ASTVผู้จัดการรายวัน -เผยอสังหาฯสมุทรสาครคึกคัก ดีมานด์ใหม่ขยายตัวตามการขยายตัวของเมือง หลังโครงขายคมนาคมเชื่อมเมืองบริวาร-กทม. "ดีแลนด์" กางแผนรุกตลาดปี56ผุด3โครงการใหม่มูลค่า680ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารายได้ปีขาย-รับรู้รายได้ทั้งปี1,000ล้านบา ท แจงปี4เดือนขายและ300ล้านบาท
นายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแลนด์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการขยายตัวของดีมานด์ที่อยู่อาศัยในเมืองบริวารของกรุงเทพฯ มีความคึกคักมากขึ้นตามการขยายตัวของเมือง ภายหลังจากที่มีการเชื่อมโครงขาย และระบบการเดินทาง ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองบริวารของกทม.มีการขยายตัวตามไปด้วย ทั้งนี้ ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมากเป็นดีมานด์จากกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่และผู้ที่เข้ามาทำงานโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับบริหารในโรงงาน เช่น กลุ่มวิศวกร ผู้จัดการฝ่าย และหัวหน้างาน ฯลฯ โดยความต้องการของกลุ่มดังกล่าวจะเป็นที่อยู่อาศัยระดับ2-5ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการขยายตัวของดีมานด์ในสมุทรสาครจะเพิ่มสูงขึ้น แต่การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงมีไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม. นั้นยังคงโฟกัสอยู่ที่ลูกค้ากทม. ซึ่งมีกำลังซื้อระดับ3-5ล้านบาท ขณะที่การเข้ามาจับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้น จำเป็นต้องปรับราคาขายลงมาจับกลุ่มตลาดล่าง 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีปัญหาในการคุมต้นทุนการก่อสร้าง และปัญหาการขาดแรงงาน ทำให้อยากต่อการแข่งขันกับริษัทอสังหาฯในพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม.เข้ามาทำตลาดน้อยราย
สำหรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสมุทสาครค่อนข้างรุนแรง ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนก่อตั้งโรงงานพรีแพบ โดยใช้งบประมาณ 30ล้านบาท มีกำลังการผลิต 30 ยูนิตต่อเดือน ซึ่งขณะนี้เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต และมีแผนจะขยายไลน์ผลิตที่2 เพื่อรองรับการขยายโครงการของบริษัท ทั้งนี้ การนำระบบสำเร็จรูปเข้ามาช่วยในการก่อสร้างช่วยให้บริษัทลดระยะเวลาก่อสร้างบ้านได้2เดือน จากปกติใช้ระยะเวลาสร้าง6เดือนเหลือ 4เดือนต่อหน่วย
นายเพิ่มเกียรติ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีมียอดขายและรายได้รับรู้อยู่ที่1,000 ล้านบาท จากโครงการเดิมที่เปิดขายในปีก่อนหน้า และโครงการใหม่ในปีนี้ โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีรายได้แล้ว 300ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี2556 จะพัฒนาทั้งหมด 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 680 ล้านบาท ได้แก่โครงการบ้านดี เอกชัยพลัส ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ พัฒนาในรูปแบบทาวน์โฮม ขนาด 20 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท จำนวน 234 ยูนิต มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท โดยเปิดขายเฟสแรกไปเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่าการเปิดขายเฟสที่2 มียอดจองแล้ว 5-6 ยูนิต จากกว่า 20 ยูนิต
ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นอาคารพาณิชย์แบรนด์ "ดีคอมเพล็กซ์" เฟสต่อเนื่อง โครงการละ 9 ยูนิต ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการละ 50-60 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยวทำเลใกล้กรุงเทพฯอีก 1 โครงการ ราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมู
นายเพิ่มเกียรติ โพธิเพียรทอง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีแลนด์กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการขยายตัวของดีมานด์ที่อยู่อาศัยในเมืองบริวารของกรุงเทพฯ มีความคึกคักมากขึ้นตามการขยายตัวของเมือง ภายหลังจากที่มีการเชื่อมโครงขาย และระบบการเดินทาง ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองบริวารของกทม.มีการขยายตัวตามไปด้วย ทั้งนี้ ดีมานด์ที่อยู่อาศัยในจังหวัดสมุทรสาคร โดยมากเป็นดีมานด์จากกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่และผู้ที่เข้ามาทำงานโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับบริหารในโรงงาน เช่น กลุ่มวิศวกร ผู้จัดการฝ่าย และหัวหน้างาน ฯลฯ โดยความต้องการของกลุ่มดังกล่าวจะเป็นที่อยู่อาศัยระดับ2-5ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแม้ว่าการขยายตัวของดีมานด์ในสมุทรสาครจะเพิ่มสูงขึ้น แต่การเข้ามาของผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงมีไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าของผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม. นั้นยังคงโฟกัสอยู่ที่ลูกค้ากทม. ซึ่งมีกำลังซื้อระดับ3-5ล้านบาท ขณะที่การเข้ามาจับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้น จำเป็นต้องปรับราคาขายลงมาจับกลุ่มตลาดล่าง 1-3 ล้านบาท ซึ่งมีปัญหาในการคุมต้นทุนการก่อสร้าง และปัญหาการขาดแรงงาน ทำให้อยากต่อการแข่งขันกับริษัทอสังหาฯในพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันยังมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากกทม.เข้ามาทำตลาดน้อยราย
สำหรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานในสมุทสาครค่อนข้างรุนแรง ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนก่อตั้งโรงงานพรีแพบ โดยใช้งบประมาณ 30ล้านบาท มีกำลังการผลิต 30 ยูนิตต่อเดือน ซึ่งขณะนี้เดินเครื่องเต็มกำลังการผลิต และมีแผนจะขยายไลน์ผลิตที่2 เพื่อรองรับการขยายโครงการของบริษัท ทั้งนี้ การนำระบบสำเร็จรูปเข้ามาช่วยในการก่อสร้างช่วยให้บริษัทลดระยะเวลาก่อสร้างบ้านได้2เดือน จากปกติใช้ระยะเวลาสร้าง6เดือนเหลือ 4เดือนต่อหน่วย
นายเพิ่มเกียรติ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีมียอดขายและรายได้รับรู้อยู่ที่1,000 ล้านบาท จากโครงการเดิมที่เปิดขายในปีก่อนหน้า และโครงการใหม่ในปีนี้ โดยในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมามีรายได้แล้ว 300ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานของบริษัทฯในปี2556 จะพัฒนาทั้งหมด 3 โครงการ รวมมูลค่าโครงการกว่า 680 ล้านบาท ได้แก่โครงการบ้านดี เอกชัยพลัส ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 23 ไร่ พัฒนาในรูปแบบทาวน์โฮม ขนาด 20 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 1.99 ล้านบาท จำนวน 234 ยูนิต มูลค่าโครงการ 560 ล้านบาท โดยเปิดขายเฟสแรกไปเมื่อเดือนมีนาคม 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งปิดการขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในระหว่าการเปิดขายเฟสที่2 มียอดจองแล้ว 5-6 ยูนิต จากกว่า 20 ยูนิต
ส่วนอีก 2 โครงการ เป็นอาคารพาณิชย์แบรนด์ "ดีคอมเพล็กซ์" เฟสต่อเนื่อง โครงการละ 9 ยูนิต ราคา 5 ล้านบาทขึ้นไป มูลค่าโครงการละ 50-60 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะพัฒนาบ้านเดี่ยวทำเลใกล้กรุงเทพฯอีก 1 โครงการ ราคาประมาณ 3-5 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาข้อมู
