xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยเหนือ1,600จุดกลุ่มพลังงาน-แบงก์หนุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการายวัน - หุ้นไทยพุ่ง 22 จุด แรงซื้อกลุ่มพลังงาน - แบงก์หนุน หลังผลประกอบการบจ.ในประเทศ และต่างแดนออกมาดี อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจต่างแดนพุ่ง ไร้ปัจจัยลบ คาดวันนี้(8พ.ค.) ไปต่อ ด้านก.ล.ต. ออกโรงขอ บล.จัดทำข้อมูลสำคัญในเชิงวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 10 หรือ 20 อันดับแรก เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน เหตุหลายตัวค่าP/E แรงเวอร์ อีกหลายหลักทรัพย์ต้องใช้เฉพาะเงินสดลงทุน เริ่ม 1มิ.ย.นี้

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้ (7พ.ค.) ปิดที่ระดับ 1,601.15 จุด เพิ่มขึ้น 22.20 จุด หรือ 1.41% มูลค่าการซื้อขาย 48,238.87 ล้านบาท ดัชนีขึ้นมายืนเหนือ 1,600 จุดได้สำเร็จ โดยได้รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงานและแบงก์เข้ามา ตอบรับผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนทั้งไทยและต่างประเทศที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและสหภาพยุโรปที่เริ่มดีขึ้น ระหว่างวันแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,601.18 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,572.74 จุด

หลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 386 หลักทรัพย์ ลดลง 105 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 298 หลักทรัพย์
ส่วน หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ CPALL(XD) มูลค่าการซื้อขาย 3,685.23 ล้านบาท ปิดที่ 42.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 2,429.08 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท ลดลง 0.75 บาท ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,894.85 ล้านบาท ปิดที่ 270.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,820.51 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท MAKRO มูลค่าการซื้อขาย 1,462.41 ล้านบาท ปิดที่ 754.00 บาท ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า แม้มีแรงเทขายทำกำไรออกมาบ้างในช่วงเช้า แต่ ก็มีแรงซื้อในหุ้นขนาดใหญ่เข้ามาในกลุ่ม พลังงานและธนาคาร ส่งผลให้ดัชนีพลิกกลับมาบวกและดีดตัวแรง โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีปรับตัวขึ้นมา เพราะตลาดหุ้นต่างประเทศนั้นจะสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ หลังจากตัวเลขผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนออกมาดี ซึ่งรวมถึงบริษัทจดทะเบียนของไทยด้วย อีกทั้ง กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ส่วนอัตราว่างงานปรับตัวลดลง

ทำให้ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้(8 พ.ค.) ดัชนีน่าจะไปต่อได้หลังจากทะลุ 1,600 จุด และในปลายสัปดาห์คาดว่าจะขึ้นไปทดสอบที่แนวต้าน 1,620-1,630 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนทั้งในไทยและต่างประเทศ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯและสหภาพยุโรปที่เริ่มเห็นการปรับตัวดีขึ้น แนวรับคือ 1,585-1,590 จุด และแนวต้าน 1,603-1,608 จุด

ก.ล.ต.จี้ บล.ทำข้อมูลสำคัญในหุ้นปริมาณการซื้อขายสูง

ขณะเดียวกัน วานนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. สนับสนุนบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จัดทำข้อมูลสำคัญในเชิงวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุด 10 หรือ 20 อันดับแรก เพื่อให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่สนใจไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ก.ล.ต. ขอความร่วมมือจากสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเพื่อผลักดันให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จัดทำข้อมูลสำคัญในเชิงวิเคราะห์ของหลักทรัพย์ (company report) ที่ลูกค้าสนใจลงทุนจำนวนมาก สำหรับหลักทรัพย์ที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 20 อันดับแรกของลูกค้าทุกประเภทของ บล. แต่ละแห่ง หรือหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายสูงสุด 10 อันดับแรกของลูกค้าบุคคล อย่างใดอย่างหนึ่ง ในรอบหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ในกรณีที่หลักทรัพย์เหล่านั้นยังไม่มีบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (full report) โดยมีผลตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ จากสถิติช่วงที่ผ่านมา ผู้ลงทุนทั่วไปในประเทศมีมูลค่าการซื้อขายหุ้นที่มีค่าอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) สูง และหุ้นที่เข้าเกณฑ์ต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวน (cash balance) ในสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้ลงทุนกลุ่มอื่น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่ไม่มีบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานที่จัดทำโดย บล. ประกอบกับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีผู้ลงทุนรายใหม่เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้น การจัดทำ company report จะทำให้ผู้ลงทุนทั่วไปมีข้อมูลมากขึ้นเพื่อใช้ในการตัดสินใจลงทุน
กำลังโหลดความคิดเห็น