สภาทาส ?

ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ผ่านวาระรับหลักการไปแล้ว กับการอภิปราย ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา คือ มาตรา 68 มาตรา 190 และมาตรา 237 ซึ่งใช้เวลาอภิปรายกัน 3 วันเต็ม (วันที่ 1-3 เม.ย.)

ที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ไม่แพ้ประเด็นใช้พวกมากชำเรารัฐธรรมนูญก็คือ การเข้ามาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมของ นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา

เนื่องเพราะนายนิคม ได้ร่วมลงชื่อในญัตตติ เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย เมื่อจะมาทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม จึงถูกฝ่ายค้านอภิปราย คัดค้าน ไม่ยอมรับ เพราะถือว่าเป็นผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย หากจะทำหน้าที่เป็นประธาน ก็ขอให้ไปถอนชื่อออกจากการเป็นผู้ร่วมเสนอญัตติก่อน หรือหากไม่ไปถอนชื่อ ก็อย่ามาเป็นประธานในที่ประชุม เลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

แต่นายนิคม ก็ไม่ยินยอม โดยอ้างว่า มีสิทธิ์ทำได้ทั้งสองอย่าง โดยไม่ผิดกฎหมาย และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ก็อภิปรายสนับสนุนนายนิคม

การอภิปรายวันแรก คือวันที่ 1 เม.ย.นั้น จึงวนเวียนอยู่กับเรื่องนายนิคม ทั้งวัน โดยฝ่ายค้านยกคำว่า "จริยธรรม" ของนักการเมืองมาเป็นหลักยึด ในขณะที่ฝ่ายรัฐบาลก็ยกคำว่า"กฎหมาย" มาสู้หัวชนฝา

สุดท้ายจบลงที่ ถ้านายนิคมขึ้นเป็นประธาน ฝ่ายค้านจะไม่อภิปราย จะอภิปรายเฉพาะช่วงที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขึ้นนั่งเป็นประธาน แถมพ่วงด้วยข้อหาหนักที่ นายนิคม ได้รับจากฝ่ายค้านคือ เป็นประธาน ที่กำลังนำวุฒิสภากลับไปสู่ยุค"สภาทาส"อีกครั้งหนึ่ง

เมื่อการโหวตรับหลักการในวาระ 1 ผ่านไป เพียงวันเดียว นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทรรัตนปรีดา ส.ว.ชัยภูมิ ในฐานะรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ก็ประกาศลาออกจากตำแหน่ง

ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับความละอายใจ ที่วุฒิสภาถูกตราหน้าว่าเป็นสภาทาสหรือไม่ แต่เหตุผลที่แจ้งไว้คือ เป็นการทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงแสดงวิสัยทัศน์ ว่าจะขอทำหน้าที่ รองประธานแค่ 2 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้คนอื่นมาทำหน้าที่บ้าง ซึ่งก็ครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่ผ่านมา

ดังนั้นคาดว่า ประธานวุฒิสภา น่าจะบรรจุระเบียบวาระ เพื่อเลือกรองประธานวุฒิสภาคนใหม่ ในวันที่ 9 เม.ย.นี้

การประกาศลาออกของนางพรทิพย์ ก็ทำให้บรรยากาศในวุฒิสภา กลับมาคึกคักอีกครั้ง เพราะเก้าอี้ตัวนี้มีหลายคนหมายปองอยู่

ชื่อที่คาดว่าจะเสนอตัวเข้ามาช่วงชิงเก้าอี้รองประธานครั้งนี้ ก็มี นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ ที่มีสายสัมพันธ์แนบแน่นอยู่กับฝ่ายรัฐบาล น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี ที่มักเคลื่อนไหวร่วมกับกลุ่ม 40 ส.ว. นอกจากนี้ก็มี นพ.อนันต์ วิริยะชัยพานิช ส.ว.สุรินทร์ นายสุรเดช จิรัฐกิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี มาร่วมเป็นแคนดิเดตด้วย

จึงต้องจับตาว่า ใครจะได้เป็นรองประธานวุฒิสภาคนใหม่ และเชื่อว่าเมื่อเห็นชื่อ เห็นตัวตนแล้ว คงบอกได้ไม่ยากว่า สภาสูงแห่งนี้ จะเป็น"วุฒิสภา" หรือ"สภาทาส"อย่างเต็มรูปแบบ