xs
xsm
sm
md
lg

บี้รัฐบาลปูจัดการแก๊งทุจริต-งาบหัวคิวพุ่ง50%-ยื่นศาลปค.ล้มTORน้ำ3.5แสนล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - อดีตที่ปรึกษานายกฯปู ยื่นฟ้องศาลปกครอง สั่งเพิกถอนทีโออาร์ เมกะโปรเจกต์บริหารจัดการน้ำมูลค่า 3.5 แสนล้าน พร้อมระงับการยื่นซองประมูล 3 พ.ค.นี้ หวั่นไม่โปร่งใส ด้าน “ธนวรรธน์” ปูดกลางวงสัมมนา ป.ป.ช. รัฐบาลปูงาบหัวคิวพุ่ง 50% “ปลอดประสพ”เมิน! แถมอ้างทุนญี่ปุ่นถอนตัว หวั่นกำไรน้อย แค่อยากเป็นบริษัทที่ปรึกษาฯ

วานนี้ ( 25 เม.ย.) นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตประธานคณะกรรมการผันน้ำทางทะเล ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ด้านการระบายน้ำได้เดินทางมา ยื่นฟ้องคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) ที่ได้ออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ในการบริหารจัดการน้ำ ต่อศาลปกครองกลาง แผนกคดีสิ่งแวดล้อมเพื่อขอให้มีคำสั่งเพิกถอนข้อกำหนดและขอบเขตของงาน หรือทีโออาร์ โครงการออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ทั้ง 10 งานหลัก ที่กบอ. เป็นผู้กำหนด และขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาสั่งให้มีการระงับการยื่นซองประมูลโครงการดังกล่าวใในวันที่ 3 พ.ค.นี้ ที่ทำเนียบรัฐบาลไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา

นายอุเทน กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการใหญ่ที่ต้องศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและด้านอื่นๆ แต่ที่ผ่านมา ยังไม่มีการศึกษาเท่าที่ควร ซึ่งการดำเนินการโครงการต่างๆ ของรัฐบาล จำเป็นจะต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องชอบธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อีกทั้ง ยังฝากถึง ส.ส. ของทุกพรรคการเมือง ให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติบ้านเมืองเป็นหลักด้วย

“การออกทีโออาร์ อาจจะนำมาซึ่งการทุจริตคอร์รัปชั่น ขอให้ศาลเรียกร้องขอเอกสารประกอบแนวคิดต่างๆ ของทีโอทาร์ และขอให้ศาลสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบความโปร่งใสของ ทีโออาร์ด้วย”

วันเดียวกัน สำนักข่าวอิศรา เผยแพร่คำพูดของนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ระบุถึงโครงการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ระหว่างจัดประชุมชี้แจง "แนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ"ตอนหนึ่งว่า จากการสำรวจความเห็นนักธุรกิจไทยเกี่ยวกับปัญหาคอรัปชั่น ร่วมกับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน(ประเทศไทย) ได้รับการยืนยันข้อมูลจากนักธุรกิจว่า งานก่อสร้างบางโครงการในพื้นที่ต่างจังหวัด มีการหักตั้งราคาค่าหัวคิวการดำเนินงานโครงการไว้สูงถึง 50% ของราคางานก่อสร้างทั้งหมด

“นักธุรกิจรายหนึ่งให้ข้อมูลว่า มีงานก่อสร้างของหน่วยงานราชการบางแห่ง ตั้งวงเงินการดำเนินงานไว้สูงเกินกว่าความเป็นจริง 1 เท่า กล่าวคือ งานก่อสร้างราคาจริงอาจจะอยู่ที่ตัวเลข 100 ล้านบาท แต่ไปตั้งราคางานก่อสร้างไว้ 200 ล้านบาท ทำให้ยอดหัวคิวงานโครงการนี้มีราคาสูงถึง 50% ของราคางานก่อสร้างจริง”

จากการสำรวจข้อมูลยังพบว่า ขณะที่ตัวเลขหัวคิวงานก่อสร้างสาธารณูปโภคทั่วไป อยู่ที่ตัวเลข 25-30% ส่วนงานจัดซื้อครุภัณฑ์ ตัวเลขหัวคิวอยู่ที่ 10-15% สูงจากตัวเลขในอดีตที่อยู่ 5-10%

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขหักหัวคิวปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นการตรวจสอบปัญหาการทุจริตในช่วงที่ผ่านมาทำได้ยาก ไม่มีใบเสร็จปรากฏเป็นหลักฐานชัดเจน และไม่มีใครกล้าเปิดเผยข้อมูล หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบจึงทำงานลำบาก ทำให้ตัวเลขงบประมาณที่ไทยเสียหายจากการทุจริตคอรัปชั่น เป็นจำนวนสูงถึง 2-3 แสนล้านบาท”

ด้านนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวถึงกรณีนายอุเทนยื่นศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราว ว่า นายอุเทน ตนเคยเห็นหน้าแต่ไม่เคยพูดคุยกัน และนายอุเทนมีตำแหน่งเยอะแยะไปหมด ที่ไปยื่นไม่เข้าใจว่าร้องเรื่องอะไร อยากจะไปตั้งพรรคหรือทำอะไรก็ให้ไปทำเถอะ อย่าดังแบบนี้ และเรื่องดังกล่าวไม่มีผลอะไรต่อตน

ส่วนการที่กลุ่มร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่นขอถอนตัวออกจากโครงการออกแบบก่อสร้าง เนื่องจากสู้ราคาไม่ได้ ว่า เห็นได้ว่าเราประหยัดงบประมาณอย่างที่สุดแล้ว และสิ่งที่เขาระบุมาในจดหมายขอถอนตัวได้ระบุว่าขอบคุณที่พิจารณาให้เขาผ่านเข้าสู่การประมูล ซึ่งเขาก็เข้าใจทีโออาร์ของเราอย่างดี แต่จากที่ทางบริษัทของญี่ปุ่นได้ประชุมกันแล้วและขอไม่เข้าร่วมทีโออาร์ต่อ และกังวลเรื่อง Maximum Guarantee Price หรือวงเงินสูงสุด หากต่อไปมีอุบัติเหตุและราคาจะสูงกว่าที่ตกลงกันไว้ ซึ่งตนก็ได้ระบุไปว่าหากเกิดอะไรขึ้นมาก็จะไม่ให้ราคาสูงกว่าที่ตกลงกันไว้

สำหรับกรณีทุนญี่ปุ่นกังวลเรื่องการเวนคืนที่ดินในการก่อสร้างโครงการหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า การเวนคืนไม่ใช่ปัญหาเพราะต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกา และรัฐบาลเป็นผู้ออกให้และเป็นผู้จ่ายเงิน แต่บริษัทมีหน้าที่ไปสำรวจว่าพื้นที่ไหนเหมาะสมเท่านั้น และขณะนี้ทางญี่ปุ่นมีความสนใจที่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษา ซึ่งการจะเป็นบริษัทที่ปรึกษาจะมีพันธะเรื่องการก่อสร้างไม่ได้ ซึ่งตรงนี้คาดการณ์ว่าการที่ถอนตัวครั้งนี้เกรงว่าจะได้กำไรน้อยและสนใจการเป็นบริษัทที่ปรึกษามากกว่า เป็นการออกไปด้วยดี และขั้นตอนหลังจากนี้บริษัทที่ยังร่วมประมูลทีโออาร์ก็แข่งขันกันไป ไม่มีการคัดเลือกใหม่ และใครอยากออกอีกก็เชิญตนไม่ง้อ เพราะตนมีหน้าที่หาเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและถูกที่สุด และหลังจากนี้ในวันที่ 3 พ.ค. จะมีการเปิดให้เอกชนที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติยื่นซองอีกครั้ง และจะทราบผลภายใน 15 วัน

นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายรอยล จิตรดอน ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และการเกษตร (องค์การมหาชน) ลาออกจาก กบอ.ว่า ตนไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และกบอ.มีทั้งคณะกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรายชื่อบุคคล ซึ่งใครไม่อยากอยู่ก็สามารถลาออกได้ แต่นายรอยล เป็นเพียงนักวิชาการคนหนึ่งและไม่กระทบกับการทำงาน เพราะขณะนี้เลยขั้นตอนของนักวิชาการไปแล้ว การตัดสินใจเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างอยู่ที่คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างที่นายธงทอง จันทรางศุ เป็นประธาน.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรอยล ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อลาออกจากตำแหน่งกรรมการ กบอ.แล้ว เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา

อีกด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันแถลงเตรียมจัดประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิค ครั้งที่ 2" ระหว่างวันที่ 14-20 พ.ค. 2556 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ โดยจะมีผู้นำประเทศ ที่ตอบรับการเชิญแล้ว 9 ประเทศ ได้แก่ จอร์เจีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทาจิกิสถาน วานูอาตู บรูไนดารุสลาม อิหร่าน บังกลาเทศ พม่า และเกาหลีใต้ และผู้แทนอีก12 ประเทศ รวมทั้งเชิญประธานสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 67 มาเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์หลัก

ทั้งนี้ไทยจะ เผยแพร่แนวพระราชดำริเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมรับรองปฏิญญาเชียงใหม่ ภายใต้หัวข้อ "ภาวะผู้นำและพันธผูกพันเพื่อความมั่นคงด้านน้ำและการเผชิญภัยพิบัติด้านน้ำ" นอกจากนี้จะมีการประชุมด้านธุรกิจเกี่ยวกับน้ำ แซึ่งนายกรัฐมนตรีของไทย จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ด้วย

อีกด้านเมื่อเวลา 10.00 น. นายปลอดประสพ ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จัดการสาธิตและทดสอบความทนทานของถังพลาสติก ของ 4 บริษัทเอกชน ขนาด 2,000ลิตร ที่ปภ. เตรียมจัดซื้อแจกประชาชนในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง จำนวน 2 หมื่นใบ ซึ่งรัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 300 ล้านบาท แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน และมีราคาที่สูง ซึ่งการซื้อถังสแตนเลส และไฟเบอร์กลาส เสนอราคาอยู่ที่ 13,000 บาทต่อถัง ดังนั้น สำนักงบประมาณ จึงจำเป็นต้องหันมาใช้ถังน้ำพลาสติก ราคาอยู่ที่ 7,800 บาทต่อถัง

ด้านนายสุพจน์ โตวิจักษณ์ชัยกุล เลขาธิการสำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำ และอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) กล่าวถึงการซื้อถังเก็บน้ำดังกล่าวว่า จะมีการจัดซื้อถ จำนวน 22,800 ถัง แจกจ่ายไปยังจังหวัดที่ประสบภัยแล้ง 15 จังหวัดที่มีผู้เดือดร้อนจากภัยแล้งเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ ใน 2 สัปดาห์โดยใช้งบประมาณ 200 กว่าล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น