xs
xsm
sm
md
lg

"เฉลิม"โผล่ลงใต้-โวไม่กลัว-สั่งเข้ม "3 จชต.-หาดใหญ่"สงกรานต์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - "เฉลิม" ใจกล้าขาสั่น! ได้ฤกษ์ลง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รดน้ำศพ 2 ทหารกล้าเหยื่อระเบิด ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยสุดเข้ม "ผบ.ทบ." เผย "ปู"ต่อสายตรงเสียใจ เตือนลูกน้องอย่าใจร้อน เลขาฯ สมช.ยัน มาเลย์ไม่เลื่อนเจรจาบีอาร์เอ็น 29 เม.ย.นี้ เผยนายกฯสั่งกำชับ 3 จชต.-หาดใหญ่ หวั่นโจรใต้ป่วนช่วงสงกรานต์ "ยะใส" เย้ยปลด "เฉลิม" ไม่พอต้องปรับยุทธศาสตร์

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (11 เม.ย.) ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นครั้งแรก หลังได้รับมอบตำแหน่งให้ดูแลความมั่นคงชายแดนใต้ โดยได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ ร.ท.เริงฤิทธิ์ โพธิ์สา ผบ.ร้อย ร.4412 และ จ.ส.อ.สรรชัย โสภาวัง ทหารพรานกรม ทพ.ที่ 44 ที่ถูกคนร้ายลอบวางระเบิดเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยพิธีรดน้ำศพมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 ผบ.ตร.ตัวแทน ศอ.บต.พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองกว่า 300 นายเข้าร่วมพิธีเพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่เจ้าหน้าที่ทหารพรานทั้ง 2 นาย ที่พลีชีพเพื่อชาติจนวาระสุดท้ายของชีวิต ซึ่งพิธีรดน้ำศพจัดขึ้นอย่างสมเกียรติโดยทางผู้บังคับบัญชาได้มีการมอบเงินช่วยเหลือจากกองทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเบื้องต้น พร้อมเหรียญบางระจันให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวผู้สูญเสีย และเพื่อนทหาร

หลังจากนั้นจึงมีการเคลื่อนศพ ร.ท.เริงฤิทธิ์ โพธิ์สา ไปขึ้น ฮ.เพื่อนกลับไปบำเพ็ญกุศลที่ที่วัดเชิงเขา ต.ปาลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ส่วน จ.ส.อ.สรรชัย โสภาวัง ขึ้น ฮ.ส่งกลับไปบำเพ็ญกุศล ที่บ้านเลขที่ 91 ม.8 ต.ดุสิต อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช

ในการเดินทางของ ร.ต.อ.เฉลิม ครั้งนี้ได้เดินทางทักทายกับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครองและประชาชน ที่มาร่วมงานตลอดทางที่จะเข้างาน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา มีชุด รปภ.ประจำตัว (บ้านริมคลอง )นำโดย ร.ต.ท.ดวง อยู่บำรุงที่มีการดูแลรักษาความปลอดภัยตามเส้นทางต่างๆ อย่างเข้มงวด

ร.ต.อ.เฉลิม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากนายกฯ ให้มาเยี่ยมข้าราชการและประชาชนโดยอยากเห็นความสามัคคี ไม่อยากให้มีความขัดแย้ง รัฐบาลพยายามทำอย่างไรให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่ นายกฯ มอบหมายให้ตนรับผิดชอบงานในฐานะสายพิราบ ไม่ใช่สายเหยี่ยว จึงไม่มีการใช้ความรุนแรง ประชาชนอาจขัดข้องหมองใจในอดีต ก็ต้องมาคุยกัน ทำอย่างไรให้ได้ข้อยุติ บางคดีหนักใจเพราะมีผู้เสียหาย ซึ่งมีคดี ป.วิอาญา 300 หมาย ต้องมาดูและเสียใจกับทหารทั้งสองคนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติแต่ต้องมาสูญเสียครั้งนี้

ส่วนกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่กล้าลงพื้นที่นั้น ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่สนใจสังคมรับรู้ความเป็นจริง ถ้าตนลงมาเป็นภาระกองกำลังในพื้นที่ การไปมาสร้างภาระหน่วย ทั้งเตรียมความพร้อมดูแลต่างๆ ซึ่งทุกวันนี้มี ผบ.ตร. แม่ทัพภาคที่ 4 ซึ่งคุยกันทุกวันในเรื่องสถานการณ์ใต้ ส่วนลงพื้นที่อีกหรือไม่นั้นบอกยังไม่ได้

**นายกฯสายตรงเสียใจทหารโดนบึ้ม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.ปัตตานี หลายจุดเมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมาจนทำให้ทหารเสียชีวิตว่า ทุกครั้งที่มีทหารเสียชีวิต ในฐานะผู้บังคับบัญชาย่อมรู้สึกเสียใจและโกรธแค้น แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรงตอบโต้ แต่ต้องระมัดระวังตัวให้มากขึ้น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ เพื่อรับฟังสรุปการปฏิบัติงานในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) โดยได้เน้นย้ำนโยบายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.รมน. เรื่องการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งเท่าที่ฟังจากหน่วยเฉพาะกิจ (ฉก.) ทราบว่าได้ทำงานอย่างเต็มที่ แต่ปัญหาคือพื้นที่กว้างไกล มีทั้งเขตเมือง ชนบท และป่าเขา ทหารต้องเข้าไปดูแลทุกพื้นที่ ทำให้การบาดเจ็บและสูญเสียส่วนใหญ่เกิดช่วงเคลื่อนย้ายกำลัง

“ทหารพรานถูกลอบวางระเบิด เพราะห่วงอาสาสมัคร (อส.) จึงได้รีบไปโดยใช้รถเกาะวีว่า คิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร แต่ปรากฏว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน มีการใช้ระเบิดเป็นจำนวนมาก ทำให้รถคว่ำแต่ไม่ได้พัง เพราะเป็นรถเกราะที่ดีพอสมควร แต่ถูกแรงอัดทำให้ทหารพรานเสียชีวิต ซึ่งก็ต้องระมัดระวังต่อไป อีกทั้งยังมีการโจมตีฐาน อส. นิคมอุตสาหกรรมฮาลาล และท่าเรือ ที่มีการระวังป้องกันต่ำ ซึ่งอีกฝ่ายรู้ว่าเมื่อเกิดเหตุก็ต้องมีการเคลื่อนกำลังไปช่วย ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของ ผบ.ร้อยทหารพราน ที่จะนำกำลังเข้าไปช่วยทำให้สูญเสีย เราทำงานที่ต้องเปิดเผยตนเอง และเป้าหมายอ่อนแอมีจำนวนมาก ผมตำหนิอย่างเดียวคือความใจเร็ว ใจร้อนของลูกน้องที่อยากไปช่วยคน จนบางทีลืมห่วงตัวเอง ทุกครั้งจะเป็นอย่างนี้โดยตลอด ผมก็ย้ำว่าให้ช้าลงสักนิด” ผบ.ทบ.กล่าว

"หลังเกิดเหตุนายกฯ ได้แสดงความเสียใจ ซึ่งผมได้เรียนว่าต้องเร่งดำเนินการในเรื่องอื่น ๆ ด้วย เพื่อให้ทันเหตุการณ์ ทั้งเรื่องการพัฒนาและอำนวยความยุติธรรม ควบคู่ไปกับการแสวงหาทางออก ใครมีหน้าที่ตรงไหนก็ทำไป แต่เรื่องหลักคือทำให้ประชาชนในพื้นที่ปฏิเสธความรุนแรง และต้องมาเป็นฝ่ายรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่ออยู่กับเรา เมื่อเราถอนออกมาก็มีคนเข้าไป โดยใช้ความรุนแรงข่มขู่ จนประชาชนเกิดความหวาดกลัว และเข้าเป็นพวก เวลาเราไปเขาก็ดีกับเรา บางครั้งก็นำข่าวมาให้กับเรา แล้วถูกทำร้าย เป็นสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการ อีกทั้งงานด้านการพัฒนา ดำเนินการแล้วเสร็จทุกอย่างก็จะดีขึ้น คนที่ได้รับประโยชน์ก็จะไปต่อต้านคนพวกนี้ เราต้องสร้างประชาชนขึ้นมาเพื่อปกป้องตนเองและเป็นกำลังสนับสนุนเรา”

**สมช.ยันไม่เลื่อนถก'บีอาร์เอ็น'29เม.ย.

ด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการยืนยันจากทางมาเลเซียมาแล้วว่า สำหรับการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นในวันที่ 29 เม.ย.นี้ยังคงมีเหมือนเดิม เนื่องจากการยุบสภาของรัฐบาลมาเลเซียไม่มีผลกระทบต่อการพูดคุยอะไรระหว่างไทยกับกระบวนการก่อความไม่สงบ เพราะมาเลเซียจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ค.นี้

"ขณะนี้แม้จะมีการพูดคุยกับกลุ่มก่อความไม่สงบแต่ก็ยังมีการก่อเหตุความรุนแรง ซึ่งจากการเดินทางไปพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาได้มีการกำชับให้ทางเจ้าหน้าเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในภาพรวมของสถานการณ์แม้จะมีการก่อเหตุความรุนแรง แต่ต้องยอมรับว่ามีความรุนแรงน้อยลง ทั้งนี้เป้าหมายของผู้ก่อความไม่สงบ คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หากมีโอกาสคนเหล่านั้นจะมีการก่อเหตุทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น" พล.ท.ภราดร กล่าว

พล.ท.ภราดร กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์ที่มีการก่อเหตุลอบวางระเบิด 36 จุดที่ จ.ปัตตานีนั้น ขณะนี้ได้มีการเน้นย้ำให้ทาง ปลัดอำเภอ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ของตัวเองแล้ว และจากที่ตนได้รับรายงานมีเพียง 33 จุดเท่านั้น ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนมองว่าเป็นมุมมองของแต่ละคน แต่ในส่วนของรัฐบาลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลที่รับผิดชอบในพื้นที่ภาคใต้แต่อย่างใด เพราะการทำงานยังไม่มีปัญหาอะไร

"สำหรับเดือน เม.ย.ที่มีการก่อเหตุความรุนแรงมาก สาเหตุเนื่องมาจากเดือนนี้มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ของผู้ก่อความไม่สงบ ดังนั้นในส่วนของประชาชนเองจะต้องป้องกันตัวเอง และช่วยกันระมัดระวังการก่อความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มีการกำชับทางกอ.รมน.ภาค 4 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ช่วยดูแลประชาชน แต่ก็เตือนทางเจ้าหน้าที่ให้ดูแลตัวเองด้วย"

** 'อภิสิทธิ์'จี้"ปู"เร่งหาทางออกปัญหาใต้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนรู้สึกหนักใจที่เกิดเหตุขึ้นรายวัน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลหาทางออกโดยต้องเดินหน้าให้มีการพูดคุยต่อในวันที่ 29 เม.ย.เพื่อแสดงจุดยืน ความรับผิดชอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับกรณีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในการพูดคุย จึงให้รัฐบาลมีท่าทีที่ชัดเจน เป็นเอกภาพ นายกฯก็ควรจะได้เรียกประชุมทุกฝ่ายแล้วก็รีบมีข้อสรุปเป็นจุดยืนที่แสดงออกมาชัดเจนจากส่วนของรัฐบาลไทยว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยเรื่องการเลือกตั้งมาเลเซียไม่เป็นเหตุผลที่จะเลื่อน เพราะว่าหน่วยงานที่เขาทำหน้าที่นี้เขาเป็นหน่วยงานประจำ และไม่ได้เป็นประเด็นเชิงนโยบาย

"ส่วนข้อสังเกตของนายเกียรติ อ่อนวิมล ว่ารัฐบาลไทยทำผิดมหันต์ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ ที่รับมาเลเซียเป็นคนกลางจัดการเจรจาเพื่อสงบปัญหาชายแดนภาคใต้ของไทย ทำให้ปัญหาในประเทศ กลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศ ทำให้ปัญหาจังหวัดปัตตานีกลายเป็นปัญหาดินแดนปัตตานีนั้น เป็นคำท้วงติงซึ่งสอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศจำนวนมาก แล้วก็เราก็ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะคิดอย่างไร เพราะว่าเมื่อทำไปแล้ว บางทีบางเรื่องมันก็สายเกินไปที่จะบอกว่า ทำแล้วยกเลิก ทำแล้วแก้ไข ทำแล้วทำผิด ทำใหม่ แนวคิดของนายสมเกียรติรัฐบาลก็ต้องรับฟัง แต่ว่าจะแก้อย่างไรก็เป็นอีกประเด็น เพราะว่าไปขอร้องมาเลเซียเขาเข้ามาแล้ว อยู่ดีๆ จะหันกลับไปบอกว่า ไม่เอาแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย"

**ยะใสชี้ไฟใต้ส่อคล้ายปัญหาไทย-เขมร

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวว่า สถานการณ์ความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นกว่าในสมัยรัฐบาลทักษิณ หรือช่วงหลังปี 47 เหตุตายรายวันนอกจากไม่ลดลงแล้วยังขยายวงกว้างขึ้น และดูเหมือนศักยภาพของฝ่ายก่อความไม่สงบยกระดับคุกคามบุคคลสำคัญในพื้นที่หรือเจาะพื้นที่ไข่แดงได้มากขึ้น ระดับการก่อความรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"สะท้อนชัดเจนว่าการเจรจานอกจากไม่บรรลุผลแล้วยังกลายเป็นเงื่อนไขใหม่ของความรุนแรง และชัดเจนว่ามาเลเซียไม่ได้ใส่ใจต่อแผนเจรจาเท่าที่ควร เอาเรื่องนี้ไปโยงกับการเลือกตั้งซึ่งขาดความแน่นอนและความต่อเนื่อง เช่นเดียวกับทางการไทยที่ทำให้การเจรจาขาดความน่าเชื่อถือ เพราะระดับนโยบายหรือฝ่ายการเมืองขาดเจ้าภาพหรือผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง ไร้ความสามารถ ในขณะที่นายกฯ ก็ไม่มีความรู้ หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินไปแบบนี้ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะซ้ำรอยปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ถืออำนาจอธิปไตยแต่ในนามหรือในทางทางนิตินัยเท่านั้น แต่ในทางพฤตินัยเราเสียพื้นที่ปกครองไปแล้วหลายพื้นที่

แผนการเจรจาถ้ายังไม่สามารถขยายวงได้มากกว่ากลุ่ม BRN การเจรจาก็ไม่มีความหวังอะไร พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นได้แค่หนังหน้าไฟของความล้มเหลว รับหน้ายื้อสถานการณ์ไปวันๆ ความล้มเหลวของรัฐบาลชุดนี้ผิดตั้งแต่โครงสร้าง ครม.ที่ไม่ได้รองรับการแก้ปัญหาไฟใต้ มองเรื่องนี้เป็นปัญหาปลายแถว และปล่อยให้ คนที่เป็นจำเลยสร้างปัญหา อย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มามีบทบาทในการเจรจา ทำให้ทุกอย่างล้มเหลวโดยสิ้นเชิง

แนวทางคลี่คลายสถานการณ์เฉพาะหน้านอกจากต้องปลด ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แล้ว รัฐบาลควรทบทวนยุทธศาสตร์การแก้ปัญหา เอารายงานข้อเสนอแนะของ คณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์แห่งชาติหรือ กอส.กลับมาทบทวนและทำเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้"
กำลังโหลดความคิดเห็น