สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ศึกชิงอำนาจรัฐไทยระหว่าง”กำนันสุเทพ”กับ”ไอ้เหลี่ยม”กำลังดุเดือด!
“กำนันสุเทพ”กับ”ไอ้เหลี่ยม”เคยเป็นนักการเมืองในระบอบเก่า ดังนั้น บุคคลทั้ง 2 จึงรู้ดีว่าจุดอ่อน-จุดแข็งของรัฐไทยอยู่ตรงไหน? รู้ว่ารัฐไทยเต็มไปด้วย”ขุมทรัพย์”มหาศาล ที่ทั้งอยู่ในงบประมาณแผ่นดิน และนอกงบประมาณแผ่นดิน
การต่อสู้ของ”กำนันสุเทพ”สู้เพื่อโค่นล้มระบอบชั่วๆของ”ไอ้เหลี่ยม” มุ่งสู่การปฏิรูปชาติไทย
การต่อสู้ของ”ไอ้เหลี่ยม”ไม่ชอบธรรม เพราะต่อสู้รักษาการเมืองชั่วๆแบบเก่า เพื่อตัวเอง-ญาติพี่น้อง-พวกพ้องไม่กี่คน จะได้ปล้นชาติปล้นประชาชนต่อไป
ระบอบการเมืองแบบเก่า ที่เลือกตั้งใช้เงินซื้อเสียงและโกงได้ ซึ่งทำให้”ไอ้เหลี่ยม”ร่ำรวยเงินทองหลายแสนล้าน ในเวลาเพียงแค่ 5 ปี แต่ด้วยสันดานรวยไม่จักพอ “ไอ้เหลี่ยม”จึงแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อจะรวบอำนาจไว้ในกำมือเบ็ดเสร็จเด็ดขาดยิ่งขึ้น
เพื่อจะใช้กลไกรัฐผลาญเงิน-หาเสียง-โกงชาติ ด้วยสไตล์”เหลี่ยมคิด-เอ๋อทำ” เช่น โครงการจำนำข้าวที่ผลาญเงินไปกว่า 6 แสนล้านบาท กู้เงินด้วยข้ออ้างจะแก้ปัญหาน้ำท่วม 3.5 แสนล้านบาท อีกทั้งจะกู้เงินมาผลาญในโครงการไม่จำเป็นอีก 2 ล้านล้านบาท ฯลฯ
การกระทำชั่วช้าสามานย์ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อหาเสียงและหาเงิน เข้ากระเป๋าตนกับพวกพ้อง เป็นทุนในการซื้อเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป ซึ่งเป็นวงจรอุบาทว์ของทุนสามานย์ชั่วร้าย นั่นคือ ”อำนาจต่ออำนาจ-เพื่อ-เงินต่อเงิน”
งานนี้..”ไอ้เหลี่ยม”จึงบงการนายกฯ”เอ๋อ”ผู้เป็นน้องสาว อย่าได้ใจเสาะและต้อง”ด้านเป็นพิเศษ”เข้าไว้ อีกทั้งต้องสู้ไม่ถอย”จนหยดสุดท้าย”!
“ไอ้เหลี่ยม-ปูเอ๋อ”กับพวกขี้ข้า จึงใช้รัฐตำรวจทำงานให้ทั้งลับและเปิดเผย โดยเฉพาะ”หมาต๋า”ที่”มีวันนี้เพราะพี่ให้” ซึ่งทำตัวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักปราบปรามประชาชน ด้วยการระดมยิงแก๊สน้ำตาใส่ประชาชน ที่มีเพียงสองมือเปล่าชนิดไม่ยั้งต่อเนื่องถึง 2 วันเต็มๆ
แต่ประชาชนที่สู้เพื่อชาติก็มิได้ขลาดกลัว ทุกคนกลับหนุนเนื่องไปยืนประจัญหน้า สู้กับแก๊สน้ำตาที่ตำรวจยิงใส่อย่างกล้าหาญ!
รัฐบาล”ปูเอ๋อ”ที่กระทำชั่วไว้มากมาย จึงสูญสิ้นความชอบธรรมในการบริหารชาติไทย เพราะนอกจากจะออกพรบ.ล้างผิดคนชั่วคนโกง ที่ทำลายนิติธรรมนิติรัฐของชาติไทยแล้ว ยังทำชั่วด้วยการใช้เผด็จการรัฐสภา ปิดปากฝ่ายค้านมิให้อภิปรายในสภา และทำผิดกฏหมายด้วยการลงคะแนนให้กัน รวมทั้งยัดไส้เอกสารแก้รัฐธรรมนูญอย่างหน้าด้านๆ เพื่อมุ่งหวังให้สว.ทั้งวุฒิสภามาจากการเลือกตั้ง ฯลฯ
การกระทำของประธาน 2 สภา กับสส.สว.รวมแล้ว 312 คน จึงถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่า-กระทำผิด แต่นายกฯ”ปูเอ๋อ”กลับบังอาจส่งร่างรัฐธรรมนูญที่ฉ้อฉลนี้ ถวายให้”ในหลวงฯ”ทรงลงพระปรมาภิไธย โดยไม่ฟังเสียงห้ามปรามจากทุกฝ่ายในสังคม
แถมหัวหน้าและสส.พรรคเพื่อไทย ยังเสนอหน้าออกมาแถลงข่าว ประกาศไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญอีกด้วย
”ในหลวง”ของปวงชนชาวไทย พระองค์ท่านยังทรงอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่สส.พรรคเพื่อไทยกับนายกฯ”ปูเอ๋อ” ใหญ่โตมาจากไหนจึงทำตัวอยู่เหนือกฏหมายรัฐธรรมนูญ!
เรื่องนี้..แม้คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กร แต่ปปช.ก็ยังทำงานล่าช้ายิ่งกว่าเต่าคลาน ซึ่งอาจทำให้”กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้”หมดแล้ว เพราะสถานการณ์ยามนี้กำลังจะพัฒนา ไปสู่การนองเลือดครั้งใหญ่ของคนไทยอยู่รอมร่อ..
ต้องบอกว่า”ปปช.คุณแน่มาก” หัวใจคุณช่างรื่นรมย์กับวิธีทำงาน”ช้าๆได้พร้าเล่มงาม” โดยไม่สนใจว่า”จะพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น”เลยนะ
อย่างไรก็ตาม..การต่อสู้ที่ไร้ความชอบธรรม ของทักษิณ-ยิ่งลักษณ์กับแก๊ง ที่เป็นโจรการเมืองปล้นชาติปล้นประชาชน สุดท้าย..ก็ต้องพ่ายแพ้คนดี ที่เป็นคนส่วนใหญ่ในชาติแน่นอน..จริงไหม?
ว่าไปแล้ว..การยุทธครั้งนี้ ”กำนันสุเทพ”เสียโอกาสในการใช้พลัง มวลมหาประชาชนเกือบ 2 ล้านคน-พิชิตศึก เพราะไปหลงกลเกม“ขุนทหารป-อ-ป” ที่”เหยียบเรือ 2 แคม”เข้าจังเบอร์
ทำให้ชัยชนะที่ประกาศไว้..ต้องเยิ่นเย้อมาจนทุกวันนี้...
การต่อสู้ของภาคประชาชนบางแห่งในโลก หากผู้นำบางคนยังมีผลประโยชน์ซ่อนเร้น หรือแอบไปตกลงกับ”สีเขียว”ไม่กี่คน ที่คำถึงแต่ผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม มิได้เอาผลประโยชน์ชาติเป็นที่ตั้ง ย่อมทำให้เส้นทางที่ควรเดินหรือต้องเดินให้จบภาระกิจ เกิดความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากจนเกินเหตุ ทำให้ประสบชัยชนะล่าช้าได้ หรือบางครั้งอาจถึงขั้นพ่ายแพ้ได้อีกด้วย
สำหรับประเทศไทยแล้ว..รัฐบาล”ไอ้เหลี่ยม-ปูเอ๋อ” และประธานกับสส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่อยู่ในสภา แต่ทำตัวอยู่เหนือรัฐธรรมนูญ และทำลายนิติธรรมนิติรัฐของชาติไทย ได้ไร้ความชอบธรรมไปแล้วโดยสิ้นเชิง ดังนั้น คนเหล่านี้จะต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ลงในทันที
ส่วนการได้สภาและรัฐบาลดีของประชาชน เพื่อทำงานให้กับชาติและประชาชน จะต้องไม่ข้องแวะกับเครือข่าย ผู้มีผลประโยชน์กลุ่มใหม่ที่เกี่ยวพัน กับกลุ่ม”สีเขียวป-อ-ป”ที่มีผลงานในอดีต ไม่ชอบมาพากลในการซื้ออาวุธไร้คุณภาพ ให้ทหารชั้นผู้น้อยเสี่ยงชีวิตใช้อยู่จนทุกวันนี้ แถมบางคนยังแอบรับใช้”ไอ้เหลี่ยม”อีกด้วย
งานนี้..มวลมหาประชาชนที่ออกมาต่อสู้ โค่นล้มระบอบชั่วๆของ”ไอ้เหลี่ยม” และขับไล่รัฐบาล”ปูเอ๋อ” รวมทั้งคนไทยอีก 65 ล้านคน ต้องได้”ดื่มน้ำฝนที่บริสุทธิ์”ให้ชื่นหัวใจ “น้ำฝนคุณภาพดี”ต้องมาจาก”ฟ้า” ที่สดใสไร้มลภาวะอันเป็นพิษเจือปน..จริงไหม?
ชัยชนะของมวลมหาประชาชนอยู่แค่เอื้อม ขอเพียง”กำนันสุเทพ”ต้องเชื่อมั่นในพลัง ของมวลมหาประชาชนด้วยความจริงใจ และต้องใช้พลังมวลมหาประชาชนเป็นพลังนำ ให้พลังอื่นๆของสังคมเป็นผู้ตาม เพื่อผลักดันการต่อสู้ของประชาชนไปสู่ชัยชนะ มิใช่ให้”สีเขียวขาโจ๋”ไม่กี่คนที่”เหยียบเรือ 2 แคม” มาเป็นผู้กำหนดหนทางการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน
นั่นคือ หลักการที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้”กำนันสุเทพ”ชนะศึก เพื่อบรรลุภาระกิจที่ประกาศไว้!
อีกหลักการที่สำคัญ คือ ต้องเชื่อมั่นเกิน 100 % ว่า ทหารส่วนใหญ่ในกองทัพไทย ที่”ในหลวงฯ”ทรงเป็นจอมทัพ ยังคงเป็นทหารของพระเจ้าอยู่หัว และจะต้องยืนอยู่ข้างประชาชนอย่างแน่นอน เพราะ”ไอ้เหลี่ยม”ใช้เงินซื้อได้ก็แค่ทหารระดับหัวบางคนเท่านั้น
”กำนันสุเทพ”นั้นรู้อยู่แก่ใจว่า การเมืองแบบเก่าที่คุ้นชินนั้น-เน่าเฟะ และกำลังทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกทั้งทำลายชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน ให้ก้าวสู่หายนะอย่างน่าใจหาย
การที่“กำนันสุเทพ”หันมาต่อสู้นอกสภา ร่วมกับมวลมหาประชาชนต่อต้าน ระบอบการเมืองแบบเก่าที่ชั่วช้า ซึ่งตกอยู่ในกำมือของทุนสามานย์”เหลี่ยม” เพราะ”กำนันสุเทพ”เป็นอีกหนึ่งคนในชาติไทย ที่รู้ทันเล่ห์ร้ายของ”ไอ้เหลี่ยม” ที่ใช้กลไกรัฐปล้นชาติปล้นประชาชน และบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์
พัฒนาการทางการเมืองของ”กำนันสุเทพ”นั้น รวดเร็วจนผู้คนตามแทบไม่ทัน จากต่อต้านพรบ.ล้างผิดคนชั่วคนโกง พอมวลมหาประชาชนออกมาสนับสนุนเกือบ 2 ล้านคน ”กำนันสุเทพ”ก็ยกระดับเป้าหมายการต่อสู้ สู่การขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ อันหมายถึงโค่นล้มทั้งรัฐบาลและสภาปัจจุบัน ที่ทักษิณใช้เป็นเครื่องมือก่อกรรมทำเข็ญชาติอยู่ในขณะนี้
“กำนันสุเทพ”ยังเรียกเสียงปรบมือ จากมวลมหาประชาชนอย่างกึกก้อง เมื่อประกาศว่า..จะสถาปนาสภาและรัฐบาลประชาชน เพื่อเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยอีกด้วย
หลัง 5 ธันวาคม”กำนันสุเทพ”เตรียมจะเผด็จศึก งานใหญ่เพื่อชาตินี้จะสำเร็จได้ ต้องใช้พลังมวลมหาประชาชนนับล้านคนนำหน้า แล้วพลังอื่นๆจะหนุนเนื่องออกมาสนับสนุนสู่ชัยชนะแน่นอน!!!
สุดท้าย..ประชาชนขอดื่มกิน”น้ำฝนบริสุทธิ์”จาก”ฟ้า”ที่สดใสไร้มลภาวะนะ”กำนันสุเทพ”!
