วธ.เผยผล 2 รองอธิบดี “กฤษฎา” นั่ง สวธ.“สุรีรัตน์” กรมศิลป์ “สมชาย” ระบุ เสียงเอกฉันท์ มั่นใจรองอธิบดี แก้ปัญหาได้
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้มีการสรรหาผู้บริหาร วธ.แต่งตั้งเป็นผู้บริหารระดับต้น วธ.(เทียบเท่าซี 9) ใน 2 ตำแหน่ง ได้แก่ รองอธิบดีกรมศิลปากร และรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) นั้น ขณะนี้ ตนได้ลงนามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ที่ 99/2555 เรื่อง ให้โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยให้ นายกฤษฎา คงคะจันทร์ หัวหน้าสำนักงาน สำนักรัฐมนตรี วธ.ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ นางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม ผอ.สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมศิลปากร
ด้านนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการได้ลงมติคัดเลือกตำแหน่งรองอธิบดีอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้ง 2 คน ถือว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ตรงตามคุณสมบัติของรองอธิบดี ในฐานะที่เป็นผู้นำนโยบายระดับกรมไปปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง และ รัฐบาล โดยเป็นผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถภาพการทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่ง โดยมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มาเป็นผู้ประเมิน ที่สำคัญ ยังมีองค์ความรู้ในการบริหารจัดการในระดับรองอธิบดี สามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้ครบถ้วน ชัดเจน และเห็นแนวทางปฏิบัติเป็นรูปธรรมตามที่ได้เสนอไว้เบื้องต้น อย่างไรก็ดี คาดว่า บุคคลทั้งสองจะเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร ได้
นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้มีการสรรหาผู้บริหาร วธ.แต่งตั้งเป็นผู้บริหารระดับต้น วธ.(เทียบเท่าซี 9) ใน 2 ตำแหน่ง ได้แก่ รองอธิบดีกรมศิลปากร และรองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) นั้น ขณะนี้ ตนได้ลงนามคำสั่งกระทรวงวัฒนธรรม ที่ 99/2555 เรื่อง ให้โอนข้าราชการพลเรือนสามัญ โดยให้ นายกฤษฎา คงคะจันทร์ หัวหน้าสำนักงาน สำนักรัฐมนตรี วธ.ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ นางสุรีรัตน์ วงศ์เสงี่ยม ผอ.สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ไปดำรงตำแหน่ง รองอธิบดีกรมศิลปากร
ด้านนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า คณะกรรมการได้ลงมติคัดเลือกตำแหน่งรองอธิบดีอย่างเป็นเอกฉันท์ ทั้ง 2 คน ถือว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ตรงตามคุณสมบัติของรองอธิบดี ในฐานะที่เป็นผู้นำนโยบายระดับกรมไปปฏิบัติ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง และ รัฐบาล โดยเป็นผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถภาพการทำงานที่เหมาะสมกับตำแหน่ง โดยมีตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน มาเป็นผู้ประเมิน ที่สำคัญ ยังมีองค์ความรู้ในการบริหารจัดการในระดับรองอธิบดี สามารถแสดงวิสัยทัศน์ได้ครบถ้วน ชัดเจน และเห็นแนวทางปฏิบัติเป็นรูปธรรมตามที่ได้เสนอไว้เบื้องต้น อย่างไรก็ดี คาดว่า บุคคลทั้งสองจะเป็นผู้ที่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม และ กรมศิลปากร ได้
