ปัตตานี - ผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เรียกร้องให้ถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ และตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะใช้กำลังเข้าปิดล้อมจับกุม รวมทั้งจ้างบุคคลที่ไม่มีอคติกับประชาชนมาทำงานในพื้นที่
วันนี้ (24 ม.ค.) ที่ห้องประชุมขวัญจุฑา 1 โรงแรมปาร์ควิว ปัตตานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. ได้เดินทางเข้ามารับฟังผลการสรุปบทเรียนของการถูกดำเนินคดีจากการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ทำให้มีการบัญญัติกฎหมายพิเศษขึ้น เพื่อบังคับใช้ในการควบคุมผู้ที่เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะใช่คนร้าย หรือผู้กระทำผิด ก่อนที่จะนำไปสู่กกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกระบวนการซักถามของเจ้าหน้าที่ทหารตามศูนย์ต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถูกดำเนินคดีตามอำนาจควบคุมจากกฎหมายพิเศษดังกล่าวเป็นจำนวนมาก หลังศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง ยกประโยชน์ให้จำเลย แต่บางรายกลับถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม และอายัดตัวมาดำเนินคดีต่อไป บางรายถูกแจ้งข้อกล่าวหามากถึง 50 ข้อหา จึงต้องต่อสู้คดีนับครั้งสุดท้ายศาลมีคำพิพากษายกฟ้องหลังจากถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำต่อรายไม่ต่ำกว่า 2-4 ปี นำสู่การไม่ไว้วางใจ เกิดความหวาดระแวงระหว่างประชาชนในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ กลับกลายเป็นห่วงโซ่ของความเกลียดชังมากขึ้น
สำหรับข้อสรุปในการการจัดเวทีถอดบทเรียนในครั้งนี้ โดยมีข้อเรียกร้องให้มีการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ และสอบสวนโดยใช้วิธีการไต่สวนไม่ใช่กล่าวหา เพราะจะทำให้กระทบต่อผู้บริสุทธิ์ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทำงานเคียงข้างกับประชาชนไม่เป็นผู้สร้างเงื่อนไข นอกจากนี้ การต้องเลือกจ้างบุคคลที่จะเข้ามาทำงานในพื้นที่ให้เหมาะสมและเป็นผู้ที่น่าเชื่อถือ ไม่มีความอคติต่อประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีการพาดพิงต่อการจ้างโครงการเร่งด่วนในพื้นที่ หรือลูกจ้าง 4,500 บาท ที่มักสร้างเงื่อนไขกับประชาชนในพื้นที่ด้วยกันเอง นอกจากนั้น ยังได้เรียกร้องให้กองกำลังในพื้นที่ประสานกับผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านก่อนทุกครั้ง และอยากให้มีการตรวจสอบข้อมูลประวัติ และข้อเท็จจริงเสียก่อนที่จะใช้กำลังเข้าปิดล้อมจับกุมแล้วตั้งข้อกล่าวหา เนื่องจากเมื่อไม่มีพยานหลักฐาน หรือไม่มีข้อเท็จจริงก็ถูกศาลพิพากษายกฟ้อง ซึ่งส่งผลให้ประชาชนอย่างเรานั้นเจ็บปวดกับเรื่องดังกล่าว