ASTVผู้จัดการรายวัน-ภรรยา "พล.อ.ร่มเกล้า" จัดงานรำลึก 3 ปี ครบรอบวันเสียชีวิตจากการขอคืนพื้นที่ นปช. ประท้วง อัดดีเอสไอทำคดีถอยหลังเข้าคลอง บ่น เบื่อ เหนื่อย ท้อ จี้รัฐบาลทำคดีให้กระจ่าง "บิ๊กตู่" ฮึม! แดงอย่ารำลึกฝ่ายเดียว เหตุทหารก็ตาย "ธาริต" กล้าพูด ทำคดีไม่ช้า โบ้ยเพราะพยานไม่มี เลยจับใครไม่ได้ เสื้อแดงเหิม ปิดราชดำเนินจัดงาน ประชาชนโวยทำรถติด
วานนี้ (10 เม.ย.) ที่วัดบวรนิเวศวิหาร นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รองเสธ.พล.ร.2 รอ.) พร้อมครอบครัว และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 และอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2รอ.) พ.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21รอ.) รวมถึงเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 25 ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลในการเสียชีวิต พล.อ.ร่มเกล้า จากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ในการขอคืนพื้นจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณสี่แยกคอกวัว และหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญต่างๆ มาร่วมงานด้วย อาทิ พล.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี นพ.ตุลย์ ศรีสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี
นางนิชากล่าวว่า เหตุการณ์ผ่านไป 3 ปี คดีของพล.อ.ร่มเกล้า ยังไม่คืบหน้า ซึ่งผลสรุปของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ระบุว่ามีพยาน และเอกสารจำนวนมากไม่ถูกนำมาประกอบคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยปีแรก ดีเอสไอแถลงว่า พ.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิตจาก นปช. จากนั้นมาเปลี่ยนเป็นฝีมือของชายชุดดำ ต่อมาเปลี่ยนมาสรุปว่า ไม่สามารถสืบหาพยานหลักฐานได้ ซึ่งดีเอสไอต้องทำความกระจ่างให้กับเรา และสังคมว่าเพราะอะไร การแถลงทิศทางคดีถึงเป็นไปในทางที่ถอยหลัง ผลสรุปของคณะกรรมาธิการฯ ประเด็นหนึ่ง คือ การคืนความชอบธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้อาวุธ คือ กรณีที่ช่างภาพญี่ปุ่น และนายวสันต์ ภู่ทอง ไม่ได้เสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ทหาร
"เรามายืนอยู่ตรงนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ทุกคนรู้สึกเบื่อ เหนื่อย ท้อ หวังว่าปีหน้าไม่ต้องกลับมายืนอยู่ตรงนี้และคุยเรื่องนี้อีก ผู้เสียชีวิตทุกคนมีคุณค่าเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นทหารยศใด หรือพี่น้องสีใด แต่ที่จำเป็นต้องหยิบคดี พ.อ.ร่มเกล้า ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในการเรียกร้องความยุติธรรม และเรียกร้องให้สังคมไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เป็นหลักประกันในอนาคตว่าสังคมไทยไม่เสพติดการใช้ความรุนแรง และหากรัฐบาลตั้งใจ จริงใจ ที่ทำให้เรื่องนี้ให้คลี่คลายไปได้ ก็เป็นสิ่งที่เรารอคอย ก็จะสร้างความเชื่อมั่นต่อคนในสังคมต่อระบบนิติรัฐ อยากขอร้องให้รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องการติดตามคดี ส่วนที่มองว่าผู้นำกองทัพอาจจะมีท่าทีอ่อนลงในการช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชานั้น คิดว่าสังคมทหารมีความใกล้ชิด และเป็นครอบครัวเดียวกัน ในงานทำบุญวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ร่วมเป็นเจ้าภาพให้กับพี่น้องที่เสียชีวิตในวันนี้ด้วย แม้ท่านจะไม่ได้มาเอง ส่วนตัวเชื่อมั่นต่อผู้บังคับบัญชาของพล.อ.ร่มเกล้า" นางนิชากล่าว
**"บิ๊กตู่" ฮึม! แดงอย่าพูดรำลึกฝ่ายเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ก็รำลึกไป เพราะมีคนสูญเสีย และตนก็รำลึกอยู่เหมือนกัน เพราะทหารก็สูญเสียและต้องไปหาว่าใครเป็นคนทำ อย่ามาพูดเพียงฝ่ายเดียว ตนไม่อยากทะเลาะขัดแย้งกับใคร แต่ตนต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่และลูกน้องของตน ที่มีทั้งตำรวจ พลเรือน ทหาร ที่สูญเสียว่าใครทำ หากรำลึก ตนก็รำลึกเหมือนกัน ถ้ายังไม่จบ ก็ไม่จบ ส่วนความคืบหน้าคดีของกำลังพลที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น กำลังดำเนินการอยู่ เพราะได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสูญเสียจากเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553ให้ช่วยติดตาม โดยตนจะให้คณะทำงานที่ปรึกษาทางกฎหมายของกองทัพบกทำหนังสือถึงดีเอสไอ ชี้แจงความก้าวหน้าของคดีดังกล่าวด้วย เพราะจะรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ดูแลผู้บังคับบัญชา ความจริงแล้วเราพยายามเร่งรัดติดตาม แต่รู้สึกไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไร ต้องหาให้ได้ว่าใครทำ หากฝ่ายหนึ่งบอกไม่ได้ทำ ก็ต้องมีอีกฝ่ายที่ทำ ต้อองหามา เพราะทหารก็เป็นประชาชนเหมือนกัน
**"ธาริต"ออกตัวโต้ทำคดีไม่ช้า
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 ว่า การสอบสวนคดีการเสียชีวิตมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ดีเอสไอพร้อมชี้แจงกับกองทัพ ส่วนกรณีมีผลสอบอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา พาดพิงการทำงานของดีเอสไอในคดีการเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้า ว่า ไม่ดำเนินการสอบสวนไปตามหลักฐาน ทั้งที่มีพยานชัดเจนนั้น ดีเอสไอจะประสานขอรายละเอียดผลการสอบของอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่สอดคล้อง แตกต่าง หรือยังมีส่วนใดทีขาดตกบกพร่อง จะได้นำมาเป็นประโยชน์ในการสอบสวนคดี
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้า ขณะนี้มีพยานหลักฐานที่พออนุมานได้ว่ากลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเป็นผู้ก่อเหตุ ที่ผ่านมา เคยเสนอให้มีการออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพยานแวดล้อมชี้ว่าเห็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายไปปรากฎตัวในที่ชุมนุมและมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่าต้องเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้าแน่นอน แต่อัยการแนะนำให้ดีเอสไอหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะพยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะลงมือใช้อาวุธสงครามยิง ไม่ใช่แค่พยานแวดล้อม ทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลใดได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลที่คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ดีเอสไอมีเพียงหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้และอยู่ระหว่างการเผยแพร่ภาพถ่ายให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส
**บี้นำผลสรุปอนุกมธ.ฯ ประกอบคดี
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝากถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลดีเอสไอ หลังจากที่พยายามบอกว่าไม่มีชายชุดดำและพยายามเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยขอให้นายธาริต รับข้อมูลการสอบสวนของคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภาที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธาน ซึ่งสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 ที่ระบุว่า ชายชุดดำมีจริง และเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์ และสาเหตุการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ด้วย จึงขอให้ดีเอสไอนำข้อสรุปนี้ไปอยู่ในสำนวนของดีเอสไอด้วย โดยต้องไม่ทำคดีแบบสองมาตรฐาน แต่ต้องมีความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ พร้อมกันนี้ ยังขอเรียกร้องถึงนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลดีเอสไอ อย่าเข้าไปแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ นอกจากนี้ขอให้ใช้ข้อมูลจากผลสรุปการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนฯด้วย
**แดง29 ม.ค.ซัด “ปู” ดองกม.นิรโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ กว่า 1,000 คน นำโดย น.ส.สุดา รังกุพันธ์ ได้ร่วมตัวกันดำเนินกิจกรรมนำดอกกุหลาบสีแดงไปวางที่บริเวณลานประติมากรรม และบริเวณอนุสาวรีย์ปรีดี พนมยงค์ และได้มีการออกแถลงการณ์ในนามของ “แนวร่วม 29 มกราปลดปล่อยนักโทษการเมือง” เรื่อง การติดตามทวงถามร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเหยื่อความขัดแย้งทางการเมืองจากคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมกับเดินทางไปท้วงถามความคืบหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกฎษฎีกา
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับสื่อสาธารณะหลายแห่งว่า ต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้าตั้งแต่ก่อนวันที่ 7 ก.พ.2556 แล้ว แต่ระยะเวลาก็ล่วงเลยมานาน ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรนักโทษการเมืองบางส่วนยังถูกคุมขังอยู่ ไม่ใช่มีแค่ 33 คน ความจริงแล้วยังมีอยู่อีกหลายร้อยคนมีอยู่ 1,857 คน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ดังนั้น อยากวิงวอนให้รัฐบาลสมาชิกรัฐสภาได้ร่วมมือกันช่วยเหลือ
***นปช.ปิดราชดำเนินจัดงานรำลึก
ขณะที่ทางฝั่งแกนนำ นปช. ในช่วงบ่ายวานนี้ ได้มีการเดินขบวนพาเหรดการเมืองรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเดินเท้ามาร่วมวางพวงหรีดอาลัยแนวร่วม นปช. ที่สูญเสียไปในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. และคณะเป็นผู้นำ ทั้งนี้ ยังได้มีการปิดถนนถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึง24.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปิดถนนราชดำเนินดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว เพราะทำให้การจราจรติดขัด เนื่องจากได้มีการนำรถยนต์มาจอดไว้ตลอดแนว ถ.ราชดำเนิน และยังมีแผงขายสินค้า ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำมาตั้งขายของบริเวณทางเท้ารอบๆ ถ.ราชดำเนินด้วย
**ผบช.น.รับลูกแดงตั้งชุดหามือเผาเซ็นทรัล
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้เรียกประชุมชุดพนักงานสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อทำการสอบสวนหาผู้ต้องหาวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์และสถานที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ หลังจากนางธิดา พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช. และทีมกฎหมายของนปช. เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สืบสวนสอบ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวน และตนจะเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด โดยจะลำดับเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าทีมพนักงานสืบสวนที่ลงพื้นที่ในเหตุการณ์ช่วงเม.ย.มีใครบ้าง จากนั้นจะเรียกมาให้ข้อมูล ตั้งแต่ก่อนเหตุไฟไหม้ จนถึงรถดับเพลิงเข้ามาระงับเพลิงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดต่างๆ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 30 วัน ก่อนจะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการต่อไป
ทั้งที่ ผบช.น.ยังฝากถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลช่วยเข้าให้เบาะเเสกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้หาตัวผู้กระทำผิด มาลงโทษและลดความขัดแย้งในสังคม
วานนี้ (10 เม.ย.) ที่วัดบวรนิเวศวิหาร นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยา พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (รองเสธ.พล.ร.2 รอ.) พร้อมครอบครัว และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพน้อยที่ 1 และอดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2รอ.) พ.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ (ผบ.ร.21รอ.) รวมถึงเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 25 ได้ร่วมกันทำบุญอุทิศส่วนกุศลในการเสียชีวิต พล.อ.ร่มเกล้า จากการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อย ในการขอคืนพื้นจากกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณสี่แยกคอกวัว และหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553
นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญต่างๆ มาร่วมงานด้วย อาทิ พล.อ.พะจุณณ์ ตามประทีป อดีตหัวหน้าสำนักงานประธานองคมนตรี นพ.ตุลย์ ศรีสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี
นางนิชากล่าวว่า เหตุการณ์ผ่านไป 3 ปี คดีของพล.อ.ร่มเกล้า ยังไม่คืบหน้า ซึ่งผลสรุปของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน วุฒิสภา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ระบุว่ามีพยาน และเอกสารจำนวนมากไม่ถูกนำมาประกอบคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยปีแรก ดีเอสไอแถลงว่า พ.อ.ร่มเกล้า เสียชีวิตจาก นปช. จากนั้นมาเปลี่ยนเป็นฝีมือของชายชุดดำ ต่อมาเปลี่ยนมาสรุปว่า ไม่สามารถสืบหาพยานหลักฐานได้ ซึ่งดีเอสไอต้องทำความกระจ่างให้กับเรา และสังคมว่าเพราะอะไร การแถลงทิศทางคดีถึงเป็นไปในทางที่ถอยหลัง ผลสรุปของคณะกรรมาธิการฯ ประเด็นหนึ่ง คือ การคืนความชอบธรรมให้กับเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้อาวุธ คือ กรณีที่ช่างภาพญี่ปุ่น และนายวสันต์ ภู่ทอง ไม่ได้เสียชีวิตจากเจ้าหน้าที่ทหาร
"เรามายืนอยู่ตรงนี้เป็นปีที่ 3 แล้ว ทุกคนรู้สึกเบื่อ เหนื่อย ท้อ หวังว่าปีหน้าไม่ต้องกลับมายืนอยู่ตรงนี้และคุยเรื่องนี้อีก ผู้เสียชีวิตทุกคนมีคุณค่าเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นทหารยศใด หรือพี่น้องสีใด แต่ที่จำเป็นต้องหยิบคดี พ.อ.ร่มเกล้า ขึ้นมา เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในการเรียกร้องความยุติธรรม และเรียกร้องให้สังคมไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา เป็นหลักประกันในอนาคตว่าสังคมไทยไม่เสพติดการใช้ความรุนแรง และหากรัฐบาลตั้งใจ จริงใจ ที่ทำให้เรื่องนี้ให้คลี่คลายไปได้ ก็เป็นสิ่งที่เรารอคอย ก็จะสร้างความเชื่อมั่นต่อคนในสังคมต่อระบบนิติรัฐ อยากขอร้องให้รัฐบาล และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในเรื่องการติดตามคดี ส่วนที่มองว่าผู้นำกองทัพอาจจะมีท่าทีอ่อนลงในการช่วยเหลือผู้ใต้บังคับบัญชานั้น คิดว่าสังคมทหารมีความใกล้ชิด และเป็นครอบครัวเดียวกัน ในงานทำบุญวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็ร่วมเป็นเจ้าภาพให้กับพี่น้องที่เสียชีวิตในวันนี้ด้วย แม้ท่านจะไม่ได้มาเอง ส่วนตัวเชื่อมั่นต่อผู้บังคับบัญชาของพล.อ.ร่มเกล้า" นางนิชากล่าว
**"บิ๊กตู่" ฮึม! แดงอย่าพูดรำลึกฝ่ายเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. กล่าวว่า ก็รำลึกไป เพราะมีคนสูญเสีย และตนก็รำลึกอยู่เหมือนกัน เพราะทหารก็สูญเสียและต้องไปหาว่าใครเป็นคนทำ อย่ามาพูดเพียงฝ่ายเดียว ตนไม่อยากทะเลาะขัดแย้งกับใคร แต่ตนต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่และลูกน้องของตน ที่มีทั้งตำรวจ พลเรือน ทหาร ที่สูญเสียว่าใครทำ หากรำลึก ตนก็รำลึกเหมือนกัน ถ้ายังไม่จบ ก็ไม่จบ ส่วนความคืบหน้าคดีของกำลังพลที่บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น กำลังดำเนินการอยู่ เพราะได้รับหนังสือร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสูญเสียจากเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553ให้ช่วยติดตาม โดยตนจะให้คณะทำงานที่ปรึกษาทางกฎหมายของกองทัพบกทำหนังสือถึงดีเอสไอ ชี้แจงความก้าวหน้าของคดีดังกล่าวด้วย เพราะจะรู้สึกเหมือนเราไม่ได้ดูแลผู้บังคับบัญชา ความจริงแล้วเราพยายามเร่งรัดติดตาม แต่รู้สึกไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าไร ต้องหาให้ได้ว่าใครทำ หากฝ่ายหนึ่งบอกไม่ได้ทำ ก็ต้องมีอีกฝ่ายที่ทำ ต้อองหามา เพราะทหารก็เป็นประชาชนเหมือนกัน
**"ธาริต"ออกตัวโต้ทำคดีไม่ช้า
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ เตรียมทำหนังสือทวงถามความคืบหน้าการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐจากเหตุรุนแรงทางการเมืองเมื่อปี 2553 ว่า การสอบสวนคดีการเสียชีวิตมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ดีเอสไอพร้อมชี้แจงกับกองทัพ ส่วนกรณีมีผลสอบอนุกรรมาธิการตรวจสอบข้อเท็จจริงและติดตามความคืบหน้าทางคดีของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ทางการเมือง คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา พาดพิงการทำงานของดีเอสไอในคดีการเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้า ว่า ไม่ดำเนินการสอบสวนไปตามหลักฐาน ทั้งที่มีพยานชัดเจนนั้น ดีเอสไอจะประสานขอรายละเอียดผลการสอบของอนุกรรมาธิการชุดดังกล่าว เพื่อนำมาพิจารณาว่าพยานหลักฐานที่มีอยู่สอดคล้อง แตกต่าง หรือยังมีส่วนใดทีขาดตกบกพร่อง จะได้นำมาเป็นประโยชน์ในการสอบสวนคดี
ทั้งนี้ การเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้า ขณะนี้มีพยานหลักฐานที่พออนุมานได้ว่ากลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเป็นผู้ก่อเหตุ ที่ผ่านมา เคยเสนอให้มีการออกหมายจับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีพยานแวดล้อมชี้ว่าเห็นกองกำลังไม่ทราบฝ่ายไปปรากฎตัวในที่ชุมนุมและมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ จึงเชื่อว่าต้องเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของพล.อ.ร่มเกล้าแน่นอน แต่อัยการแนะนำให้ดีเอสไอหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะพยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะลงมือใช้อาวุธสงครามยิง ไม่ใช่แค่พยานแวดล้อม ทำให้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถออกหมายจับบุคคลใดได้ อย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลที่คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ขณะนี้ดีเอสไอมีเพียงหลักฐานที่เป็นภาพถ่าย ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้และอยู่ระหว่างการเผยแพร่ภาพถ่ายให้ประชาชนช่วยแจ้งเบาะแส
**บี้นำผลสรุปอนุกมธ.ฯ ประกอบคดี
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ฝากถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลดีเอสไอ หลังจากที่พยายามบอกว่าไม่มีชายชุดดำและพยายามเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี โดยขอให้นายธาริต รับข้อมูลการสอบสวนของคณะอนุกรรมาธิการฯ วุฒิสภาที่มีนายสมชาย แสวงการ เป็นประธาน ซึ่งสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ 10 เม.ย.2553 ที่ระบุว่า ชายชุดดำมีจริง และเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนที่ต้องการล้มล้างรัฐบาลอภิสิทธิ์ และสาเหตุการเสียชีวิตของ พล.อ.ร่มเกล้า ด้วย จึงขอให้ดีเอสไอนำข้อสรุปนี้ไปอยู่ในสำนวนของดีเอสไอด้วย โดยต้องไม่ทำคดีแบบสองมาตรฐาน แต่ต้องมีความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ พร้อมกันนี้ ยังขอเรียกร้องถึงนส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลดีเอสไอ อย่าเข้าไปแทรกแซงการทำงานของดีเอสไอ นอกจากนี้ขอให้ใช้ข้อมูลจากผลสรุปการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้นของคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนฯด้วย
**แดง29 ม.ค.ซัด “ปู” ดองกม.นิรโทษ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดต่างๆ กว่า 1,000 คน นำโดย น.ส.สุดา รังกุพันธ์ ได้ร่วมตัวกันดำเนินกิจกรรมนำดอกกุหลาบสีแดงไปวางที่บริเวณลานประติมากรรม และบริเวณอนุสาวรีย์ปรีดี พนมยงค์ และได้มีการออกแถลงการณ์ในนามของ “แนวร่วม 29 มกราปลดปล่อยนักโทษการเมือง” เรื่อง การติดตามทวงถามร่างกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับเหยื่อความขัดแย้งทางการเมืองจากคณะกรรมการกฤษฎีกา พร้อมกับเดินทางไปท้วงถามความคืบหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกฎษฎีกา
โดยเนื้อหาในแถลงการณ์ตอนหนึ่งระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำกับสื่อสาธารณะหลายแห่งว่า ต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้าตั้งแต่ก่อนวันที่ 7 ก.พ.2556 แล้ว แต่ระยะเวลาก็ล่วงเลยมานาน ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรนักโทษการเมืองบางส่วนยังถูกคุมขังอยู่ ไม่ใช่มีแค่ 33 คน ความจริงแล้วยังมีอยู่อีกหลายร้อยคนมีอยู่ 1,857 คน ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ดังนั้น อยากวิงวอนให้รัฐบาลสมาชิกรัฐสภาได้ร่วมมือกันช่วยเหลือ
***นปช.ปิดราชดำเนินจัดงานรำลึก
ขณะที่ทางฝั่งแกนนำ นปช. ในช่วงบ่ายวานนี้ ได้มีการเดินขบวนพาเหรดการเมืองรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเดินเท้ามาร่วมวางพวงหรีดอาลัยแนวร่วม นปช. ที่สูญเสียไปในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองที่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2553 โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. และคณะเป็นผู้นำ ทั้งนี้ ยังได้มีการปิดถนนถนนราชดำเนิน ตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึง24.00น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปิดถนนราชดำเนินดังกล่าว ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่เดินทางสัญจรในบริเวณดังกล่าว เพราะทำให้การจราจรติดขัด เนื่องจากได้มีการนำรถยนต์มาจอดไว้ตลอดแนว ถ.ราชดำเนิน และยังมีแผงขายสินค้า ที่กลุ่มคนเสื้อแดงนำมาตั้งขายของบริเวณทางเท้ารอบๆ ถ.ราชดำเนินด้วย
**ผบช.น.รับลูกแดงตั้งชุดหามือเผาเซ็นทรัล
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้เรียกประชุมชุดพนักงานสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อทำการสอบสวนหาผู้ต้องหาวางเพลิงเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์และสถานที่อื่นๆ ในกรุงเทพฯ หลังจากนางธิดา พร้อมด้วยนายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก แกนนำ นปช. และทีมกฎหมายของนปช. เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อขอให้สืบสวนสอบ เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบในการสืบสวน และตนจะเป็นประธานในคณะทำงาน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิด โดยจะลำดับเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าทีมพนักงานสืบสวนที่ลงพื้นที่ในเหตุการณ์ช่วงเม.ย.มีใครบ้าง จากนั้นจะเรียกมาให้ข้อมูล ตั้งแต่ก่อนเหตุไฟไหม้ จนถึงรถดับเพลิงเข้ามาระงับเพลิงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดต่างๆ โดยคาดว่าจะใช้เวลา 30 วัน ก่อนจะส่งเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการต่อไป
ทั้งที่ ผบช.น.ยังฝากถึงประชาชนที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือมีข้อมูลช่วยเข้าให้เบาะเเสกับทางเจ้าหน้าที่เพื่อจะได้หาตัวผู้กระทำผิด มาลงโทษและลดความขัดแย้งในสังคม