เสียงแช่งจาก “บรรพบุรุษของไทย”!(ตอนสอง)

สอดแนมการเมือง
โดย : ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

“เหลี่ยม”มีขี้ข้ามากมายที่บ้าเงินและอำนาจ แต่ตัวเหลี่ยมเองก็เป็นขี้ข้าของเงินและอำนาจเช่นกัน!

เหลี่ยมกับพวกจึงมีสันดาน “โจร”อยู่ในสายเลือด ขบวนการเหลี่ยมและพวกพ้องจึงเห็นแก่ตัว เอาแต่ได้ ละโมบโลภมาก ไม่รู้จักพอ ไม่สนใจจะทำคุณงามความดี ที่สำคัญไม่รักชาติบ้านเมืองแม้แต่น้อย

เมื่อเหลี่ยมใช้เงินซื้อเสียงชนะการเลือกตั้ง ก็ใช้มือ ส.ส.ส่วนใหญ่ที่ไร้สมองในสภาฯ ตั้งนายกฯ หุ่น และรัฐบาล “โจร” มาใช้กลไกรัฐในการปล้นชาติแบบหน้าด้านๆ โดยเหลี่ยมเป็นนายกฯ ตัวจริงเสียงจริง คอยบงการชี้นิ้วสั่งขี้ข้าในรัฐบาลและรัฐสภา ให้ทำตามความต้องการของเหลี่ยม

วันนี้..ขบวนการ “มหาโจรการเมืองเหลี่ยม” ได้ตั้งตนเป็นใหญ่เหนือผู้คน และทุกองค์กรในแผ่นดินนี้แล้ว ดังนั้น เหลี่ยมจึงพาพวก “โจรการเมือง” ออกปล้นชาติและประชาชนโดยไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนในชาติไทยอีกต่อไป

เรียกว่า..ขบวนการ “มหาโจรเหลี่ยม”นั้น ใหญ่เหนือฝ่ายบริหาร(รัฐบาล) ใหญ่เหนือนิติบัญญัติ(รัฐสภา) ใหญ่เหนือฝ่ายตุลาการ(ศาล) และเหิมเกริมทำตัวใหญ่เหนือ “สถาบันสูงสุด”ในบางกรณีอีกด้วย

การกระทำเช่นนี้ของเหลี่ยมและพวก จึงทำให้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทยกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐสภา อันมี “ประธานาธิบดีเหลี่ยม”เป็นประมุขแทน

รูปธรรมที่ชัดเจน คือ ขณะที่คนไทยทั้งชาติกังวลกับการแถลงปากคำเป็นครั้งสุดท้ายต่อศาลโลกในกรณีนักการเมืองชั่วไทยปล่อยให้เขมรฮุบดินแดนไทยรอบตัวปราสาทพระวิหาร เหลี่ยมกับขี้ข้าในสภาก็ใช้มือที่มากกว่าเลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของ “สส.เสื้อแดง”ขึ้นมาอยู่ในวาระแรก

ดังนั้น เมื่อสภาเปิดอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2556 เหลี่ยมจะใช้ระบบเผด็จการรัฐสภา นิรโทษกรรมคนชั่วที่ทำผิดกฏหมาย ทั้งเผาชาติและฆ่าทหารกับประชาชน รวมทั้งบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ และเผลอๆ เหลี่ยมอาจฉวยโอกาส“ตามน้ำ” เอาตัวเองหลุดจากความผิดทั้งปวงไปด้วย..จริงไหม?

งานนี้..หากเหลี่ยมทำตามแผนชั่วสำเร็จ นิติธรรมนิติรัฐชาติไทยจะพังพินาศ เพราะใครจะโกงชาติ เผาบ้านเมือง ฆ่าทหารกับประชาชน ทำได้หมด แค่ใช้เงินที่โกงชาติมาซื้อ ส.ส.ซื้อเสียงการเลือกตั้ง แล้วใช้เสียงข้างมากหรือเผด็จการรัฐสภา ยกความผิดทั้งปวงทิ้งได้ในทันที

เฮ้อ..สมคำว่า “มหาโจร”ครองเมืองใดเมืองนั้นก็ไร้ขื่อแป การปล้นชาติปล้นประชาชนจึงระบาดไปทุกหย่อมหญ้า!

อีกเรื่องที่เหลี่ยมโกรธเกรี้ยวจนไร้สติ คือ แค่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่เหลี่ยมกำลังใช้พวกมากลากไป “ชำเรา”อยู่ในสภาเท่านั้น “มหาโจรเหลี่ยม”ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทำตัวราวกับหมาบ้าหน้าร้อน ถึงกับประกาศให้ขี้ข้าทุกคนรบกับศาลรัฐธรรมนูญทันที

งานนี้เหลี่ยมคิดจะรวบอำนาจ มาไว้ในกำมือแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด จึงสั่งขี้ข้าในสภาให้แก้รัฐธรรมนูญหลายมาตราเพื่อตัวเอง มิได้แก้ไขเพื่อชาติและประชาชน โดยเฉพาะแก้มาตรา 68 ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ได้ให้สิทธิประชาชนว่า

หากมีการล้มล้างรัฐธรรมนูญผู้รู้เห็นสามารถพิทักษ์ปกป้องรัฐธรรมนูญ ด้วยการยื่นคำร้องต่อ “อัยการสูงสุด”ได้ และหาก “อัยการสูงสุด”ไม่ซื่อตรง ดันเป็นขี้ข้าผู้มีอำนาจทั้งรัฐบาลและรัฐสภา จึงดึงหรือดองคำร้องไว้ด้วยลุแก่อำนาจชนิดไร้เหตุผล หรือร้ายกว่านั้น “อัยการสูงสุด”ดันเสือก “เตะลูกออก”หรือยกคำร้องทิ้งแบบหน้าด้านๆ

กฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 จึงเปิดช่องให้ประชาชนผู้รู้เห็น สามารถยื่นคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เลย

ปกติเหลี่ยมจะไว้ใจขี้ข้าผู้ซื่อสัตย์ของตนเท่านั้น เพราะเหลี่ยมไม่เคยไว้ใจใครง่ายๆ หากไม่ผ่านการพิสูจน์หรือการทดลองใช้งานกันจนไว้ใจ แต่ครั้งนี้เหลี่ยมกลับเชื่อใจ “อัยการสูงสุด”แบบสุดลิ่มทิ่มประตู จนเหลี่ยมได้สั่งขี้ข้าในสภาให้แก้ไขมาตรา 68 ว่า ผู้รู้เห็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญ ต้องยื่นคำร้องไปที่อัยการสูงสุดเพียงทางเดียวเท่านั้น

เรียกว่า..ทรราชเผด็จการรัฐสภาเหลี่ยม หักดิบลดอำนาจและตัดสิทธิประชาชนและศาลรัฐธรรมนูญทิ้งดื้อๆ เลยเครับ!

อืม..อัยการสูงสุดเนี่ยมีอะไรดีนะ เหลี่ยมและขี้ข้าทั้งหลายไม่เคยต่อว่า หรือด่าอัยการสูงสุดให้ได้ยินสักแอะ ที่สำคัญ..ทำไมเหลี่ยมไว้ใจ “อัยการสูงสุด”ถึงขนาดนี้นะ?

งานนี้เหลี่ยมแสดงทีท่า “ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ” จึงสไกป์สั่งขี้ข้าทุกคนว่า ไม่ต้องกลัว..เดินหน้าชนศาลรัฐธรรมนูญ(แม่ง)เลย เพราะอำนาจแก้รัฐธรรมนูญเป็นของฝ่ายนิติบัญญัติหรือรัฐสภา(โว้ย)

พอนายทาสชี้นิ้วให้ขี้ข้าสู้ บรรดาขี้ข้าไร้สมองก็ดาหน้าชนศาลรัฐธรรมนูญทันควัน โดยไม่ดูข้อกฏหมายรัฐธรรมนูญ ที่แยกอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ(รัฐสภา) ฝ่ายบริหาร(รัฐบาล) ฝ่ายตุลาการ(ศาล) และในรัฐธรรมนูญยังระบุไว้ด้วยว่า

หากมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิฉัยตัดสิน และคำพิพากษาถือเป็นข้อยุติ ที่ทุกองค์กรจะต้องปฏิบัติตาม คำว่า..ทุกองค์กรนั้นยังไม่ชัดอีกหรือ? สมองเหลี่ยมและพวกมีรอยหยักน้อยกว่าคนทั่วไปหรือไง จึงโง่งมจนไม่รู้ว่า “ทุกองค์กร”หมายถึงอะไร?

ถามจริงๆ เลยนะว่า..โง่จริงๆ หรือแกล้งโง่ หรือเพราะลุแก่อำนาจและเหิมเกริม จนคิดว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติที่เหลี่ยมกับพวกครองอำนาจอยู่ในเวลานี้ มันยิ่งใหญ่เหนือดิน เหนือฟ้า เหนือสิ่งอื่นใดในชาตินี้เลยหรือ?

คนธรรมดาสามัญที่ไม่ได้เป็นใหญ่เป็นโต ไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้เป็นรัฐบาล ไม่ได้เป็นอดีตนายกฯ แดนไกล ยังรู้อย่างกระจะกระจ่างว่า กฏหมายรัฐธรรมนูญนั้นสำคัญที่สุด ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ คนไทยทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏหมายรัฐธรรมนูญ

ถ้าจะมีคนบ้ากระทำตนอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ ก็เห็นจะมีแต่ไอ้เหลี่ยมแดนไกลดูไบเท่านั้นแหละ ที่ทำตัวเป็นนายกฯ นอกกฏหมายรัฐธรรมนูญ มุ่งแต่ชี้นิ้วให้ขี้ข้า “มหาโจร”ฉีกรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2550 ทั้งๆ ที่มีประชาชนลงประชามติรับรองไว้ถึง 14.7 ล้านเสียง

ทั้งหมดเพราะเหลี่ยมกับพวกหวังจะทำคลอดรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการรัฐสภา “ส้นตีนแดง” เพื่อจะได้รวบอำนาจทุกมิติไปไว้ในกำมือให้ได้นั่นเอง!

งานนี้..ส.ส.และ ส.ว.300 กว่าคน และอดีตประธานสภาขี้ข้าเหลี่ยม จะร่วมกันยื่นหนังสือต้านศาลรัฐธรรมนูญ ว่าไร้อำนาจจะก้าวก่ายการ “ชำเรา”รัฐธรรมนูญของสภา และ ส.ส.-ส.ว.ผู้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะไม่ยอมไปชี้แจงหรือให้ข้อมูลกับศาลรัฐธรรมนูญโดยเด็ดขาดอีกด้วย

ส่วน “ไอ้เต้น”ปากเก่งก็ใช่เล่น สวมบทผู้ร้ายให้ร้ายป้ายสีศาลรัฐธรรมนูญว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดีความ หรือใช้อำนาจกันแบบเรี่ยราดจนไปก้าวก่ายอำนาจสภาฯ ซึ่งพวกตนจะไม่ยอมเด็ดขาด หากศาลฯยังไม่หยุดการกระทำนี้..มีปัญหากับพวกตนแน่นอน

“หัวหน้าแก๊งแดง”อหังการ์แบบนี้ อันธพาลการเมืองคนเสื้อแดงกลุ่มหนึ่งจึงยกพลไปข่มขู่คุกคามที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญทันที โดยได้ขีดเส้นตายให้ผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญทั้งหมดยุติการทำงานทันที

ทีกับศาลรัฐธรรมนูญไทยล่ะก้อ เหลี่ยมกับพวกขี้ข้ากล้าแข็งข้อ แต่กับศาลโลกที่เขมรใช้เป็นเวทีโกหกตอแหล ปลอมแปลงแผนที่เพื่อจะปล้นดินแดนไทย เหลี่ยมกับพวกขี้ข้ากลับหงอ จนนายกฯหุ่นเชิดประกาศจะทำตามคำตัดสินของศาลโลกทุกประการ

งานนี้..จึงได้ยินเสียงบรรพบุรุษไทย ก่นด่าสาปแช่งไอ้เหลี่ยม กับนักการเมืองชั่วๆ พวกนี้อีกครั้งว่า..ไปลงนรกเสียเถอะ..ไอ้เหลี่ยมและไอ้ลูกหลานจัญไรเวรตะไลบรรลัยจักรปักหัวพวกเอ็ง..!