ โซล่า ฟาร์ม ซึ่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม
ส่วนหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจก็คาดว่าจะได้เห็นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ได้ เช่น การประปานครหลวง,การประปาส่วนภูมิภาค , การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ซึ่งบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันนี้ อาจจะจัดตั้งเป็นบริษัทในรูปแบบโฮลดิ้ง คอมพานี เป็นต้น เพื่อผลิตไฟฟ้าในรูปแบบทางเลือกอื่นๆเช่นโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน หรือจากขยะมูลฝอย ระบบขนส่งทางราง หรือท่าเทียบเรือที่มีความทันสมัยมากขึ้น เพราะการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะมีประโยชน์และทำเงินให้มาก
นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) กล่าวว่า บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (TRUE) สนใจศึกษาแผนระดมทุนภายใต้รูปแบบการออกขายกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ หรือ Infrastructure Fund เช่นกัน เนื่องจากที่ผ่านมามีทั้งทีมที่ปรึกษาทางการเงินและ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เข้ามาปรึกษาถึงแนวทางการจัดตั้งกองทุนแล้ว ซึ่งเบื้องต้นสามารถจัดทำได้เช่นเดียวกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ โดยนำรายได้ในอนาคตที่คาดว่าจะได้รับมาเพื่อใช้ในการลงทุนซึ่ง บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เองก็มีรายได้ที่มากจากค่าเช่าเสาส่งสัญญาณโครงข่าย เป็นต้น
สำหรับขนาดของกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้านโทรคมนาคมของ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นสนใจจะออกมีความใกล้เคียงกับทาง บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง (BTSGIF) คือใช้ระดมทุนงบประมาณ 6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น น่าจะสามารถดำเนินการยื่นไฟลิ่งออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีบริษัทเอกชนหลายรายสนใจออกกองทุนโครงสร้างพื้นฐานอยู่หลายกอง เช่น ธุรกิจไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ หรือ โซล่า ฟาร์ม ,โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน และโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล(แก็สขี้หมูจากฟาร์ม)เป็นต้น ซึ่งใช้งบลงทุนในการสร้างโรงไฟฟ้าขนาดเล็กสำหรับชุมชน ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้โดยเฉลี่ย 4-5 กิโลวัตต์ โดยใช้งบประมาณเฉลี่ยต่อโรงที่ 500 ล้านบาท กระจายในชุมชนต่างๆทั่วประเทศที่มีศักยภาพด้านทรัพยากรและผ่านการสำรวจประชามติจากชุมชนที่อยู่รอบๆเรียบร้อยแล้ว คาดว่าส่วนหนึ่งจะช่วยแก้ปัญหาไฟฟ้าไม่พอใช้ และชุมชนเองก็จะมีรายได้ที่เกิดขึ้นจากการจ้างงานและขายไฟฟ้าคืนให้กับการไฟฟ้าอีกด้วย เช่น บมจ.เอสพีซีจี (SPCG)ซึ่งดำเนินธุรกิจ โซล่า ฟาร์ม ซึ่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการเตรียมความพร้อม
ส่วนหน่วยงานภาครัฐหรือรัฐวิสาหกิจก็คาดว่าจะได้เห็นการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานในปีนี้ได้ เช่น การประปานครหลวง,การประปาส่วนภูมิภาค , การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ซึ่งบริษัทเอกชนที่ดำเนินธุรกิจประเภทเดียวกันนี้ อาจจะจัดตั้งเป็นบริษัทในรูปแบบโฮลดิ้ง คอมพานี เป็นต้น เพื่อผลิตไฟฟ้าในรูปแบบทางเลือกอื่นๆเช่นโรงไฟฟ้าจากถ่านหิน หรือจากขยะมูลฝอย ระบบขนส่งทางราง หรือท่าเทียบเรือที่มีความทันสมัยมากขึ้น เพราะการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน จะมีประโยชน์และทำเงินให้มาก
