xs
xsm
sm
md
lg

ศาลเลื่อนอ่านอุทธรณ์ “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” กับพวก ยักยอกทรัพย์แบงก์บีบีซี

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายเอกชัย อธิคมนันทะ อดีตผู้ช่วย กก.ผจก.ใหญ่บีบีซี จำเลยที่ 3 (แฟ้มภาพ)
เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี “เกริกเกียรติ ชาลีจันทร์” กับ 2 อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ยักยอกทรัพย์แบงก์บีบีซี ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 20 ปี ปรับ 16 ล้าน สั่งจ่ายเงินคืนบีบีซีกว่า 2,000 ล้านบาท ไป 25 พ.ย.นี้ เหตุจำเลยที่ 2 ยังไม่ได้รับหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (13 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดียักยอกทรัพย์ธนาคารกรุงเทพฯพาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) หมายเลขดำ อ.6979/2543 ที่อัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายเกริกเกียรติ ชาลีจันทร์ อายุ 63 ปี (เสียชีวิตแล้ว) อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี, นายวันชัย ธรรมนิติวัฒน์ อายุ 52 ปี อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี และ ผอ.สำนักบริหารเงินและวิเทศธนกิจ คือ และนายเอกชัย อธิคมนันทะ อายุ 61 ปี อดีตผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บีบีซี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานเป็นกรรมการผู้จัดการซึ่งรับผิดชอบการดำเนินการของธนาคารกระทำผิดหน้าที่ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และเบียดบังทรัพย์บีบีซี จำนวน 2,003,344,485.67 บาท

คดีนี้โจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2543 ระบุความผิดจำเลยทั้ง 3 ว่า ระหว่างวันที่ 22 ก.พ.-ต.ค. 2538 จำเลยทั้ง 3 ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงาน ดูแลรักษา ครอบครองและจัดการทรัพย์สินของบีบีซี นายราเกซ สักเสนา (ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง) อดีตที่ปรึกษาของจำเลยที่ 1 และนายอัคนัน คาช็อกกี นักธุรกิจชาวซาอุดีอาระเบีย (ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง) ร่วมกันยักยอกนำเงิน 1,520,000,000 บาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ บีบีซีไปโดยทุจริต โดยมีการวางแผนให้นายอัคนัน กับนายราเกซ ยื่นคำขอสินเชื่อระยะสั้นจำนวน 1,520,000,000 บาท อ้างว่าไปซื้อหุ้นเพื่อเข้าครอบงำกิจการ บริษัท เซมิคอนดักเตอร์ เวนเจอร์ อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ SVI ซึ่งจำเลยได้อนุมัติจ่ายเงินกู้ให้นายอัคนัน ไปก่อนที่จะนำใบหุ้นของบริษัทดังกล่าวจำนวน 29,968,177 หุ้น มาจำนำเป็นหลักทรัพย์ประกันในราคาหุ้นล่ะ 50 บาท รวมวงเงินจำนำ 749,204,425 บาท นอกจากนี้ นายอัคนันยังนำโฉนดที่ดิน ต.หนองพยอม อ. ตะพานหิน จ.พิจิตร รวม 9 แปลง ของบริษัท ท่ายาง คอลซัลท์ จำกัด มาใช้เป็นหลักประกันซึ่งจำเลยให้นายพิเศษ พานิชสมบัติ จำเลยคดียักยอกทรัพย์ บีบีซีหมายเลขดำที่ 4714/2539 ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ทำหลักฐานประเมินราคาที่ดินเป็นเงินทั้งสิน 1,165,000,000 บาท เพื่อให้เป็นหลักฐานว่าใบหุ้นบริษัทและโฉนดที่ดินดังกล่าวมีราคาเพียงพอต่อการอนุมัติให้สินเชื่อ ซึ่งมีนายราเกซ เป็นผู้ดำเนินการนำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงาน บีบีซีเสนอจำเลยที่ 1 อนุมัติสินเชื่อโดยผ่านจำเลยที่ 2 ทั้งที่ความจริงแล้วจำเลยกับพวกไม่ได้มีเจตนาจะนำเอาใบหุ้นมาใช้เป็นหลักประกันแต่มีเจตนาเพื่อแสวงหากำไรจากการซื้อขายหุ้นขณะที่โฉนดที่ดินรวม 9 แปลงดังกล่าวมีราคาประเมินที่แท้จริงเพียง 26,900,000 บาท

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2538 จำเลยทั้ง 3 ยังกระทำผิดต่อหน้าที่โดยทุจริตร่วมกันต่ออายุวงเงินกู้จาก 3 เดือนเป็น 1 ปีและอนุมัติวงเงินค้ำประกันเพิ่มอีกจำนวน 364,981,400 บาท เพื่อค้ำประกันการซื้อหุ้นบริษัท มรกต อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) โดยนายอัคนันได้นำอพาร์ตเมนต์ ที่สหรัฐฯ ราคาประเมิน 700 ล้านบาท และอพาร์ตเมนต์ประเทศฝรั่งเศส ราคาประเมิน 803,571,425 บาท มาเป็นหลักประกันใหม่แทน โฉนดที่ดิน จ.พิจิตร จำนวน 9 แปลง โดยมีการทำหลักฐานว่าหลักประกันดังกล่าวมีราคาเพียงพอต่อการให้สินเชื่อ และเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2538 จำเลยทั้ง 3 ยังร่วมกันยักยอกนำเงินจำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบีบีซีไปโดยวางแผนยื่นคำขอต่ออายุวงเงินกู้และขอวงเงินอาวัลรับรองตั๋วสัญญาจำนวน 300 ล้านบาท ในการให้สินเชื่อแบบเชื่อมต่อในต่างประเทศ ซึ่งนายราเกซเป็นผู้ดำเนินการนำเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมอบให้พนักงานบีบีซีเสนอจำเลยที่ 1 อนุมัติสินเชื่อโดยผ่านจำเลยที่ 2 และวันที่ 25 ก.ค. 38 จำเลยทั้ง 3 ยังร่วมกันอนุมัติสินเชื่อระยะสั้นจำนวน 1 ล้านเหรียญสหรัฐให้กับนายอัคนัน นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 20 มี.ค. - 5 ต.ค. 2538 จำเลยทั้ง 3 ยังร่วมกันใช้บัตรพิเศษผ่านรายการหมายเลข 0109 J อนุมัติสินเชื่อผ่านระบบคอมพิวเตอร์เพิ่มวงเงินสินเชื่อให้นายอัคนันรวม 13 ครั้งเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 307,612,750.04 บาท

โดยศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2550 ว่าจำเลยที่ 1- 3 กระทำผิดจริงตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 มาตรา 307-309 และ 311 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 วรรคแรก 353 และ 354 ให้จำคุกจำเลยคนละ 10 ปี ปรับคนละ 1 ล้านบาท 16 กระทง รวมจำคุกจำเลยคนละ 160 ปี ปรับคนละ 16 ล้านบาท แต่ เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงความผิดแล้วตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ให้จำคุกจำเลยได้คนละ 20 ปี โดยให้จำเลยร่วมกันชดใช้เงินคืนบีบีซีรวม 2,003,344,485.67 บาท และให้นับโทษนายเกริกเกียรติต่อจากคดีศาลอาญากรุงเทพใต้และศาลอาญา มีคำพิพากษาจำคุกรวม 6 สำนวน เป็นเวลา 90 ปี นับโทษนายวันชัยต่อจากคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาหมายเลขแดงที่ 217/2548 ให้จำคุกเป็นเวลา 10 ปี และนับโทษนายเอกชัยต่อจากคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษาหมายเลขแดงที่ 213/2548 ให้จำคุก เป็นเวลา 8 ปี ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์

อย่างไรก็ตาม วันนี้ทนายความจำเลยที่ 2 ได้แถลงต่อศาลว่า นายวันชัย ธรรมนิติวัฒน์ จำเลยที่ 2 ยังไม่ได้รับหมายศาล ศาลพิจารณาแล้วจึงให้เลื่อนฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 09.30 น.
กำลังโหลดความคิดเห็น