ว่าที่ ปธ.วุฒิสภา ลั่นทำหน้าที่เป็นกลาง แม้จะอภิปรายเข้าข้าง รบ. ยึดหลักนิติธรรมนิติรัฐ ไม่ทำตามกระแส ชี้การทำงานที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ เผยรอง ปธ.วุฒิสภาคนใหม่ได้ทั้งเลือกตั้ง-สรรหา เห็นด้วยแก้ รธน.ให้ ส.ว.เลือกตั้ง แนะอย่าลุยวาระ 3 ให้แก้รายมาตรา
วันนี้ (14 ส.ค.) นายนิคม ไวยรัชพานิช ส.ว.ฉะเชิงเทรา ว่าที่ประธานวุฒิสภา กล่าวภายหลังที่ประชุมมีมติลงคะแนนเลือกให้เป็นประธานวุฒิสภาคนต่อไปว่า ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่ลงคะแนนให้ ซึ่งในตอนก็ไม่ได้มั่นใจว่าจะชนะ หลังจากนี้ตนก็จะปฏิบัติหน้าที่ตามข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ส่วนในการอภิปรายในสภาฯ นั้น หลายท่านก็ได้เห็นมาแล้วว่าตนมีความเป็นกลาง เพียงแต่ในบางครั้งอาจจะมีการอภิปรายที่ดูเหมือนจะสนับสนุนทางฝ่ายรัฐบาล จึงอาจถูกมองว่ามีเจตนาไม่เป็นกลาง
อย่างไรก็ตาม นายนิคมยืนยันว่าจะไม่ทำตามกระแสกดดันทางการเมือง แต่จะยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรมเป็นหลัก เห็นได้จากที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดใด ตนก็จะสนับสนุนและหาทางออกที่ช่วยให้ประเทศเดินหน้า อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนตนก็ให้การสนับสนุน เพื่อให้การทำงานบรรลุสู่เป้าหมาย ส่วนในเรื่องการปรองดองนั้นตนเห็นว่าต้องมีการทำความเข้าใจ และรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน
ส่วนการทำงานที่ในฐานะรองประธานรัฐสภานั้น นายนิคมกล่าวว่าไม่ต้องกังวล เพราะตนจะทำหน้าที่โดยยึดตามกฎหมาย ข้อบังคับอย่างเคร่งครัด ซึ่งตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงการทำหน้าที่ของตนแล้ว ซึ่งมีความแม่นยำในเรื่องของข้อกฎหมาย ส่วนการคัดเลือกตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาฯคนที่ 1 แทนตนนั้น นายนิคมกล่าวว่า ก็แล้วแต่สมาชิกในที่ประชุมจะเป็นผู้คัดเลือก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 มาจากสายเลือกตั้ง จะทำให้มีปัญหาในการทำงานกับสมาชิกสายสรรหาหรือไม่ เพราะทั้งประธานและรองทั้ง 2 คนก็ล้วนมาจากสายเลือกตั้งทั้งสิ้น นายนิคมกล่าวว่า ตนเชื่อว่าหากรองประธานคนที่ 1 มาจากสายเลือกตั้งก็ไม่น่าจะมีปัญหา อย่าไปแยกแยะมาว่ามาจากสายเลือกตั้งหรือสรรหา อย่างไรก็ตาม บทบาทของวุฒิสภาต่อจากนี้ไปก็จะต้องเป็นหลักให้กับบ้านเมือง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยังเห็นสมควรว่า ส.ว.จะต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมดหรือไม่ นายนิคมกล่าวว่า ตนเห็นว่าการให้สิทธิแก่ประชาชนในการเลือกผู้แทนก็น่าจะเป็นหลัก และไม่ได้หมายความว่าหากมีการออกกฎหมายในลักษณะเช่นนี้จะเป็นการลิดรอนสิทธิของฝ่ายสรรหา
ส่วนการลงมติเรื่องรัฐธรรมนูญในวาระ 3 นั้น นายนิคมเห็นว่า สมควรที่จะให้หยุดในเรื่องนี้ไว้ก่อน เพื่อเอากลับไปดูว่ามีข้อบกพร่องตรงไหน อีกทั้งจะต้องมีการนำกลับไปทำประชามติ เพื่อฟังความคิดเห็นของประชาชน ส่วนมาตราใดที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็ให้แก้ไขเป็นรายมาตราไป