xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

อย่าปล่อยให้คนซื้อ “ไม้ล้างป่าช้า” ลอยนวล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-“หยุดวิจารณ์กันได้หรือยัง เมื่อบอกว่าใช้ไม่ได้ก็ใช้ไม่ได้ แล้วเราเลิกใช้กันมานาน 2-3 ปีแล้ว ส่วนใครจะผิดหรือถูก ไปฟ้องร้องในศาลเอาเอง ส่วนกรณีที่ยังมีกำลังพลบางส่วนนำจีที 200 มาใช้ตรวจหาระเบิดอยู่ เพราะยังไม่มีอุปกรณ์อื่นนั้น เขาใช้ในวิธีภายในของเขา เพราะเขาไม่รู้ว่ามีอุปกรณ์ไหนป้องกันตัวเอง แต่ผมสั่งห้ามใช้ไปแล้ว ถ้าใครจะใช้คงผิดคำสั่ง สำหรับการตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริต อยากให้ไปหาว่าใครทุจริต เพราะการจัดซื้อจัดหามีคณะกรรมการอยู่ และมีการเสนอความต้องการขึ้นมาจากหน่วยที่ใช้ ถ้ามีการทุจริตคงต้องมีการสอบสวน เพราะซื้อมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ไม่เห็นว่าจะมีการทุจริต อย่ามาพูดว่าเป็นการทุจริต การกล่าวหาอะไรต้องมีหลักฐาน รวมถึงผลการสอบสวน”

นั่นคือพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่กล่าวถึงเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด จีที200 หรือที่รู้จักกันในชื่อไม้ล้างป่าช้าหลังศาลอาญากลาง ประเทศอังกฤษ มีคำตัดสินว่านายเจมส์ แมคคอร์มิค เจ้าของบริษัทคอมแทร็คมีความผิดจริงข้อหาฉ้อฉล3กระทงจากการจำหน่ายให้หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นเจตคติที่ดำรงอยู่อย่างยึดมั่นถือมั่นได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าจะว่าไปแล้วก็ไม่น่าแปลกใจอะไรที่พล.อ.ประยุทธ์มีท่าทีเยี่ยงนี้เพราะสังคมรับรู้ดีว่า การจัดซื้อไม้ล้างป่าช้าดำเนินการในช่วงที่ใครเป็นผู้บัญชาการทหารบก ดังนั้น น้องตู่จึงไม่มีทางที่จะมีความเห็นไปในทิศทางอื่น

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องของพี่กับน้อง หากแต่เป็นความเสียหายกับประเทศชาติ ที่สำคัญคือนี่ไม่ใช่เป็นประเด็นว่า กองทัพบกยังคงใช้ไม้ล้างป่าช้าในการปฏิบัติงานอีกหรือไม่ หากแต่สังคมอยากรู้ว่าจะมีคนรับผิดชอบในการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้หรือไม่ ต่างหาก

“อังคณา นีละไพจิตร” ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อเสรีภาพ กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องดังกล่าวประชาชนได้รับผลกระทบจากความผิดพลาดอย่างมาก ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีการท้วงติงว่าเครื่องดังกล่าวไม่สามารถใช้การได้ แต่กองทัพเองก็ยังยืนยันใช้มาตลอด จนกระทั่งวันนี้ชัดเจนแล้วว่าเครื่องดังกล่าวใช้งานไม่ได้ จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานความมั่นคงออกมาแสดงความรับผิดชอบด้วยการขอโทษประชาชน มากกว่าที่จะออกมาปฏิเสธแต่เพียงว่าทุกวันนี้กองทัพได้หยุดใช้อุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว

นอกจากนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป หน่วยงานด้านความมั่นคงจะต้องมีความระมัดระวังในเรื่องดังกล่าวมากขึ้น เพราะต้องไม่ลืมว่ามีชีวิตประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยืนอยู่บนความเสี่ยง เพราะเรื่องของจีที 200 ที่ผิดพลาด ไม่ใช่สิ่งเดียวที่เกิดขึ้น แต่ยังมีเรื่องของบอลลูนที่เคยมีการนำมาใช้แต่ไม่ได้ผลมาแล้ว

“ที่ผ่านมามีประชาชนที่ได้รับผลกระทบเรื่องสิทธิเสรีภาพจากอุปกรณ์ดังกล่าว ทั้งๆ ที่อุปกรณ์ไม่สามารถใช้งานได้ หรือเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เคยนำเครื่องนี้ไปตรวจสอบวัตถุระเบิด และแจ้งว่าไม่พบ แต่ภายหลังกลับเกิดระเบิดขึ้น จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ขอเรียกร้องให้ ผบ.ทบ. ในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงานที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าว ออกมาขอโทษต่อประชาชนจากความผิดพลาดดังกล่าว อย่างน้อยก็จะทำให้เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจกันมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีการเจรจาสันติภาพกันอยู่ เชื่อว่าประชาชนกำลังรอฟังสิ่งนี้จากหน่วยงานด้านความมั่นคง” นางอังคณาเรียกร้อง

ทั้งนี้ ความไร้ประสิทธิภาพของไม้ล้างป่าช้าปรากฏให้สังคมเห็นเมื่อเครือข่ายภาคประชาชนได้พบเห็นความผิดปกติ และได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในห้องล็อกอิน Geneticistแห่งห้องหว้ากอของเว็บไซด์พันทิปดอทคอม จากนั้นการตรวจสอบก็เข้มข้นขึ้นโดยมี ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และนายจุฬา พิทยาภินันท์ นิสิตปริญญาเอกเข้ามามีบทบาทสำคัญในการแสวงหาความเฮงซวยของไม้ล้างป่าช้า กระทั่งรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้สั่งการให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตรวจสอบประสิทธิภาพของจีที200และพบว่าไม่ได้เป็นไปตามราคาคุยเพราะจากการทดลองให้ตรวจหาระเบิดซีโฟร์ 20 ครั้งจีที 200สามารถตรวจเจอเพียง 4 ครั้ง

รัฐบาลในขณะนั้นจึงสั่งยกเลิกการจัดซื้อเพิ่มเติมและให้หน่วยงานราชการที่ใช้อยู่ทบทวนการนำจีที 200มาใช้งาน

“ข้อมูลเราก็หาจากอินเตอร์เน็ตเป็นข้อมูลเปิดธรรมดาๆ พบว่าเครื่องตระกูลนี้เคยมีคนนำไปหลอกขายที่สหรัฐอเมริกา กระทั่งเอฟบีไอออกหมายจับ คนกลุ่มนี้จึงย้ายฐานไปที่อังกฤษพอถูกท้วงติงก็บอกว่าคนที่นำไปใช้ฝึกมาไม่ดีหรือนอนไม่พอ ซึ่งไม่ใช่คำอธิบายทางวิทยาศาสตร์ เมื่อถูกซักหนักเข้าก็ยอกว่าเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เป็นหลักการฟิสิกส์ขั้นสูงสุด คุณไม่รู้หรอก ผมคิดว่าถ้าจีที200ทำได้จริงอย่างที่โฆษณาต้องได้รางวัลโนเบลไปแล้ว”

“คำถามคือคนซื้อซื้อมาได้อย่างไร ทำไมไม่ทดสอบ ดูแค่เสปกเมื่อนำสินค้ามาเทียบกับเสปกว่าตรงก็ซื้อแล้วหรือ ในเอกสารโฆษณาขายเครื่องเขียนไว้ว่าหาระเบิดได้เป็นกิโลฯ คุณก็เชื่อหรือ” ผศ.ดร.เจษฎาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก พร้อมทั้งระบุด้วยว่า “ประเด็นที่เป็นโจทย์ยากที่สุดในการพิสูจน์คือคำพูดของผู้ใช้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีจีที 200 ดีกว่าไม่มี” ซึ่งเป็นคำถามที่ตรงกับสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าว

แน่นอน จนถึงขณะนี้แม้จะยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าใครผิด แต่จากการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษและการไต่สวนของ ป.ป.ช.ที่มี “วิชัย วิวิตเสวี” เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนมีแนวโน้มออกมาในทิศทางเดียวกันคือเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้อง ปล่อยให้เอกชนใช้คู่เทียบเข้าเสนอราคาโดยมีการแบ่งกันเสนอราคาและลดราคาในขั้นตอนขิงการจัดซื้อ นอกจากนี้การตรวจรับก็ไม่เป็นไปตามหลักการหากแต่อยู่ภายใต้การชี้นำของบริษัทเจ้าของอุปกรณ์

อย่างไรก็ตาม นอกจากกองทัพบกแล้วจากการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษพบว่า บริษัทเอกชนได้เสนอขายเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัยจีที200 และอัลฟ่า 6 ไม่มีประสิทธิภาพให้หน่วยราชการไทย 13 หน่วยงาน จำนวน 1,358 เครื่อง รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้น 1,137,588,990 บาท และโดยเฉพาะไม้ล้างป่าช้าก็ปาเข้าไปร่วม 1,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

หน่วยงานราชการไทยที่จัดซื้อไม้ล้างป่าช้ามาใช้งานก็อย่างเช่น กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพอากาศและกองทัพเรือ

“เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2556 คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ได้มีมติรับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากบริษัทเอกชนได้เสนอขายเครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 และอัลฟา 6 ที่ไม่มีประสิทธิภาพให้กับหน่วยราชการของไทย 13 หน่วยงาน จำนวน 1,358 เครื่อง รวมมูลค่าความเสียหาย 1,137,588,990 บาท

ในการสอบสวนของดีเอสไอได้สอบปากคำผู้กล่าวหา พยานบุคคลที่เป็นคณะกรรมการจัดซื้อและคณะกรรมการตรวจรับ ตลอดจนพยานผู้ใช้เครื่องประมาณ 90 ปาก ให้การยืนยันว่าเครื่องมือทั้ง 2 ชนิดไม่มีประสิทธิภาพและไม่สามารถใช้งานได้จริง นอกจากนี้ยังมีรายงานผลการดำเนินงานการทดสอบประสิทธิภาพเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดและยาเสพติดระยะไกลของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ได้ทำการทดสอบยืนยันว่า เครื่องจีที 200 และอัลฟา 6 ไม่มีประสิทธิภาพด้วยก่อนหน้านี้ ดีเอสไอได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่จัดซื้อเครื่องมือดังกล่าวเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัทจัดจำหน่ายเครื่องจีที 200 และอัลฟา 6 ในข้อหาฉ้อโกง แต่กลับไม่ค่อยมีหน่วยงานใดเข้าให้ข้อมูลมากนัก โดยเฉพาะกองทัพที่เป็นลูกค้ารายสำคัญเนื่องจากจัดซื้อเครื่องจีที 200 ไปเป็นจำนวนมาก และนำไปใช้ในภารกิจสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย”ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ข้อมูล

ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมีปฏิกิริยาต่อไม้ล้างป่าช้าอย่างไร ตราบใดที่กระบวนการยุติธรรมไทยยังเข้มแข็ง เชื่อว่า ในที่สุดแล้วจะต้องหาผู้รับผิดชอบมาลงโทษให้ได้ เพราะสังคมไม่อาจปล่อยให้ “คนซื้อ” ไม้ล้างป่าช้าลอยนวลได้



กำลังโหลดความคิดเห็น