xs
xsm
sm
md
lg

"ถวิล"อัดอย่าพีอาร์จนเวอร์ ชี้โจรใต้ก่อเหตุเย้ยรัฐหงอBRN

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ถวิล"ห่วงกลุ่มหัวรุนแรงอื่นน้อยใจรัฐบาลไทยคุยแค่บีอาร์เอ็น เลยก่อเหตุต่อเนื่องสั่งสอน แนะอย่าโหมพีอาร์สร้างภาพช่วงเจรจาพูดคุยให้มากไป ปชป.บี้แจงเหตุผลเลื่อนเจรจา ด้าน "บิ๊กตู่"ลงใต้ สั่งดูแลเข้มช่วงเทศกาลสงกรานต์

วานนี้ (10 เม.ย.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรมราชดำเนินเสวนา “ถอดบทเรียนการพูดคุยสันติภาพ รัฐไทยกับบีอาร์เอ็น (BRN)” โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องและติดตามสถานการณ์ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้มาพูดคุยในประเด็นการเจรจาระหว่างรัฐบาลและกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น อาทิ เหตุรุนแรงที่มุ่งเป้าไปที่ข้าราชการระดับสูง นักการเมืองท้องถิ่น การเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในประเทศมาเลยเซียเร็วๆ นี้ เป็นต้น

นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการพูดคุย เพราะการพูดคุยเป็นช่องทางที่ต้องทำอยู่แล้ว แต่วิธีการที่เป็นอยู่ยังมีคำถามและอาจไม่ถูกต้อง โดยกลุ่มก่อความไม่สงบเท่าที่เคยถูกพูดถึงมีเยอะมาก ประมาณ9-12กลุ่ม ซึ่งเมื่อรัฐเลือกที่จะไปเจรจากับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจจะสร้างความไม่พอใจกับกลุ่มอื่น จนต้องแสดงตัวออกมา หรือหากกลุ่มที่เจรจาอยู่ คือ ตัวจริง ก็ต้องตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงไม่สามารถสั่งการไปที่แนวปฏิบัติได้ ดังนั้น ตนจึงเชื่อว่าการเจรจาพูดคุยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน

ปัจจัยที่รัฐบาลต้องพึงระวัง คือ อย่ายกระดับไปสู่ประเด็นสากล และต้องไม่ลืมว่านโยบายด้านความมั่นคงที่จะแก้ปัญหาประชาชนมีตั้งเยอะ อย่าไปให้ความสำคัญกับการคุยกับกลุ่มก่อเหตุอย่างเดียว เพราะไม่ได้หมายความว่ากลุ่มดังกล่าวคือตัวแทนของภาคประชาชนจริง อย่าให้ราคากับกลุ่มก่อเหตุมากกว่าภาคประชาชน และอย่าไปชี้นำหรือบงการ กดดันกระบวนการพูดคุย ขณะที่รัฐบาลเอง ก็ไม่ควรเน้นการประชาสัมพันธ์ การตลาดระหว่างการพูดคุยที่มากเกินไป

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เห็นด้วยกับการเจรจา แต่การเจรจาต้องมีใจ ทั้งฝ่ายผู้นำทางการเมือง ทั้งผู้นำทางศาสนา โดยยอมรับว่ารัฐบาลมีความกล้าหาญที่ริเริ่มการเจรจา แต่ยังไม่เห็นการผลักดันมากนักในพื้นที่ และอยากเห็นการปรับแนวทางของฝ่ายปฏิบัติการที่จะต้องสร้างแนวร่วมและการสนับสนุนจากคนในพื้นที่ ที่สำคัญ ผู้นำต้องไปพุดคุยให้ชัดเจน ต้องผลักดันให้ผู้ก่อความไม่สงบวางอาวุธ และยุติแนวคิดแบ่งแยกดินแดน

***บี้รัฐแจงเหตุผลเลื่อนถกบีอาร์เอ็น

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธาน ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มองความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นนับตั้งแต่มีการพูดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็น น่าจะมีความสัมพันธ์กัน เพราะหลังการเจรจา ความรุนแรงก็มีมากขึ้น ที่สำคัญ คือ มีการมุ่งไปที่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาภาคใต้โดยตรง คือ นายนัจมุดดิน อูมา ที่ปรึกษา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แต่กลับไม่มีการส่งสัญญาณใดๆ จากน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ แม้พรรคจะเห็นใจว่าการแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ต้องเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้ผู้นำประเทศ คือ นายกรัฐมนตรีส่งสัญญาณที่มีความชัดเจนมากขึ้นว่าจะมีวิธีการหรือแนวทางในการแก้ปัญหาอย่างไร เพราะขณะนี้ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้นกว่าในปัจจุบัน โดยดูจากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และดูจากความเคลื่อนไหวในพื้นที่ รัฐบาลจึงควรมองเรื่องนี้เป็นสำคัญที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง ส่วนการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เลื่อนออกไปจากเดิมกำหนดวันที่ 29 เม.ย. โดยอ้างว่าติดการเลือกตั้งในประเทศมาเลเซียนั้น ขอสอบถามไปยังรัฐบาลว่าเหตุผลที่แท้จริงของการเลื่อนการพูดคุยออกไปคืออะไร เพราะเท่าที่ตรวจสอบไม่น่าจะเกี่ยวกับการเลือกตั้งในประเทศมาเลเซีย เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพูดคุยไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือกตั้งใหม่ในมาเลเซีย รัฐบาลต้องเปิดเผยเหตุผลที่แท้จริงต่อสังคม

**“บิ๊กตู่”ลงใต้สั่งคุมเข้มเทศกาลสงกรานต์

วันเดียวกันนี้ ช่วงเช้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (รอง ผอ.รมน.) พร้อมด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เพื่อประชุมผู้บังคับหน่วย ภายในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดยมี พล.ท.สกล ชื่นตระกูล แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวบรรยายสรุปผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือน และแนวทางขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในพื้นที่ช่วงต่อไป จากนั้นได้พบปะมวลชน และผู้นำศาสนาท้องถิ่นที่มัสยิดกลาง จ.ยะลา เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับคนในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนลงพื้นที่ว่า นอกจากไปติดตามผลการปฏิบัติงานแล้ว จะไปกำชับเจ้าหน้าที่ในการวางมาตราการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่เขตชุมชนเมืองช่วงวันหยุดยาว ตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรี ขณะเดียวกันจะอวยพรและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานทุกคนให้มีความปลอดภัย และย้ำเตือนให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

สำหรับการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ขณะนี้ยังเป็นเพียงการเริ่มต้น จึงไม่อยากให้สื่อมวลชนตั้งคำถามล่วงหน้ามากนัก แต่ก็ถือเป็นการแสวงหาทางออก โดยสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึง คือ ไทยต้องได้เปรียบ และจะไม่ให้ความสำคัญกับกลุ่มใดเป็นพิเศษ ส่วนผู้ใช้อาวุธกับเจ้าหน้าที่ก็ต้องจับกุมมาลงโทษตามกฎหมาย โดยไม่มีการอ่อนข้อ

***รับฟังข้อเสนอ233อดีตหมายป.วิอาญา

ที่ จ.นราธิวาส ที่ห้องประชุมโรงแรมตันหยง อ.เมือง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. และนายสามารถ วราดิศัย รอง ผวจ.นราธิวาส ได้ร่วมเดินทางมาเปิดเวทีให้ผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จำนวน 233 คน โดยมีทั้งชายและหญิง ซึ่งเคยมีหมายจับ ป.วิ อาญาและหมาย พ.ร.ก. ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อคดีความมั่นคงในพื้นที่ จากยอดรวมทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนของกระบวนการแสดงตนเป็นผู้บริสุทธิ์อีก จำนวนกว่า 800 คน ได้แสดงออกถึงความต้องการที่จะให้ภาครัฐให้การช่วยเหลือ และรับฟังข้อสรุปเพื่อเสนอแนะภาครัฐนำไปแก้ไขและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ การเปิดเวทีดังกล่าว ยังเป็นการลดช่องว่างความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา อาทิ การให้ความช่วยเหลือด้านพัฒนาคุณภาพชีวิตของกลุ่มบุคคลที่เคยถูกกล่าวหามีอาชีพและงานทำอย่างเป็นรูปธรรม การสร้างความเข้าใจกับกลุ่มผู้ประกอบการให้รับกลุ่มผู้ที่เคยถูกกล่าวหาเข้าทำงาน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มเหล่านี้จะไม่เป็นที่ยอมรับของสังคม ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ แถมยังถูกตราหน้าว่าเป็นโจรใต้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่จะต้องเร่งแก้ไข

***ลอบวางบึมเรือประมงปัตตานี

เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น. วานนี้ (10 เม.ย.) เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเรือประมงได้รับความเสียหายทั้งลำ เหตุเกิดที่ท่าเรือโรงน้ำแข็งบ้านบือติง ถ.ปากน้ำ ต.สะบารัง อ.เมืองปัตตานี โดยผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เห็นคนร้ายมากับเรือลำเล็ก แล้วนำระเบิดไปวางไว้ท้ายเรือประมงโชคสุรศักดิ์มนตรี ที่จอดอยู่บริเวณท่าเทียบเรือโรงน้ำแข็งบ้านบือติง เป็นเหตุให้เรือประมงได้รับความเสียหายจมน้ำเกือบทั้งลำ ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าพื้นที่เกิดเหตุ

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ จ.ปัตตานีอีกหลายจุดในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ 1.เหตุปะทะ ฐาน อส.โรงเรียนกะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ยังไม่ทราบความเสียหาย 2.เหตุปะทะ ที่ศูนย์นิคมฮาลาล ม.4 ต.น้ำยอ อ.ปานาแระ จ.ปัตตานี ยังไม่ทราบความเสียหาย 3.เหตุลอบเผาเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์ดีแทกและเผายางรถยนต์พื้นที่ ต.นาปะดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ยังไม่ทราบความเสียหาย และ 4.เหตุลอบเผายางรถยนต์พื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ยังไม่ทราบความเสียหาย
กำลังโหลดความคิดเห็น