“บ้านเก้ากอ” เตรียมตั้งชมรมต้านยาเสพติด ผบก.นครศรีฯ สั่งทุกโรงพักร่วมมือเต็มที่

นครศรีรรมราช - ชุมชน “บ้านเก้ากอ” ร่วมถอดบทเรียน หลังกิจกรรมเดินเท้าต้านยาเสพติดเข้าสู่เมืองหลวงกว่า 800 กม. ลุล่วง เตรียมก่อตั้งชมรมต้านยาเสพติด ประสานเป็นเครือข่ายให้ครอบคลุมทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้บังคับการสั่งผู้กำกับทุกโรงพักร่วมมือเต็มที่

วันนี้ (7 .มี.ค.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังจากกิจกรรมเดินเท้าเข้าสู่เมืองหลวงของชุมชนบ้านเก้ากอ ต.ทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช นำโดยนายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และลูกบ้านกว่า 40 ชีวิ ตร่วมเดินเท้าจากวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร นครศรีธรรมราช ในวันที่ 20 มกราคม 56 โดยตลอดทางแวะพักผ่อนตามวัด และโรงเรียน ร่วมกันเสวนารณรงค์หาทางแก้ปัญหายาเสพติดตั้งแต่ในระดับชุมชน และภารกิจได้ลุล่วง เดินทางถึงทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 6 ก.พ.56 เป็นเวลา 16 วันที่ได้ร่วมกันเดินเท้า สำหรับการถอดบทเรียนครั้งนี้ ได้มีเครือข่ายแกนนำต่อต้านยาเสพติดเข้าร่วมจำนวนมาก

พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่า การแก้ปัญหายาเสพติดที่ถูกต้องนั้นจะต้องเริ่มขึ้นจากชุมชน หยุดเสพหยุดข้องเกี่ยว คนที่สนใจปัญหาของประเทศไทยในเวลานี้ย่อมที่จะรู้จักตำบลทอนหงส์ อำเภอพรหมคีรี ซึ่งชุมชนนี้เข้มแข็งเพียงแห่งเดียวไม่ได้ จะต้องมีความเข้มแข็งเช่นนี้ทุกชุมชน ปัญหายาเสพติดจึงจะหมดไป ในส่วนของตำรวจนั้นในฐานะผู้บังคับการจะสั่งการให้ผู้กำกับทุกสถานีร่วมกันถอดบทเรียนกิจกรรมครั้งนี้ และจัดตั้งแกนนำในแต่ละอำเภอให้เสร็จภายในเดือนมีนาคม และสามารถขยายสร้างเครือข่ายให้ได้ในเดือนเมษายน

ขณะที่นายเฉลิม กาญจนพิทักษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลทอนหงส์ ระบุว่า บทเรียนที่ได้รับจากการเดินเท้าตลอดเวลา 16 วัน จนถึงกรุงเทพมหานครนั้น มีความหลากหลายมาก มีข้อคิดเห็นในแต่ละพื้นที่ที่แตกต่างกัน แต่มีจุดหนึ่งที่ร่วมกันคือ ปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาด ปัญหาเหล่านี้ไม่ใช่ของนายอำเภอ หรือของตำรวจ แต่เป็นของคนไทยทุกคนที่จะต้องร่วมกัน ทุกความคิดเห็นที่ได้รับมาจะนำมาตกผลึก และผสานสร้างเป็นเครือข่ายในการต่อต้านยาเสพติดให้เด็ดขาดมากยิ่งขึ้น

ส่วนนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่าพื้นฐานการปฏิบัติงานที่ดี และประสบผลสำเร็จนั้น ชุมชนสังคมจะต้องมีปัจจัยสำคัญ 2 ประการ คือ 1.ต้องมีกองกำลัง หมายถึงกำลังพล หรือทีมงานสนับสนุนที่ดี และ 2.ต้องมีใจ คือ มีกำลังพลร่วมปฏิบัติงานที่มีอุดมการณ์เข้มแข็ง และมีปัจจัยสนับสนุน ซึ่งในขณะนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลอย่างเต็มที่โดยได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 14.3 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานสมัชชาหมู่บ้านในการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวของประเทศที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าว