xs
xsm
sm
md
lg

นกแอร์เล็งขายหุ้นIPOคาดระดมทุน5พันล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-นกแอร์เตรียมขายหุ้นIPO ภายในปลายมิ.ย.นี้ ลดหุ้นการบินไทยเหลือ 39%คาดระดมทุนได้ 5พันล.เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน หาเครื่องบินเพิ่ม ชูจุดแข็งบริการ จุดบินครอบคลุม ครองส่วนแบ่งตลาดโลว์คอสต์สูงสุด เหตุมีเครื่องบินใหม่ ลดต้นทุนน้ำมันช่วยดันรายได้โตก้าวกระโดด อนาคตสดใส Cabin Factor เฉลี่ย กว่า80% เผยเปิดAEC กระตุ้น ไทยฮับการบินภูมิภาคจ่อเปิดบินต่างประเทศอีกครั้ง ยึดบินหีวเมืองเข้าพม่า ที่กำลังบูมทั้งศก.และท่องเที่ยว

นายวิทัย รัตนากร ประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน (CFO) บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นกแอร์จะขายหุ้นสามัญให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 187.5 ล้านหุ้นหรือ สัดส่วน30% แบ่งเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 125 ล้านหุ้น (20%) และหุ้นสามัญของผู้ถือหุ้นเดิมเสนอขายโดยบริษัท เอวิเอชั่น อินเวสต์เม้นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อีก 62.5 ล้านหุ้น (10%) โดยได้ยื่นไฟล์ลิ่งต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคมและคาดว่า(เทรดดิ้ง) ได้ช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้

โดยคาดว่าจะได้เงินจากการขายหุ้นประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน เพื่อขยายกิจการในอนาคต และจัดหาเครื่องบินเพิ่ม ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้นของนกแอร์หลังขายหุ้น ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะเหลือ 39.2% จาก 49 % บริษัท เอวิเอชั่น เหลือ 10% จาก 25% ซึ่งการปันผลให้ผู้ถือหุ้นที่ผ่านมา อยู่ในอัตรา 50% ของกำไรสุทธิตลอด

ทั้งนีื้นกแอร์เป็นสายการบินราคาประหยัด (โลว์คอสต์แอร์ไลน์)ที่มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง3 ปีที่ผ่านมา จาก 34.9% ในปี 53 เป็น 41% ในปี55 โดยหากเปรียบเทียบกับสายการบินโลว์คอสต์ด้วยกันนกแอร์มีจุดบินภายในประเทศคลอบคลุมมากที่สุดโดยปัจจุบันมี 23 จุดบิน รวม 483 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เนื่องจากมีเครื่องบินหลายขนาดทำการบินไปยังเมืองใหญ่ กลาง เล็ก
ได้อย่างเหมาะสมทำให้คุ้มค่ามากกว่า มีอัตราการเติบโตของผู้โดยสารสูงจาก2 ล้านคนในปี 53 เป็น 4 ล้านคนในปี55 ส่วนปี56 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 6 ล้านคน

นายวิทัยกล่าวว่า ผลการดำเนินงานนกแอร์ปี 55 มีรายได้ 8,217.6 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 504.7 ล้านบาท ส่วนดำเนินงานช่วงไตรมาส 1/56 (ม.ค.-มี.ค.) มีรายได้ 2,811 ล้านบาท กำไรสุทธิ 425.3 ล้านบาท โดยมีอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารต่อเที่ยวบิน (Cabin Factor) เฉลี่ย 80-85% ซึ่งการเติบโตมาจากการจัดหาเครื่องบินเพิ่ม ซึ่งภายในปลายปีนี้จะมีฝูงบินรวม 21 ลำ ประกอบด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 14 ลำ ATR 2 ลำ และ SAAB 5
ลำ

"นกแอร์มีค่าใช้จ่ายเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ 60% แบ่งเป็นต้นทุนน้ำมัน 35%ที่เหลือคือค่าเช่าเครื่องบินและค่าบริหารจัดการต่างๆ ขณะรายได้จะเป็นสกุลเงินบาททั้งหมด และไม่มีภาระหนี้ ซึ่งเครื่องบินใหม่ช่วยประหยัดต้นทุนน้ำมันได้ 13% และทำประกันความเสี่ยงน้ำมัน (เฮจจิ้ง) ประมาณ 30% ลดความเสี่ยงราคาน้ำมันที่ผันผวน

ส่วนการเพิ่มเครื่องบินจะใช้การเช่าเป็นหลักเพราะใช้เวลาเพียง 3-6เดือนโดยจะสั่งเมื่อมั่นใจว่าจะมีจุดบินเพิ่มและทำกำไรได้ และกำลังพิจารณาซื้อเครื่องบิน ATR เพราะคุ้มค่าเนื่องจากเทคโนโลยีค่อนข้างนิ่งแล้ว จึงต่างกับสายการบินอื่นที่ซื้อเครื่องบินครั้งละมาก ซึ่งอายุฝูงบินขณะนี้เฉลี่ยที่ 7ปี อัตราหมุนเวียนการใช้จาก 7 ชม./วันเป็น 10-11.5ชม./วันเมื่อมีฝูงบินเพิ่ม โดยช่วง 3 ปีจากนี้คาดว่า จำนวนที่นั่งจะเพิ่มไม่ต่ำกว่า 37% และจะมีการขยายเส้นทางบินภายในประเทศโดยไม่ผ่านกรุงเทพฯ(โครงข่ายใยแมงมุม) เช่น ภูเก็ตสู่จังหวัดทางภาคอีสานขณะที่การเปิดAEC จะยิ่งทำให้ไทยเป็นการบินของภูมิภาคที่สามารถเดินทางได้ครอบคลุม จีย เกาหลี อินเดีย AEC ในเวลา 4-4.5 ชม.ขณะที่ มาเลเซีย อินโดนีเซียใช้เวลามากกว่า"นายวิทัยกล่าว

นายปิยะ ยอดมณี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สานการบินนกแอร์กล่าวว่า การขยายเส้นทางบินไปยังต่างประเทศจะเปิดแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพิจารณาความคุ้มค่าและการทำกำไรอย่างรอบคอบ ซึ่งประเทศแรกคือพม่าที่นกแอร์จะให้บริการา เพราะมีอัตราการเติบโตด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสูง โดยเริ่มจากเครื่องบินเล็กประมาณ 30-60 ที่นั่งใช้
จุดบินที่เป็นหัวเมืองสำคัญของประเทศแบบไม่ต้องผ่านมายังกรุงเทพมหานคร คือ กันยายนเปิดบินเส้นทางแม่สอด-เมาะลำไย, แม่สอด-ย่างกุ้ง ในเดือนตุลาคม , กรุงเทพฯ-ย่างกุ้ง ในเดือนพฤศจิกายน และกำลังศึกษาเส้นทางเชียงใหม่- มัณฑะเลย์ และเชียงใหม่-บากัน นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายเส้นทางบินต่างประเทศอื่นๆที่ใช้เวลาบินประมาณ 4 ชั่วโมง เช่น จีน เกาหลี และอินเดีย 

 ยันบริหารอิสระ ไม่เคยทะเลาะการบินไทย

นายปิยะกล่าวว่า การจะอยู่รอดในธุรกิจสายการบินการบริหารต้องเป็นอิสระซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหากับการบ้นไทย ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ นกแอร์ได้รับอนุมัติในการดำเนินงานทุกอย่างเพราะทุกอย่างสร้างผลดีกับผู้ถือหุ้น การทักท้วงเรื่องใดๆ ก็เพื่อให้นกแอร์ดีขึ้นซึ่งหลังขายหุ้น IPO จะยิ่งส่งผลดีกับนกแอร์ในการขยายธุรกิจต่อไป

ขณะที่นายวิทัยกล่าวว่า กรณีการบินไทยสมาย์ลนั้น ยืนยันว่า ไม่ใช่โลว์คอสต์ ขายตั๋วผ่านเอเย่นต ราคาเปลี่ยนไม่ได้เหมือนกับการบินแต่มีการปรับแบรยด์ใก้กระฉับกระเฉงขึ้น ต่างกับนกแอร์ขายผ่านเวปไซด์ปรับราคาให้เหมาะสมได้ตลอด จึงไมน่าจะเป็นคู่แข่งกัน และการมีจุดแข็งเรื่องโหลดกระเป๋า 15 กก.ฟรี มีของว่างเสริฟ ทำให้ผู้โดยสารนิยมทำให้มีรายได้/ที่นั่ง/กม.สูงถึง 2.82 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น